วันนี้ผมจึงจะพาทุกท่านไปรู้จักกับแชมป์มวยปล้ำหญิงญี่ปุ่นที่ถือว่าทรงคุณค่ามาก ๆ ในญี่ปุ่น ชนิดที่ว่านักมวยปล้ำคนไหนได้แชมป์ ก็จะการันตีถึงฝีมือได้เลยล่ะครับ
เมื่อพูดถึงวงการมวยปล้ำแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดที่นักมวยปล้ำทุกคนต่างต่อสู้แย่งกันเพื่อให้ได้มาครอบครองก็คือ “เข็มขัดแชมป์” นั่นเอง
อย่างไรก็ตามปัจจุบันนี้มีเข็มขัดแชมป์เกิดขึ้นมากมายจนเรียกได้ว่าเกลื่อนวงการไปหมด คือทุก ๆ สมาคมที่ก่อตั้งขึ้นมาทั้งเก่าและใหม่ ล้วนแล้วแต่สร้างเข็มขัดแชมป์เป็นของตนเอง ดังนั้นปัจจุบันนี้เราจะได้พบกับ “นักมวยปล้ำหญิงระดับแชมป์” กันมากกว่าปกติ ยิ่งหากเทียบกับสมัยก่อน (ที่มวยปล้ำหญิงโด่งดังในไทย) ตอนนั้นมีค่ายมวยปล้ำหญิงญี่ปุ่นเพียงไม่มาก ทำให้คนที่ถูกเรียกว่าแชมป์นั้นสามารถการันตีถึงการเป็นยอดฝีมือได้เลย เหตุนี้ในยุคปัจจุบันที่เราไม่รู้เลยว่าแชมป์ไหนเก่งจริงหรือโกหก เราจะทำอย่างไรล่ะ?
วันนี้ผมจึงจะพาทุกท่านไปรู้จักกับแชมป์มวยปล้ำหญิงที่ถือว่าทรงคุณค่ามาก ๆ ในญี่ปุ่น ชนิดที่ว่านักมวยปล้ำคนไหนได้แชมป์ ก็จะการันตีถึงฝีมือได้เลยล่ะครับ
JWP Openweight Championship
เข็มขัดเส้นนี้เป็นเข็มขัดแชมป์เดี่ยวเส้นที่ใหญ่ที่สุดของสมาคม JWP สมาคมมวยปล้ำหญิงชั้นนำของญี่ปุ่นที่ได้ชื่อว่าเป็นสมาคมที่สร้างสรรค์นักมวยปล้ำหน้าใหม่ออกมามากที่สุดในปัจจุบันเช่นกัน เข็มขัดเส้นนี้คือเข็มขัดแชมป์ที่ “เก่าแก่ที่สุด” ที่ยังคงนำมาป้องกันในปัจจุบัน คือเริ่มมาตั้งแต่ปี 1992 ผ่านมือนักมวยปล้ำมาแล้วหลายต่อหลายคน รวม 29 สมัยจนถึงปัจจุบัน
เข็มขัดเส้นนี้มีจุดเด่นคือทุก ๆ การชิงแชมป์ จะมีการยืนร้องเพลงชาติญี่ปุ่นกันก่อน เพื่อเป็นเกียรติประวัติของนักมวยปล้ำที่ได้เข้ามาท้าชิง อนึ่งเข็มขัดเส้นนี้คือหนึ่งในเข็มขัดที่นักมวยปล้ำญี่ปุ่นอยากได้มาก เพราะชื่อของนักมวยปล้ำที่ครอบครองตลอด 24 ปีที่ผ่านมานั้นมันมีนักมวยปล้ำระดับตำนานที่บางคนก็เลิกปล้ำไปแล้ว
(คือเข็มขัดแชมป์ในปัจจุบันเส้นอื่น ๆ ล้วนถูกสร้างขึ้นมาทีหลัง ดังนั้นประวัติศาสตร์จะมีไม่นาน และนักมวยปล้ำที่เคยได้แชมป์ ก็จะเป็นนักมวยปล้ำร่วมสมัยกัน เข็มขัดของ JWP ผ่านมือคนมามากหน้าหลายตา และบางคนก็คือ “ไอดอล” ของนักมวยปล้ำในตอนนี้)
ประวัติศาสตร์หน้าสำคัญของเข็มขัดเส้นนี้ก็คือช่วงปี 2012 ซึ่ง “เอมิ ซากุระ” นักมวยปล้ำหญิงชั้นนำของญี่ปุ่นชนะเป็นแชมป์ใหม่ และนำไปป้องกันที่ประเทศอังกฤษ กลายเป็นเข็มขัดแชมป์มวยปล้ำหญิงเพียงไม่กี่เส้นที่ป้องกันในต่างประเทศ ดังนั้นนี่คือเข็มขัดที่เราพูดได้เลยว่าเป็นเป้าหมายของนักมวยปล้ำหญิงญี่ปุ่นทุกคนครับ
