ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป การแต่งงาน หรือการมีคู่ครองอาจไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของชีวิต ทำให้เกิดละครเรื่อง Kazoku no Katachi ที่เล่าถึงเรื่องราวชีวิตคนโสด พร้อมแง่มุมการใช้ชีวิตที่น่าสนใจค่ะ
เพื่อชีวิตบั้นปลายที่อบอุ่น ใครหลายคนเลยหวังว่า จะต้องมีคู่ครอง มีลูก มีครอบครัวที่ดีไว้ดูแลซึ่งกันและกัน แต่ก็ใช่ว่าการสละโสดจะเป็นเรื่องที่ง่ายดาย พออายุเพิ่มขึ้นหน่อย แต่ยังอยู่ตัวคนเดียว ก็จะถูกมองว่าขึ้นคาน ไม่มีใครเอา แต่จริงๆ แล้ว ความโสดที่ว่า อาจไม่ได้เกิดขึ้นเพราะว่าไม่มีใคร แต่มันเป็นเพราะเราเลือกที่จะ “ไม่มี” ต่างหาก และด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป การแต่งงาน หรือการมีคู่ครองอาจไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของชีวิต ทำให้เกิดละครเรื่อง Kazoku no Katachi ที่เล่าถึงเรื่องราวชีวิตคนโสด พร้อมแง่มุมการใช้ชีวิตที่น่าสนใจค่ะ
Kazoku no Katachi เป็นเรื่องราวของ “นากาซาโตะ ไดสุเกะ” (รับบทโดย คาโตริ ชินโงะ) ชายวัย 39 ปีที่ยังโสด! เหตุผลที่โสด เพราะเขาคลั่งไคล้กับการใช้ชีวิตแบบตัวคนเดียวมาก ชนิดว่าถ้ายังไม่ได้รับอนุญาต อย่าได้ก้าวข้ามมาสู่โลกของเขาเลยล่ะ ปัจจุบันไดสุเกะทำงานที่บริษัทเครื่องเขียนชื่อดังแห่งหนึ่ง และซื้อแมนชั่นสุดหรูเอาไว้พักผ่อน และเสพความสุขไปกับการใช้ชีวิตแบบส่วนตัว แต่แล้ววันหนึ่ง ฝันที่วาดไว้ก็ต้องสลาย ความวุ่นวายก็ได้เกิดขึ้น เมื่อจู่ๆ พ่อพร้อมกับลูกติดของภรรยาใหม่ ได้มาขออาศัยอยู่กับเขาด้วย ตั้งแต่ที่พ่อเขามา โลกส่วนตัวของไดสุเกะก็เริ่มถูกรุกล้ำมากขึ้น
และในขณะนั้นเอง ไดสุเกะก็ได้รู้จักเพื่อนบ้านที่อยู่ห้องใกล้ๆ กันชื่อ “คุมาไก ฮานาโกะ” (รับบทโดย จูริ อุเอโนะ) หญิงสาวจอมโวย ที่เคยมาวีนสินค้าในบริษัทของไดสุเกะ แม้เขาและเธอจะเริ่มต้นรู้จักกันในแบบไม่สวยนัก แต่ก็มีอะไรที่คล้ายๆ กัน จนอาจเรียกได้ว่า เป็นคนกลุ่มเดียวกันก็ได้ ฮานาโกะก็เป็นสาวโสดเช่นกันค่ะ เธอเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียว หลังจากหย่าร้างกับสามี ที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมา 1 ปี แต่โลกส่วนตัวของเธอก็ต้องถูกรุกล้ำอีกครั้ง เมื่อวันหนึ่ง แม่ของเธอตัดสินใจอยากจะห่างกับพ่อสักพัก และขอมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเธอในแมนชั่นแห่งนี้ และแล้วเรื่องราววุ่นๆ ระหว่างคน (ตั้งใจ) โสดและครอบครัวอลเวงก็ได้เริ่มต้นขึ้น…
ความน่าสนใจของละครเรื่องนี้คือ ได้ถ่ายทอดชีวิตของคนญี่ปุ่นในยุคปัจจุบันค่ะว่า คนรุ่นใหม่ในสังคม เริ่มพอใจที่จะใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียว คนที่ไม่แต่งงาน หรือไม่มีคู่ไม่ใช่เรื่องที่น่าสงสารอะไรอีกต่อไป แต่กลายเป็นทางเลือกใหม่ ที่ใครหลายคนตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตในเส้นทางนี้ แต่ในขณะเดียวกัน คนที่เป็นพ่อเป็นแม่ ก็อยากให้ลูกแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาสักที จะได้ไม่ต้องอยู่อย่างโดดเดียว มีคนคอยดูแล เป็นเพื่อนชีวิตในยามแก่เฒ่า
– แล้วการใช้ชีวิตคนเดียวมันสนุกยังไง?

