นักเรียนญี่ปุ่นก่อนเรียนจบจะหางานกันก่อน ซึ่งในปีที่ผ่านมานี้มีคำศัพท์แสลงที่น่าสนใจจะมานำเสนอครับ
นักเรียนญี่ปุ่นก่อนเรียนจบจะหางานกันก่อน ซึ่งในปีที่ผ่านมานี้มีคำศัพท์แสลงที่น่าสนใจจะมานำเสนอครับ
ข้อมูลศัพท์แสลงนี้อ้างอิงมาจากผลการสำรวจบริษัทไมนะบิ (マイナビ) ซึ่งเป็นบริษัทจัดหางานชื่อเสียงดังของญี่ปุ่นนะครับ มีทั้งหมด 10 คำที่จะมานำเสนอครับ
1. お祈り[โอะอิโนะริ] แปลตรงๆ ว่า “ขอสวดมนต์ภาวนา” หรือ “pray” แต่ความหมายที่แท้จริงคือ “ไม่ได้งาน”
ที่มาของคำๆ นี้มาจากเมลปฏิเสธไม่รับเข้างานจากบริษัทตอบผู้สมัครโดยลงท้ายเมลว่า
今後のご活躍をお祈りしております
ซึ่งพอจะแปลความหมายได้คร่าวๆ ว่า
“ขอภาวนาให้ผู้สมัครประสบความสำเร็จหลังจากนี้”
วิธีการใช้งานคำว่า お祈り(โอะอิโนะริ) อย่างเช่น
お祈りメール
เมลการภาวนา (เมลแจ้งว่าคุณไม่ได้งาน)
祈られた
ถูกภาวนา (ถูกปฏิเสธงาน)
น่าสนใจดีนะครับว่า คำว่า ภาวนา お祈り[โอะอิโนะริ] กลับกลายเป็นความหมายในเชิงลบ
เสมือนคำว่า お祈り[โอะอิโนะริ] เป็นเพียงคำพูดตามมารยาทเพียงเท่านั้น
2. ガクチカ [กะคุจิคะ] มีความหมายว่า “สิ่งที่พยายามในสมัยเป็นนักเรียน”
คำนี้ย่อมาจากคำว่า
学生時代に力を入れたこと
[กะคุเซจิได นิ จิคะระ โอะ อิเระตะ โคะโตะ]
แล้วย่อให้เหลือคำว่า “กะคุจิคะ”
ในการสัมภาษณ์นั้น คำถามยอดฮิตที่ถามนักเรียนคือ “สิ่งที่พยายามในสมัยเป็นนักเรียน” ซึ่งเป็นสิ่งที่คนญี่ปุ่นทั่วไปคงสนใจว่าที่ผ่านมา เราพยายามอะไรมาบ้าง คงต้องการจะฟัง ดราม่า สตอรี่ที่น่าสนใจให้เห็นว่า ไอ้เด็กนี่พยายามดีแฮะ แต่ถ้าใครใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยคงต้องเหนื่อยหน่อยในการแต่งเติมเรื่องให้น่าสนใจ
มันก็เลยมีคำแสลงอย่างคำว่า ガクチカ [กะคุจิคะ] เพราะว่าเวลาไปสัมภาษณ์ที่ไหน คนสัมภาษณ์ก็ต้องถามเรา
3. サイレント [ไซเรนโตะ] มาจากคำว่า Silent ที่แปลว่า “เงียบ”
ซึ่งหมายถึงการถูกปฎิเสธงาน เพราะว่าทางบริษัท “เงียบ” ไม่บอกผลสัมภาษณ์งานมา
โดยปรกติหากได้งานบริษัทก็คงต้องติดต่ออะไรมาหาเรา “ไม่เงียบ” แน่นอน
แต่อาจจะมีบางบริษัทที่ keep silent ไม่บอกอะไรเราเลย
ในมุมมองของผม การใช้คำศัพท์ภาษาอังกฤษว่า サイレント [ไซเรนโตะ] อาจจะได้รับอิทธิพลจากเพลง Silent night ก็เป็นได้ครับ
4. NNT [เอนเอนที] ย่อมาจากคำว่า 無い内定 [ไนไนเท] ซึ่งหมายความว่า “ยังไม่ได้งาน” ซึ่งคำนี้มีคำที่เกี่ยวข้องอยู่หลายคำ
内定 [ไนเท] หมายความว่า “ทางบริษัทประกาศอย่างเป็นทางการ ด้วยเอกสารว่าจะจ้างงาน”
内々定 [ไนไนเท] หมายความว่า “บริษัทบอกอย่างไม่เป็นทางการ เช่นปากเปล่า หรือทางอีเมลว่าได้งานแล้ว”
無い [ไน] แปลว่า ”ไม่”
คำว่า NNT [เอนเอนที] = 無い内定 [ไนไนเท] ที่แปลว่า “ไม่ได้งาน” นี้ เป็นการเล่นเสียงกับคำว่า 内々定 [ไนไนเท] (ได้รับแจ้งว่าได้งานอย่างไม่เป็นทางการ)