ICE x Infinity Champion
เข็มขัดเส้นนี้เป็นเข็มขัดแชมป์ประจำสมาคม ICE RIBBON ซึ่งเป็นสมาคมมวยปล้ำหญิงชั้นนำจากไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น
โดยเข็มขัดเส้นนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 2008 และตอนที่ก่อตั้งใหม่ ๆ เข็มขัดเส้นนี้ก็ทำมาจาก “เปเปอร์มาเชต์” เท่านั้นเอง สาเหตุที่เป็นแบบนั้นก็เพราะในทีแรกนั้นสมาคม ICE RIBBON เต็มไปด้วยเด็กหญิง ซึ่งไม่รู้ว่าจะอยู่ในวงการนานเท่าไร (คือจุดเริ่มต้นของสมาคมนี้เริ่มจากเจ้าของสมาคม ไปสอนยิมนาสติกในโรงเรียน และชักชวนให้เด็กนักเรียนหญิงมาฝึกมวยปล้ำ) แต่หลังจากที่ทุกอย่างเริ่มชัดเจนว่านักมวยปล้ำแต่ละคนจะอยู่ในวงการต่อไปอย่างยาวนาน เข็มขัดเส้นนี้ก็ค่อย ๆ เปลี่ยนมาให้มีความจริงจังมากขึ้น มีการเปลี่ยนตัวเข็มขัดให้เป็นเข็มขัดมวยปล้ำแบบมาตรฐานตามแบบสากล และตั้งชื่อในทีแรกว่า ICE x 60 Championship (I-C-E cross SIXTY) ซึ่งเลข 60 นี้มาจากกฏกติกาสำคัญของเข็มขัดเส้นนี้ก็คือ “ทุกคนที่เข้าชิงแชมป์ จะต้องมีน้ำหนักไม่ถึง 60 กิโลกรัม” (แต่ถ้าเป็นแชมป์แล้วอ้วนขึ้นน้ำหนักเกินอันนั้นไม่เป็นไร)
สาเหตุที่มีกฏกติกาแบบนี้ก็เพราะอย่างที่บอกไปว่านักมวยปล้ำส่วนใหญ่ของสมาคมเป็นเด็กหญิง บางคนอายุเพียง 12 – 13 ปีเท่านั้น ถ้าจะต้องเจอผู้ท้าชิงที่ตัวใหญ่จากสมาคมอื่น มันก็จะดูแตกต่างกันเกินไป ไม่มีทางสู้ และนักมวยปล้ำเหล่านี้ก็จะไม่มีโอกาสได้เติบโต จึงมีกฏชนิดนี้ขึ้นมาครับ อนึ่งเข็มขัดเส้นนี้ได้ชื่อว่าเป็นเข็มขัดที่ “แชมป์อายุน้อยที่สุดที่เคยป้องกันในโคระคุเอนฮอลล์” ซึ่งโคระคุเอนฮอลล์ คือสังเวียนมวยปล้ำที่ได้ชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในโลก และแชมป์ในตอนนั้นก็คือน้อง “ริโฮะ” นักมวยปล้ำชื่อดัง ซึ่งในขณะนั้นมีอายุ 12 ปี 10 เดือน
ปัจจุบันสมาคม ICE RIBBON ได้สร้างนักมวยปล้ำหน้าใหม่ขึ้นมามากมาย และนักมวยปล้ำที่อายุน้อยระดับประถมก็ไม่มีหลงเหลืออยู่แล้ว ทางสมาคมจึงเปลี่ยนชื่อเข็มขัดเป็น ICE x Infinity คือไม่จำกัดน้ำหนักอีกต่อไป เพื่อให้นักมวยปล้ำหญิงทุกคนสามารถท้าชิงได้ เป็นการวัดฝีมือของตนเองและสร้างความท้าทายไปในตัวด้วย จุดเด่นอีกอย่างของเข็มขัดเส้นนี้ก็คือ ถ้าแมตช์จบลงที่ 30 นาทีโดยไม่มีผลแพ้ชนะ แชมป์จะถูกปลดจากตำแหน่งโดยทันที เพราะถือว่าไม่มีศักยภาพมากเพียงพอนั่นเอง
OZ Academy Openweight Championship
ถ้าวัดกันที่ชื่อชั้นของนักมวยปล้ำที่ครองตำแหน่งแชมป์ ต้องบอกว่ารายชื่อแชมป์ของเข็มขัดเส้นนี้ล้วนมีแต่ชื่อของนักมวยปล้ำรุ่นเก่าเก๋า ๆ ที่แฟนมวยปล้ำชาวไทยเมื่อสักยี่สิบปีก่อนรู้จักกันดีครับ แต่ถ้าถามว่าทำไมผมจึงบอกว่าเข็มขัดเส้นนี้ไม่ศักดิ์สิทธิ์เท่าเข็มขัดของ JWP ที่ได้พูดไปก่อนหน้า