ถ้าพูดถึงการใช้ชีวิตตัวคนเดียว อาจเป็นสิ่งที่หลายคนกลัวมากที่สุด ประมาณว่า… “ฉันคงอยู่คนเดียวไม่ได้แน่ๆ แล้วถ้าต้องอยู่คนเดียวจะทำยังไงดีล่ะ ต้องแย่แน่ๆ เลย” แต่สำหรับละครเรื่องนี้แล้ว จะทำให้เราได้อีกมุมหนึ่งของการใช้ชีวิตคนเดียวค่ะว่า มันสนุกและมีความสุขขนาดไหน เรื่องราวด้านนี้ได้ถูกถ่ายทอดโดยไดสุเกะ ชายผู้รักสันโดษ ที่ในแต่ละวันเขาเพลิดเพลินไปกับการใช้เวลากับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายอาทิตย์ละ 6 วัน ตื่นเช้ามาอ่านหนังสือ ค่อยๆ ละเมียดละไมไปกับอาหารเพื่อสุขภาพ พอทำงานเสร็จก็กลับมาจิบเบียร์เย็นๆ พร้อมกับแกล้มอร่อยๆ ในมุมสุดหรูของตัวเอง แบบที่ไม่มีใครมาแย่ง แบบไม่มีใครมากวน เห็นแล้วก็พลอยมีความสุขไปด้วยเลยค่ะ ความอิสระมันสนุกแบบนี้นี่เอง
– เป็นโสดทำไมแต่งงานดีกว่า
แล้วทำไมแต่งงานถึงดีกว่าล่ะ? นี่เป็นคำถามหนึ่งที่ละครคอยตั้งคำถามอยู่ตลอด ในละครไม่ได้เล่าแค่มุมคนโสดที่ยังไม่เคยแต่งงานอย่างไดสุเกะคนเดียวเท่านั้น แต่ชีวิตโสดได้ถูกเล่าผ่าน “ฮานาโกะ” หญิงสาวที่เคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว แต่ทำไมวันนี้เธอถึงตัดสินใจหย่าร้าง และใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียว ซึ่งตรงนี้มันทำให้เราเห็นว่า บางทีการแต่งงานอาจไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของชีวิตก็ได้ค่ะ และการอยู่คนเดียวอาจเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับใครบางคนก็เป็นได้

แท้จริงแล้ว เราอยากแต่งงานจริงๆ หรือแค่หาวิธีหลีกหนีการอยู่ตัวคนเดียวกันแน่ สำหรับคนที่อยู่คนเดียว อาจไม่ได้หมายความว่า เขาไม่มีทางเลือก แต่จริงๆ แล้ว เขาอาจมีตัวเลือกที่มากกว่าการแต่งงานก็ได้ การแต่งงานอาจไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดสำหรับคนทุกคน และชีวิตหลังแต่งงานไม่ได้หมายความว่า จะสวยหรู หรือทำให้หลุดพ้นจากการอยู่คนเดียวเสทอไป อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น หรืออาจกล่าวได้ว่า ของจริงมันเริ่มต้นหลังจากการแต่งงานต่างหาก หลังแต่งงานไป มันสามารถเป็นไปได้ทั้งในทิศทางที่ดีและไม่ดีได้เช่นกัน เหมือนกับชีวิตของฮานาโกะ แม้จะแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาไป แต่ตอนนี้ก็กลับพอใจที่จะกลับมาใช้ชีวิตแบบตัวคนเดียว
