วันนี้ผมก็จะมาแนะนำภาษาญี่ปุ่นให้ท่านรู้จักซักคำสองคำ แต่ขอโทษไม่ใช่ภาษาคนนะครับ “อ้าว แล้วจะมาสอนภาษาสัตว์หรือไง” ใช่ครับ ผมจะมาแนะนำภาษาสัตว์ญี่ปุ่นให้ท่าน

ชนชาติญี่ปุ่นก็อย่างที่เรารู้จักดีนะครับ ว่าเป็นชาติที่มีความเป็นชาตินิยมสูงมาก
ในเรื่องของภาษาก็เหมือนกัน ยิ่งสมัยก่อนนั้นน้อยมากที่จะมีคนญี่ปุ่นสนใจที่จะศึกษาภาษาต่างประเทศ ถ้าใครคิดจะติดต่อทำมาค้าขายหรือทำธุรกิจด้วยก็จำเป็นที่จะต้องหัดไปศึกษาภาษาญี่ปุ่น เพราะถ้ารอให้เขามาเรียนภาษาของเรา คงต้องรอให้ถึงรุ่นลูกรุ่นหลานของเรานั่นเลยครับ
แต่เดี๋ยวนี้คนญี่ปุ่นเริ่มศึกษาภาษาต่างชาติมากขึ้น เพราะคนญี่ปุ่นก็เริ่มรู้สึกว่าถ้ารอให้ชาติอื่นมาศึกษาภาษาญี่ปุ่นให้มากขึ้นกว่านี้ ก็คงต้องรอให้ถึงรุ่นลูกรุ่นหลานของเขาเหมือนกัน ก็ดีครับต่างคนต่างศึกษาของกันและกัน จะได้ไม่เสียดุลทางด้านภาษา
วันนี้ผมก็จะมาแนะนำภาษาญี่ปุ่นให้ท่านรู้จักซักคำสองคำ แต่ขอโทษไม่ใช่ภาษาคนนะครับ
“อ้าว แล้วจะมาสอนภาษาสัตว์หรือไง” ใช่ครับ ผมจะมาแนะนำภาษาสัตว์ในภาษาญี่ปุ่นให้ท่าน
“บ้า แน่ๆ ไอ้นี่” อย่าเพิ่งหาว่าผมบ้าซิ สำคัญนะครับภาษาสัตว์นี่ ผมจะลองเล่าประสบการณ์ให้ฟัง
Once upon a time ก็ที่ญี่ปุ่นนี่แหละครับ มีอยู่ครั้งหนึ่งผมได้มีโอกาสไปที่ญี่ปุ่น ระหว่างที่กำลังเดินเล่นดูนกชมไม้อยู่นั่น (จริงๆ เดินดูเด็กนักเรียนญี่ปุ่นมากกว่า) สายตาผมก็เหลือบไปเห็นเจ้าหมาตัวหนึ่ง เดินดมโน้น ดมนี้ อยู่ ก็รู้สึกว่าตัวเองเที่ยวนี้โชคดีแหะ เจอหมาญี่ปุ่นด้วย (ปกติสัตว์เลี้ยงที่ญี่ปุ่นจะไม่ค่อยอนุญาติให้ออกมาเดินเล่น โดยไม่มีผู้ปกครองออกมาด้วยแบบนี้นะครับ) เลยเดินเข้าไปทักซักหน่อย
“โฮ่ง โฮ่ง” เราก็ทักตามประสาหมาๆ เงียบ!!!!! มันไม่สนใจยังคงเดินดมโน้น ดมนี้เรื่อยเปื่อยไปเรื่อย
“โฮ่ง โฮ่ง” ผมลองส่งเสียงทักทายอีกครั้ง เหมือนเดิมไม่มีการตอบรับจากหมาที่เย่อหยิ่งตัวนี้
เพื่อนญี่ปุ่นของผมก็เลยต้องเฉลยให้ผมฟังว่า “มันฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่อง ถ้าคุณอยากทักทายมันคุณต้องทักเป็นภาษาญี่ปุ่นซิ”
แน่ะ หมามีแยกภาษาด้วยเหรอ “แน่นอน คนยังมีหลายภาษาเลย ทำไมหมาจะมีไม่ได้”
เออ ก็จริงของมันนะ “โอเค งั้นคุณลองทักทายมันเป็นภาษาญี่ปุ่นให้ฟังหน่อยซิ” ผมว่า
“ได้ซิ” แล้วเจ้าเพื่อนก็เดินเข้าไปหาเจ้าตัวหยิ่งของผม “วัง วัง” เที่ยวนี้ได้ผลแหะ มันหันมาสบตาพวกผมจริงๆ ด้วย
ผมเลยได้ใจเอามั้ง “วัง วัง” สุดยอดจริงๆ ผมพูดภาษา (หมา) ญี่ปุ่นได้แล้ว
มันหันมาสบตาอีกครั้ง แสยะเขี้ยวคำรามพร้อมกระโจนเข้ามาหา ก็ตัวใครตัวมันซิครับ เจ็บใจจริงๆ จนถึงวันนี้ยังไม่รู้เลยว่าคำที่เพื่อนผมสอนวันนั้น “วัง วัง” แปลว่าอะไร ทำไมเจ้าหมามันฟังแล้วถึงได้โกรธผมขนาดนี้

