สมัยอยู่ญี่ปุ่นดิฉันเคยเผลอใช้ภาษาห้าวๆ หรือคำไม่สุภาพอย่างพวก “อิ๊บอ๋าย” หรือ “แด๊ก” กับคุณลุงคุณป้าชาวญี่ปุ่น จนคุณป้าญี่ปุ่นที่อยู่รอบๆ สะดุ้งกันไปเป็นแถวๆ โชคดีที่คุณป้าทั้งหลายเมตตา เข้าใจว่าดิฉันไม่ได้ตั้งใจและช่วยเตือน
กลับมาอีกครั้งกับซีรี่ส์ “ภาษาญี่ปุ่นที่โรงเรียนไม่ได้สอน” …
สมัยอยู่ญี่ปุ่นดิฉันเคยเผลอใช้ภาษาห้าวๆ หรือคำไม่สุภาพอย่างพวก “อิ๊บอ๋าย” หรือ “แด๊ก” กับคุณลุงคุณป้าชาวญี่ปุ่น เพราะสมัยเรียนเป็นเด็กติดโทรทัศน์มากๆ ดูรายการวาไรตี้ญี่ปุ่นเยอะเกิน ซึมซับมาโดยไม่รู้ตัว จนคุณป้าญี่ปุ่นที่อยู่รอบๆ สะดุ้งกันไปเป็นแถวๆ โชคดีที่คุณป้าทั้งหลายเมตตา เข้าใจว่าดิฉันไม่ได้ตั้งใจและช่วยเตือน
เวลาคนไทยฟังคนต่างชาติหลุดคำหยาบ เราอาจรู้สึกเป็นเรื่องตลก แต่คนญี่ปุ่นบางคนอาจไม่ชอบนัก หรือสาวไทยบางคนหากเผลอหลุดคำต่อไปนี้ต่อหน้าพ่อแม่แฟน ก็อาจทำให้อดแต่งงานได้เลยนะคะ
ครั้งนี้ดิฉันเลยขออนุญาตเขียน “เตือน” น้องๆ ที่กำลังเรียนภาษาญี่ปุ่น โดยเฉพาะน้องผู้หญิงว่าอย่าใช้ศัพท์ไม่สุภาพต่อไปนี้เลยค่ะ
• ตระกูลสระ “เอ้” ที่ไม่ควรใช้
ไม่รู้เป็นอะไรเวลาผู้ชายญี่ปุ่นเม้าท์กันมันส์สุดติ่ง ชอบผันคำนั้นๆ ให้ลงท้ายด้วยคำ “เอ้ๆ” เช่น
1.สุเก้ (すげえ)
มาจาก: คำว่า “สุโก้ย(すごい)” ที่แปลว่า “สุดยอด”
ความหมาย : “แม่ง …สุดยอด”
ตัวอย่าง: “ฮอนดะ เคสุเกะ เตะบอลลูกนี้ได้ สุเก้มาก!!” แปลว่า คนญี่ปุ่นคนนั้นกำลังชื่นชมประทับใจเทิดทูนบูชาสไตล์การเตะของฮอนดะ ประทับใจมากจนต้องใช้คำว่า “สุเก้” เพื่อเน้นอารมณ์ปิตินั้น
2. คักเค่ (かっけえ)
มาจาก: คำว่า “คักโค่ย(かっこういい)” ที่แปลว่า “เท่ห์”
ความหมาย: “เท่ห์ระเบิด”
ตัวอย่าง: เมื่อหนุ่มๆ เดินผ่านหน้ารถสปอร์ตลัมโบกิน่า ฮีอาจหันไปฮือฮากับเพื่อนว่า “รถคันนี้ คักเค่สุดๆ เลย (ว่ะ)” ถ้าบวกกับข้อ 1. ภาษาผู้ชายจะประมาณ “Kono kuruma suge kakke!(この車すげえかっけえ!)”
3. อุเม่(うめぇ)
มาจาก: คำว่า “อุไม่(うまい)” ที่แปลว่า “แซ่บ”
ความหมาย: อร่อยอิ๊บอ๋าย (ขออนุญาตผันคำเล็กน้อยนะคะ ^^”)
จริงๆ ผู้หญิงควรจะหยุดอยู่แค่คำว่า “โออิชี่” ที่แปลว่า “อร่อย” ถึงจะดูนิ่มนวลน่ารัก อย่าเลยไปถึงขั้น “อุไม่” เลยค่ะ ยิ่ง “อุเม่” ยิ่งไม่เหมาะเข้าไปใหญ่
• คำวิเศษณ์ดิบๆ ที่ไม่ควรใช้
1. โช (超)
แปลว่า “Very much” ค่ะ หากดูรายการโทรทัศน์ เรามักจะเห็นดาราชายพูดว่า “โช อุไม่!” ก็จะแปลว่า “อร่อยโคตร!” นั่นเอง ในภาษาผู้หญิง หรือคำสุภาพปกติควรใช้คำว่า “To-te-mo (とても)” นะคะ
2. มาจิ? (マジ?)
