KABAZAIKU งานหัตถกรรมจากเปลือกไม้
Kabazaiku เป็นหนึ่งในงานหัตถกรรมของญี่ปุ่นที่ถือได้ว่ามีเอกลักษณ์และมีการสร้างสรรค์ด้วยความละเอียดอ่อน โดยมีต้นกำเนิดในจังหวัดอาคิตะ สมัยเอโดะนู่นเลยล่ะค่ะ
หากแปลตามตัวอักษรแล้ว Kabazaiku จะหมายถึง งานฝีมือที่ทำจากไม้เบิร์ช แต่จริงๆ แล้ว ไม้ที่ถูกนำมาใช้สำหรับงานหัตถกรรมนี้กลับเป็นต้นเชอร์รี่ (ซากุระ) ซึ่งมีความสวยงาม ทนทาน และสามารถใช้งานได้หลากหลาย นอกจากนี้ยังเป็นอีกหนึ่งต้นไม้ที่ถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น
สำหรับที่มาที่ไปของ Kabazaiku นั้น กล่าวกันว่าสร้างขึ้นโดย Fujimura Hikoroku ผู้ดูแลตระกูล Satake Samurai ผู้ปกครองเมือง Kakunodate ของจังหวัดอะคิตะ ในช่วงปี 1780 ซึ่งมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ทางตระกูลประสบปัญหาทางการเงิน ท่าน Satake ผู้นำในตอนนั้นได้สนับสนุนให้ซามูไรระดับล่างได้ฝึกฝนวิธีการทำ Kabazaiku เพื่อหารายได้เสริม
ในช่วงแรกสิ่งของที่ประดิษฐ์ขึ้นส่วนใหญ่จะเป็นภาชนะขนาดเล็กสำหรับใส่ยาหรือยาสูบที่สามารถใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน แต่เมื่อมีการปฏิรูปเมจิในช่วงปี 1868-1912 เพื่อรวบอำนาจจากรัฐบาลโชกุนโทะกุงะวะกลับคืนสู่จักรพรรดิญี่ปุ่นอีกครั้งหนึ่ง
ซามูไรถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งชนชั้นที่ได้รับผลกระทบเนื่องจากมีการยกเลิกชนชั้นซามูไร อดีตซามูไรเหล่านี้จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องปรับตัวให้เข้ากับสังคมใหม่ ซึ่งบางคนได้นำเอาความรู้จากการทำ Kabazaiku มาประกอบอาชีพหาเลี้ยงปากท้อง ด้วยเหตุนี้ งาน Kabazaiku จึงมีความซับซ้อนมากขึ้นและพัฒนาไปเป็นของประดับตกแต่งที่ใช้กันอย่างแพร่หลายและถือเป็นของดีของเมือง Kakunodate ที่ยังคงมีชื่อเสียงมาจนถึงปัจจุบัน
สำหรับการผลิต Kabazaiku นั้น เปลือกของต้นที่นำไปใช้งานได้จะต้องเป็นต้นไม้ป่าที่อายุ 70-80 ปี เนื่องจากถ้าอายุน้อยกว่านี้ เปลือกจะมีความอ่อนเกินไปและต้นไม้ที่ปลูกนั้นจะมีเปลือกที่ไม่แข็งแรงพอต่อการนำไปใช้ โดยในช่วงฤดูใบไม้ผลิ จะเป็นช่วงที่ชาวบ้านหรือผู้ผลิต Kabazaiku จะเดินป่าขึ้นไปบนภูเขาทางตอนเหนือของญี่ปุ่นเพื่อค้นหาต้นไม้ที่เหมาะสม
และสาเหตุที่หาต้นไม้กันในช่วงฤดูใบไม้ผลิก็เพราะว่า ฤดูนี้เป็นช่วงที่ดอกซากุระบานสะพรั่ง ทำให้ค้นหาต้นเชอร์รี่หรือซากุระนี้ได้ง่ายกว่า พอถึงช่วงปลายฤดูร้อนจนถึงต้นฤดูใบไม้ร่วงหลังฤดูฝนของญี่ปุ่น ชาวบ้านก็จะทำการเก็บเกี่ยวเปลือกของต้นที่ได้มาเล็งเอาไว้ เพราะช่วงเวลานี้เปลือกของต้นไม้จะนิ่มและลอกออกได้ง่ายกว่า
