เราพาชิสุกะไปต่อที่อยุธยาในช่วงบ่ายค่ะ จุดประสงค์ที่แท้จริงของการมาอยุธยาในวันนี้ก็คือ กิจกรรมนั่งชมวิวเมืองเก่าบนหลังช้างนี่แหละค่ะ เลยพาชิสุกะไปนั่งช้างของวังช้างอยุธยา แลเพนียดค่ะ ดูหน้านางสิคะว่าเริงร่าแค่ไหน
AME.dama นิสิตสาวโฉดโสดสนิทชั้นปีที่ 4 คณะอักษรศาสตร์ เอกภาษาญี่ปุ่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตอนนี้มาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนหนึ่งปีที่ Osaka University of Economics and Law จังหวัดโอซาก้า
งานอดิเรก : ดูลายมือ ไพ่ทาโร่ต์ อ่านนิยายการ์ตูน และเม้าท์มอย ก่อนหน้านี้เคยมาอยู่กับโฮสแฟมิลี่ชาวญี่ปุ่นในโครงการแลกเปลี่ยนเยาวชน 4 ครอบครัว และได้ทุนมาทัศนศึกษากับมหาวิทยาลัยคิวชู จังหวัดฟุคุโอกะ นับเป็นโชคดีที่ได้มีโอกาสมาอยู่ในญี่ปุ่นในหลายบทบาททั้งในฐานะนักเรียน นักท่องเที่ยว และลูกๆ ของโฮสแฟมิลี่ที่อบอุ่น จึงได้เห็นอะไรหลายอย่างนอกจากมุมมองของนักท่องเที่ยว ต่อจากนี้จะพยายามเขียนบทความธรรมดาที่ไม่ธรรมดาให้ทุกท่านได้อ่านกันนะคะ ^^ |
ทริปเที่ยวไทยของชิสุกะยังไม่จบค่ะ เราพาชิสุกะไปต่อที่อยุธยาในช่วงบ่ายค่ะ จุดประสงค์ที่แท้จริงของการมาอยุธยาในวันนี้ก็คือ กิจกรรมนั่งชมวิวเมืองเก่าบนหลังช้างนี่แหละค่ะ เลยพาชิสุกะไปนั่งช้างของวังช้างอยุธยา แลเพนียดค่ะ ดูหน้านางสิคะว่าเริงร่าแค่ไหน
นั่งบนหลังช้างแล้วชมบรรยากาศสองข้างทาง วิวสวยมากค่ะ รู้สึกภูมิใจที่ทำให้เพื่อนต่างชาติเห็นเสน่ห์ของเมืองไทยมากขึ้น เดินไปสักพักก็จะเจอช้างเชือกอื่นๆ ที่มีผู้โดยสารไม่ซ้ำชาติกันเลย ก็โบกมือทักทายยิ้มให้กัน เป็นบรรยากาศที่น่ารักมากค่ะ พอลงจากหลังช้างแล้วก็ถามชิสุกะว่าเป็นยังไงบ้างนั่งช้างครั้งแรก ชิสุกะตอบว่า “สูงมากเลย ช้างเชื่องมาก แต่ที่คาดไม่ถึงมีอยู่เรื่องเดียว…ช้างเดินแล้วที่นั่งโยกไปมานี่….เจ็บก้นอยู่นะ แต่นั่งไม่นานแค่นี้สบาย” นางพูดไปหัวเราะไป
หลังจากนั้นก็พาไปชมไฮไลท์เด็ดอีกแห่งที่ถ้าไม่มาคือไม่ถึงอยุธยา นั่นก็คือ หนึ่งในมรดกโลก “วัดมหาธาตุ”
ตรงทางเข้าเราเจอกระรอกที่กำลังกินมะพร้าวอยู่ ชิสุกะตื่นเต้นออกหน้าออกตาไม่คิดว่าจะเจอกระรอกเดินเพ่นพ่านอิสระขนาดนี้ พอบอกว่าในเมืองมีกระรอกปีนตามสายไฟก็มีนะ ยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่ จะว่าไปตอน AME.dama ไปอยู่ที่ญี่ปุ่นก็ไม่เคยเจอกระรอกเดินในเมืองเหมือนบ้านเรา อาจเป็นเรื่องแปลกอยู่สำหรับชาวญี่ปุ่นก็ได้ ใครมีเพื่อนญี่ปุ่นมาเที่ยวอย่าลืมชี้ชวนให้ดูกระรอกเมืองนะคะ 😉
และแล้วก็ต้องชักภาพเป็นที่ระลึกกับจุดถ่ายรูปยอดนิยมบริเวณเศียรพระพุทธรูปในต้นไม้กันหน่อย แสดงความเคารพด้วยการนั่งลงแล้วถ่ายภาพไม่ยืนค้ำองค์เศียรค่ะ ชิสุกะเธอได้มาถ่ายภาพกับมรดกแล้วนะ!