เห็นไหมครับ ภาษาสัตว์ก็มีความสำคัญไม่แพ้ภาษาคนเหมือนกัน ขอแถมให้อีกคำหนึ่งก็แล้วกัน เพราะเจ้าตัวนี้ก็ยอดนิยมในบ้านเราเหมือนกัน “แมว” ไงครับ แมวญี่ปุ่นดัง ๆ ก็หลายตัวนะ ไม่ว่าจะเป็นโดราเอมอน คิตตี้ หรือแมวกวัก ตัวหลังนี้รู้สึกจะได้รับความนิยมในหมู่นักธุรกิจบ้านเรามาก ไม่ว่าจะร้านขายส้มตำ กล้วยแขก หรือก๋วยเตี๋ยวเรือ ก็เห็นนิยมเอามาช่วยเรียกลูกค้าเข้าร้านกันมากพอสมควร
แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะได้ผลหรอกครับ “เพราะอะไรหรือ” ก็เขาเป็นแมวญี่ปุ่น ไม่ใช่แมวไทยร้อง เมี้ยว เมี้ยว เหมือนบ้านเรา คุยกันไปเท่าไรก็ไม่รู้เรื่องหรอกครับ
“อ้าว แล้วต้องคุยยังไงล่ะ” ง่าย ๆ ครับ “เนีย เนีย” สองคำจำให้ดี แล้วลองกลับไปคุยกับแมวกวักที่บ้านคุณดู ถ้าทำมาค้าขึ้นแล้ว ก็อย่าลืมผมล่ะกัน
ภาษาญี่ปุ่นน่ารู้ การเลียนเสียงธรรมชาติของสัตว์ในประเทศญี่ปุ่น
ในภาษาญี่ปุ่นนอกจากจะมีคำศัพท์เฉพาะอยู่แล้ว ยังมีศัพท์เลียนเสียงธรรมชาติอยู่ด้วย ยกตัวอย่างง่ายๆ อย่างเช่นเสียงร้องของสัตว์ชนิดต่างๆ ในภาษาไทยก็มีการเลียนเสียงเหมือนกันเช่น สุนัขร้องโฮ่งๆ แมวร้องเหมียวๆ เป็นต้น แล้วในภาษาญี่ปุ่นล่ะ! สัตว์ต่างๆ ออกเสียงอย่างไรกันบ้างมาดูกันดีกว่า

อ่านกันจบแล้ว ที่นี้ก็ได้ทราบการเลียนเสียงสัตว์ในภาษาญี่ปุ่นกันไปแล้ว สนุกกันมั้ยเอ่ย บางเสียงก็ออกเสียงยากน่าดูเลย แต่ก็สนุกใช่มั้ยล่ะ เอาล่ะ ไว้คราวหน้าจะมาแนะนำภาษาญี่ปุ่นน่ารู้ให้ทุกคนกันใหม่นะ แล้วเจอกันจ้า…
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : http://www.rondely.com/zakkaya/dic5/gitani.htm