และ NNT ก็ใกล้เคียงกับชื่อบริษัท NTT บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านสารสนเทศของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นบริษัทยอดนิยมของผู้สมัครงานกัน
5. オワハラ [โอะวะฮะระ] มีความหมายว่า “การ harassment ให้หยุดหางาน”
คำนี้มาจากภาษาญี่ปุ่นคำว่า
就活終われハラスメント
ซึ่งแปลว่า “การ harassment ให้หยุดหางาน”
พอนักเรียนได้รับการแจ้งจากทางบริษัทว่าได้งานอย่างไม่เป็นทางการ (内々定 [ไนไนเท]) บริษัทก็อาจจะมีการขู่นักเรียนให้หยุดหางาน
ความจริงผมก็รู้สึกว่าการขู่แบบนี้ก็ไม่ถูกต้องนะครับ
6. ES ย่อมาจาก Entry sheet ซึ่งหมายถึงใบสมัครงาน อาจจะต้องกรอกด้วยมือ นักเรียนบางคนอาจต้องกรอกหลายร้อยใบ ร้อยบริษัท จนกว่าจะได้งาน ต้องเขียนอะไรซ้ำๆ กันหลายรอบ ก็มีเหนื่อย รู้สึกเอียนกับไอ้ ES นี้เอาได้ ไม่สามารถก๊อปแปะ ต้องเขียนเอา เพื่อแสดงความทุ่มเทของนักเรียนสไตล์ญี่ปุ่น
7. グルディス [กุรุดิสุ] มาจากคำว่า Group discussion (グループディスカッション) ซึ่งเป็นรูปแบบการสัมภาษณ์ลักษณะหนึ่ง ให้คุยกันใน topic นึง และผู้สัมภาษณ์จะสังเกตว่านักเรียนตอบได้ฉะฉานไหมในกลุ่มหลายๆ คน สำหรับนักเรียนบางคนอาจจะไม่ชอบรูปแบบการสัมภาษณลักษณะนี้ เพราะเหมือนต้องคอยแย่งกันพูด เพื่อ appeal ตัวเอง
8. 御社 [องฉะ] เป็นคำพูดแสดงความยกย่องบริษัทที่เราไปสมัครงาน คำว่า 御 [อง] เป็นคำที่แสดงการยกย่อง ส่วนคำว่า 社 [ฉะ] หมายถึง “บริษัท”
คำที่แสดงการยกย่องบริษัท ทำให้นึกถึงสภาพการหางานของเหล่านักเรียนที่จะต้องให้ความสำคัญกับบริษัท
เสมือนคำว่า 御社 [องฉะ] แสดงให้เห็นถึงสภาพการเปลี่ยนแปลงในชีวิตประจำวันเรา จากการเป็นนักเรียน จากชีวิตที่เคยเล่นไปวันๆ กลับต้องมานั่งกรอกใบสมัครไปสัมภาษณ์งาน
คำว่า 御社 [องฉะ] ก็เอามาเปลี่ยนเป็นรูปคำกิริยา ได้ความหมายว่า “ไปสัมภาษณ์งาน”
御社する
[องฉะสุรุ]
ไปสัมภาษณ์งาน
9. 終活 [ชูคะซึ] หมายความ “การเลิกหางาน” ซึ่งนอกเหนือจากบริษัทที่เราอยากเข้าแล้ว เราก็ต้องติดต่อไปยังบริษัทอื่นที่เราได้งานแล้วเพื่อตอบปฏิเสธ เป็นการสิ้นสุดการหางาน
10. リクラブ [ริคะระบุ] มาจากคำว่า recruitment love ซึ่งหมายถึงการพบรักในช่วงเวลาหางาน อย่างเช่นตอนรอสัมภาษณ์งานก็อาจจะได้นั่งข้างๆ นักเรียนจากที่อื่นพูดคุยสนิทสนมกันก่อให้เกิด romance หรือเจอกันในสถานที่สัมนาหางานของบริษัทตามที่ต่างๆ ได้นั่งข้างๆ กันคุยกัน จนก่อให้เกิด リクラブ [ริคุระบุ]
จากภาษาศัพท์แสลงเหล่านี้ ทำให้เราพอเห็นสภาพการหางาน และสังคมญี่ปุ่นกันได้ครับ คิดกันว่าอย่างไรบ้างครับ
ทักทายพูดคุยกับ Wasu ได้ที่ >>> Facebook Wasu’s thought on Japan
เรื่องแนะนำ :
– ปัญหาขยะแก้วชานมไข่มุกในเกียวโตะ
– ร้าน Lawson ที่ใช้ระบบขายแทนคนในยามดึก
– [เรื่องแต่ง] 自画自賛 [จิกะจิซัง] ทำเองชมเอง
– [เรื่องแต่ง] น้ำท่วมที่หลากไหล
– 責任 [เซะคินิน] ความรับผิดชอบ
อ้างอิง : https://headlines.yahoo.co.jp/article?a=20190904-00201709-bizspa-bus_all.view-004