สาเหตุแรกก็คือเข็มขัดเส้นนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 2006 (ประกาศ) และได้แชมป์คนแรกในปี 2007 (ห่างจาก JWP ถึง 15 ปี) และอีกสาเหตุสำคัญก็คือ แมตช์การปล้ำของค่ายนี้นั้นไม่ค่อยเป็นการปล้ำมวยปล้ำแบบปกติทั่วไปครับ คือแน่นอนมันก็อยู่ในบริบทของกีฬามวยปล้ำแต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือสมาคมนี้นั้นมักจะเล่นงานกันด้วยอาวุธหรือยกพวกมาตีกันอยู่บ่อยๆ ซึ่งในญี่ปุ่นนั้น หลาย ๆ คนก็จะไม่ชอบการปล้ำสไตล์นี้เพราะถือว่าไม่มีเกียรติเท่าแมตช์เดี่ยว ๆ ที่ไม่มีใครมาก่อกวน เหมือนว่านักมวยปล้ำฝึกฝนมาอย่างหนักและมาต่อสู้กันเลย ใครชนะก็คือเหนือกว่า เป็นการต่อสู้แบบมีเกียรติแบบนั้น แต่การต่อสู้ในสมาคม OZ ACADEMY เป็นการผสมเอาแมตช์ฮาร์ดคอร์ เข้ากับสไตล์การปล้ำแบบโบราณ อธิบายได้ว่า “เตะต่อยรุนแรงไร้การป้องกัน” ผสมกับ “อาวุธอันตราย” เช่นหลอดไฟ โต๊ะ สนับมือ ฯลฯ ดังนั้นเราจะเห็นแชมป์เลือดสาด โดนโซ่รัดคอหมดสภาพอยู่บนเวทีแทบจะเป็นเรื่องปกติ เหตุนี้เข็มขัดจึงไม่ได้รับความนิยมเท่าไรนักครับ
ที่สำคัญรูปแบบของเข็มขัดก็ไม่เหมือนกับเข็มขัดทั่วไปด้วย เพราะเข็มขัดนี้จะไม่ได้เกี่ยวกันด้วย “หมุด” แบบทั่วไป แต่จะใช้เป็น “โซ่” เพื่อให้ภาพที่ดิบกว่า และส่วนใหญ่นักมวยปล้ำที่เป็นแชมป์ก็จะเอาไปห้อยคอหรือพาดบ่ากันแทน ถือว่าเป็นเข็มขัดที่มีความ Unique สูงมากครับ
อนึ่งเนื่องจากสมาคมนี้ชื่อ OZ Academy (โอสึ อะคาเดมี่) ผู้ที่เป็นแชมป์ของสมาคมนี้ จะถูกเรียกว่า “พ่อมดแห่งออซ” (ในที่นี้น่าจะเป็นแม่มดซะมากกว่า) หรือ Wizard of OZ นั่นเอง
WORLD OF STARDOM CHAMPIONSHIP
ในแง่ของความต่อเนื่องในการท้าชิง หรือในแง่ของตัวสมาคมที่เข็มขัดเส้นนี้สังกัดอยู่ เป็นเรื่องไม่แปลกเลยที่หลายคนจะมองว่าเข็มขัดเส้นนี้คือเข็มขัดมวยปล้ำหญิงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นยุคปัจจุบันนี้ อย่างไรก็ตามมีหลายคนที่เห็นต่างออกไปและบอกว่าเข็มขัดเส้นนี้แม้จะได้รับความนิยมจากแฟน ๆ มวยปล้ำ แต่ปัญหาก็คือสมาคม Stardom เจ้าของเข็มขัด ดำเนินธุรกิจในฐานะ “สมาคมปิด” คือไม่เปิดโอกาสให้นักมวยปล้ำจากสมาคมอื่นมาท้าชิงเข็มขัดเส้นนี้ นอกจากสมาคมที่มีฐานะเป็นพันธมิตรกันเท่านั้น ทำให้หลายคนมองว่านักมวยปล้ำที่ได้ครองแชมป์นั้นยังไม่ได้เจอนักมวยปล้ำของจริงจากสมาคมอื่น ต่างจากเข็มขัดเส้นอื่นที่ใครเก่งก็มักจะถูกนำมาท้าชิงเพื่อวัดฝีมือของแชมป์