แปลว่า “จริงเด่ะ” ภาษาธรรมดาคือ คำว่า “Honto?(本当?)” ค่ะ
• ประโยคดิบๆ ที่ไม่ควรใช้
คัดเลือกมาให้ 2 ประโยค ซึ่งน่าจะเป็นประโยคที่ดารานักแสดงพูดบ่อยสุดในละครหรือรายการวาไรตี้ ได้แก่
1. ฮาราเห็ดตะ (腹減った)
แปลว่า “หิวแล้ว” อันนี้ดิฉันนึกไม่ออกว่าผู้ชายไทยใช้คำพูดว่าอะไร … แต่กุลสตรีทั้งหลาย พึงใช้คำว่า 「โอนากะ ซุยตะ(お腹空いた)」จะดีกว่าค่ะ
2. เมชิคูว (メシ食う)
อ่านเผินๆ แล้วคุณผู้อ่านหลายท่านอาจงงว่านี่คือภาษาญี่ปุ่นหรือนี่ สำเนียงอย่างกับภาษาฝรั่งเศส ทว่าความหมาย คือ “แด๊กข้าว” ค่ะ (ขออนุญาตผันเสียงเล็กน้อยอีกครั้งนะคะ)
เวลาหนุ่มๆ ญี่ปุ่นชวนกันไปกินข้าว เขาจะถามว่า “เมชิคูอู๋ว?” เป็นการลากเสียงให้ยาวและยกเสียงขึ้นเป็นประโยคคำถาม เหมือน “กินข้าวป๊ะ?” ในภาษาไทยค่ะ
สาวๆ ที่รักอย่าใช้คำนี้โปรดใช้คำว่า 「โก๊ะหั่ง ทาเบหรุ(ご飯食べる)」 ตามปกตินะจ๊ะ น้องคนไหนแม่นแกรมม่าร์ญี่ปุ่นมากๆ อาจเอะใจว่าพี่เกตุวดีคะ…ตัว particle “โอ๊ะ(を)” หายไปไหน? มันต้องเป็น “โก๊ะหั่ง โอ๊ะ ทาเบหรุ” ไม่ใช่หรือ? อันนี้ขอเขียนดักทางไว้ก่อนนะคะ ภาษาพูดเราไม่พูดคำเต็มๆ แกรมม่าเป๊ะขนาดนั้นค่ะ เราย่อไปเลย
สุดท้ายนี้ขอทำตารางสรุปเนี้ยบๆ อีกครั้งนะคะ

สำหรับน้องๆ ผู้หญิงที่ยังเรียนภาษาญี่ปุ่นอยู่ระวังการใช้คำศัพท์พวกนี้ค่ะ อย่าเผลอติดจากประโยคในซีรี่ส์ละครหรือเพื่อนผู้ชาย เดี๋ยวจะกลายเป็นสาวก๋ากั่นไปได้ รู้ความหมายไว้พอให้ดูหนังดูละครรู้เรื่องก็พอ
ส่วนน้องผู้ชายที่กำลังทำลิสท์ศัพท์เหล่านี้เพื่อเอาไปใช้พูดเท่ห์ๆ พี่แนะนำว่าอย่าเพิ่งเลยค่ะ เรียนรู้จากเพื่อนๆ ญี่ปุ่นโดยธรรมชาติดีกว่า เพราะถ้าพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นไม่แน่น ระดับภาษาใช้ผสมปนๆ กัน แทนที่จะดูเท่ห์ดูสนิท อาจกลับกลายเป็นฟังดูตลกได้ เช่น “ผมจะไปแด๊กข้าวก่อนนะครับ” อะไรแบบนี้
ศัพท์ภาษาทั้งหมดในบทนี้เป็นภาษาที่ใช้เฉพาะกับเพื่อนหรือรุ่นน้องเท่านั้น ไม่ใช้กับลูกค้า ผู้ใหญ่ หรือแม้แต่รุ่นพี่เด็ดขาดค่ะ หากใช้จะดูเป็นเด็กไม่มีสัมมาคารวะไปเลย
นี่แหละค่ะ ภาษาญี่ปุ่นที่โรงเรียนไม่ได้สอน …ฝากไว้ด้วยความห่วงใยจ้ะ ☺
ทักทายพูดคุยกับเกตุวดี ได้ที่ >>> Japan Gossip by เกตุวดี Marumura