– เพราะวิถีชีวิตในสังคมปัจจุบัน อาจทำให้การอยู่คนเดียวเป็นเรื่องปกติ
สมัยก่อนเราอาจมองว่า คนที่ใช้ชีวิตอยู่คนเดียวเป็นเรื่องไม่ปกติ แต่ในสมัยนี้อาจต่างออกไป หลังจากที่พ่อของไดสุเกะ และแม่ของฮานาโกะได้เดินทางมาหาลูกๆ ที่เมืองโตเกียว ลูกๆ อาจรู้สึกว่า ฉันมีความสุขที่ได้อยู่คนเดียว แต่คนเป็นพ่อเป็นแม่นั้นคิดต่างออกไปค่ะ ด้วยความที่ผ่านโลกมาก่อน เคยอยู่กับครอบครัวแบบพร้อมหน้าพร้อมตา พวกเขาเลยไม่เข้าใจสักนิดว่า การอยู่คนเดียวของคนรุ่นใหม่ มันไม่ทำให้เหงาเหรอ แล้วถ้าเหงาจะทำยังไง แม้จะอยู่แมนชั่นหรูๆ แต่นี่ก็ไม่ใช่บ้านเกิด พอกลับมาที่ห้อง ก็ไม่มีใครคอยพูดทักทายว่า “ยินดีต้อนรับ” มันต้องเป็นอะไรที่เหงามากแน่ๆ แต่…

คำพูดนี้ได้สะท้อนถึงการใช้ชีวิตของคนเมืองญี่ปุ่นในสมัยนี้ให้เห็นค่ะว่า เรื่องการอยู่คนเดียวกลายเป็นเรื่องปกติของคนในสังคมไปแล้ว สมัยก่อนผู้คนอาจเคยชินกับการถูกรายล้อมไปด้วยญาติพี่น้องที่แสนอบอุ่น พอโตขึ้นมาหน่อย ก็ต้องแต่งงานมีครอบครัวไป แต่ทุกวันนี้ สังคมได้เปลี่ยนไปแล้ว เรื่องการอยู่คนเดียวของคนเมืองกลายเป็นเรื่องปกติ และการไม่แต่งงานเป็นทางเลือกหนึ่งของชีวิตที่มีคนจำนวนไม่น้อยที่ตัดสินใจเลือกเดินมายังเส้นทางนี้ค่ะ
แต่…การอยู่คนเดียวที่ว่า มันจะดีจริงๆ หรือเปล่า นี่ก็เป็นอีกคำตอบหนึ่งที่ผุดขึ้นมาระหว่างที่ดูละครเรื่องนี้ไปในแต่ละตอนค่ะ แม้ตอนแรกจะเผยให้เห็นชีวิตที่แสนสุขของคนโสดที่อิสระ แต่เรื่องราวก็พยายามดึงคนในครอบครัวอย่างพ่อ แม่ เพื่อนฝูง ครอบครัวเข้ามา จนทำให้เกิดความรู้สึกอบอุ่นเล็กๆ ขึ้นมาในใจ แม้จะวุ่นวายไปบ้าง แต่ก็เต็มไปด้วยความห่วงใย และไออุ่น
บางทีต่อให้ตัดสินใจที่จะอยู่ตัวคนเดียวจริงๆ แต่มันก็เหมือนกับว่า มีสายสัมพันธ์บางๆ อะไรบางอย่างที่ตัดกันไม่ขาด และสายสัมพันธ์ที่ว่าก็คือ “ครอบครัว” นั่นเอง
เรื่องแนะนำ :
– แม้นักแสดงญี่ปุ่นมีอายุเพิ่มขึ้น ก็ยังรับบทพระ-นางได้!?
– สิ่งที่ขาดไปไม่ได้ในละครสืบสวนญี่ปุ่นของแท้!
– ละครญี่ปุ่นที่ชวนให้หลงรักหนังสือ
– สอดส่องปัญหาการกลั่นแกล้งผ่านละครญี่ปุ่น
– ละครญี่ปุ่นรักชาติกับความทรงจำสงครามโลกครั้งที่ 2
ขอขอบคุณรูปภาพและข้อมูล :
http://asianwiki.com/The_State_of_Union
http://hamanosilence.livejournal.com/151609.html
Kazoku no Katachi ep1+2 [review]
http://music-book.jp/video/news/news/116097/img-0