หลังจากนั้นเราก็ไปวัดใหญ่ชัยมงคลชมเจดีย์ที่สูงที่สุดในอยุธยาซึ่งทางขึ้นชันและท้าทายมากดูได้จากขั้นบันไดที่แหว่งๆ เป็นหลุมเป็นบ่อ AME.dama กับเพื่อนนี่ค่อยๆ ก้าวขึ้นทีละขั้น ขาสั่นกันไปหมด (ผลของการไม่ค่อยออกกำลังกาย ยังสาวยังแส้แท้ๆ อนาถจริงๆ = =; ) ในรูปเห็นหน้ายิ้มๆ อย่างนั้น เบื้องหลังนี่หอบกันอยู่นะคะ ผิดกับชิสุกะที่ก้าวฉับๆ ขึ้นได้ไวนำทุกคนไปเลย สมเป็นคนญี่ปุ่นที่ชินกับการเดินขึ้นเขาขึ้นเนินจริงๆ
ที่น่าสนใจก็คือ ”ศาลเจ้าพ่อสิทธิชัย” ที่มีผู้คนเอาโดราเอม่อนมาวางในศาลเจ้านี้แหละค่ะ อันนี้แปลกจริง ชิสุกะก็แชะกลับไปหลายภาพ คงงงน่าดูว่าโดราเม่อนเข้าถึงวัฒนธรรมคนไทยขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย!?
อีกเรื่องที่ชิสุกะสังเกตก็คือหมาไทยนอนกันเก่งจัง ส่วนใหญ่ที่เจอก็ตั้งหน้าตั้งตานอนกันใหญ่ ไม่เหมือนหมาญี่ปุ่นได้ออกนอกบ้านทีคึกคักกันใหญ่ แต่อย่างว่าบ้านเค้าไม่มีหมาจรจัดเหมือนบ้านเรา มีแต่หมาเลี้ยงชีวิตความเป็นอยู่สบาย ได้ออกมาเดินเล่นกับเจ้านายนอกบ้านก็ต้องมีแรงอยู่แล้ว หมาบ้านเราก็อยู่ไป สู้ชีวิตหาอาหารกิน เหนื่อยก็ต้องพักผ่อนอย่างที่เห็น
ก็เป็นอันสิ้นสุดทริปอยุธยา ขากลับนั่งรถผ่านเห็นป้ายโฆษณานิชคุณ นางก็รีบควักกล้องออกมาถ่ายใหญ่ ลืมบอกไปค่ะว่าชิสุกะเป็นติ่งนิชคุณ ฮ่าๆ เจอป้ายนิชคุณนี่กรี๊ดขอถ่ายรูป แถมอยากซื้อของที่นิชคุณเป็นพรีเซ็นเตอร์กลับไปเป็นที่ระลึกด้วย แต่เครื่องใช้ไฟฟ้า AJ นี่ก็คงจะเกินไปเลยแนะนำเป็นแบรนด์ซุปไก่ที่มีรูปนิชคุณอยู่หน้ากล่อง อร่อยถูกปากชิสุกะหรือไม่นั้นไม่สำคัญเท่าความอิ่มใจที่ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีรูปนิชคุณไปเชยชม
นี่แหละค่ะเพื่อนสาวแอบติ่งชาวญี่ปุ่นของ AME.dama ^^
ทักทายพูดคุยกับ AME.dama ได้ที่ >>> Facebook AME.dama