นอกจากนี้ Kabazaiku ยังถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและไม่เป็นอันตรายต่อต้นไม้ในระยะยาว เนื่องจากมีการลอกเปลือกออกเพียง 1 ใน 3 ของต้นไม้เท่านั้น ทำให้มีการหมุนเวียนทรัพยากร เปลือกของต้นไม้ที่ถูกลอกออกไปก็สามารถซ่อมแซมตัวเองได้สำหรับการเก็บเกี่ยวครั้งต่อไป ซึ่งไม่เพียงแต่เปลือกของต้นซากุระเท่านั้น
ชาวญี่ปุ่นยังมีการนำเปลือกของต้น Ooyama และ Kasumi มาใช้ในการทำ Kabazaiku ด้วย และการจัดหาเปลือกไม้ให้เพียงพอทุกปีถือเป็นหนึ่งในความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ของศิลปะ Kabazaiku
ในส่วนของการผลิต Kabazaiku นั้นต้องอาศัยประสบการณ์และทักษะอย่างมาก ซึ่งหลักๆแล้วจะมีอยู่ประมาณ 10 ขั้นตอน ขึ้นอยู่กับประเภทของชิ้นงาน เปลือกไม้ และการออกแบบ
สำหรับภาชนะทั่วไป หลังจากที่ได้เปลือกไม้มาแล้ว ช่างทำ Kabazaiku จะทำการขูดเปลือกเพื่อสร้างพื้นผิวที่นุ่มและสีที่เข้มขึ้น จากนั้นใช้เจลาตินเคลือบพื้นผิวให้แข็งแรง เมื่อแห้งแล้วจึงทำฐานทรงกระบอกและติดเปลือกไม้ด้านใน
ส่วนของ mouth bark หรือส่วนที่มองเห็นได้เมื่อถอดฝาออกจากภาชนะนั้น จะต้องทำอย่างระมัดระวังด้วยมีดขนาดเล็กเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับผลงานทั้งชิ้น
และส่วนที่ยุ่งยากที่สุดก็คือการใช้เปลือกไม้ชิ้นใหญ่ติดกับตัวภาชนะ ซึ่งในการทำนั้นต้องอาศัยอุณหภูมิที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดรอยยับหรือทำให้งานฝีมือเสียหาย ช่างฝีมือที่มีทักษะสูงนั้นสามารถที่จะรู้อุณหภูมิที่เหมาะสมโดยเพียงแค่จุ่มเหล็กลงในถังน้ำเท่านั้น เมื่อประกอบชิ้นส่วนทุกอย่างแล้วจึงขัดด้วยกระดาษทรายและทาน้ำมันก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ
เรื่องแนะนำ :
– สร้างเฟอร์นิเจอร์ง่ายๆ ด้วยตัวเองกับ Planklip
– BambooRoll กระดาษชำระจากไม้ไผ่เพื่อความยั่งยืน
– เก็บตกหนังสือออกใหม่จากงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 26
– ชวนอ่าน “คิริน” เมื่อบางครั้งอัจฉริยะก็ไม่ใช่คำตอบของชีวิต
– เพิ่มพื้นที่สีเขียวที่บ้านให้สดชื่น กับร้านต้นไม้ 5 แห่งในกรุงโตเกียว
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
– https://anything-from-japan.com/
– https://en.wikipedia.org/
– https://www.youtube.com/
– https://anything-from-japan.com/
#KABAZAIKU งานหัตถกรรมจากเปลือกไม้