เข็มขัดเส้นนี้มีจุดเด่นหลักๆอยู่ 2 ประการ หนึ่งคือรูปทรงที่แปลกประหลาด ต้องบอกก่อนว่าปกติแล้วประเทศญี่ปุ่นจะทำอะไรที่ค่อนข้างอนุรักษ์นิยม (Conservative) ดังนั้นเข็มขัดรูปดาวอย่างที่เห็นในภาพด้านบนจึงเป็นอะไรที่เสี่ยงเหลือเกินที่จะถูกต่อต้าน อย่างไรก็ตามเนื่องจากทางสมาคมก็ปฏิบัติกับเข็มขัดเส้นนี้อย่างทรงคุณค่า และเรียกขานมันว่า “เข็มขัดแดง” ทำให้เข็มขัดเส้นนี้ได้รับการยอมรับจากแฟน ๆ มากขึ้น
ขออธิบายความหมายของ “เข็มขัดแดง” กันสักนิดครับ คำ ๆ นี้ แต่เดิมใช้เรียกเข็มขัดของสมาคม AJW (สมาคมที่โด่งดังมากๆในเมืองไทยยี่สิบปีก่อนนั่นแหละ) และที่ญี่ปุ่นก็มักจะเรียกแทนชื่อเข็มขัดด้วยสีแทนไปเลย (เช่นเข็มขัดแดง เข็มขัดขาว เป็นต้น) Stardom อาศัยจุดนี้และกล่าวอ้างกับแฟน ๆ ว่า “พวกเขาต้องการนำเกียรติภูมิของ AJW กลับมาอีกครั้ง” ดังนั้นเขาจะเรียกเข็มขัดของตนเองว่าเข็มขัดแดงเช่นเดียวกัน และจะใช้สไตล์การปล้ำในแบบที่ AJW เคยทำเมื่อหลายสิบปีก่อน คือเน้นความรุนแรง หนักหน่วงแบบที่ผู้ชายทำกัน เหตุนี้ทางสมาคมจึงได้ฐานของกลุ่มแฟน ๆ ดั้งเดิมบางส่วนมาผสมผสานกับแฟนๆรุ่นใหม่ เป็นการเพิ่มคุณค่าให้กับเข็มขัดอย่างชัดเจน
เข็มขัดเส้นนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 2011 และได้รับการป้องกันมาแล้วทั้งในญี่ปุ่น อเมริกา และในยุโรป อนึ่งมีเหตุการอื้อฉาวเกิดขึ้น ในวันที่ 10 สิงหาคม 2014 ในแมตช์ระหว่างแชมป์คือ Yoshiko กับผู้ท้าชิง Act Yasukawa ที่แชมป์นอกบทและเล่นงานผู้ท้าชิงจนกระดูกเบ้าตาแตกต้องยกเลิกการแข่งขันและปลดแชมป์พร้อมพักงานแชมป์โดยทันที เหตุการนี้ได้ชื่อว่าทำให้เกียรติภูมิของเข็มขัดตกลงมาอย่างชัดเจน และปัจจุบันทาง Stardom ก็พยายามอย่างยิ่งที่จะฟื้นฟูเกียรติภูมินั้นกลับมา
นี่ก็เป็นสี่เข็มขัดที่ผมมองว่าโดดเด่นที่สุดในวงการมวยปล้ำ ณ ปัจจุบันครับ น่าเสียดายที่วงการมวยปล้ำหญิงญี่ปุ่นปัจจุบันกำลังขาด “แทคทีม” ที่เป็นทีมจริง ๆ ไม่ได้เอานักมวยปล้ำมาจับคู่กันเรื่อยเปื่อย เพราะหากเรามองในลีคแทคทีม จะไม่เห็นว่ามีเข็มขัดเส้นไหนที่คนพูดถึงกันมาก ๆ เลย
นี่คือสิ่งที่วงการมวยปล้ำหญิงญี่ปุ่นกำลังฟื้นฟูอยู่ครับ และในส่วนของแชมป์เดี่ยวเอง ตอนนี้ก็มีหลายสมาคมที่กำลังสร้างฐานแฟนและชื่อเสียงของเข็มขัดตนเองอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น REINA JOSHI PURORESU ที่ป้องกันในญี่ปุ่นและเม็กซิโกเป็นหลัก หรือเข็มขัดของ SENDAI’S GIRLS PRO WRESTLING ที่เพิ่งได้แชมป์คนแรกไปเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเช่นกัน (เข็มขัดนี้จะเริ่มเน้นป้องกันในเขต Tohoku เป็นหลัก)
ผมเชื่อว่าในอีกไม่กี่ปีต่อจากนี้ ถ้าทุกอย่างยังเป็นไปตามครรลองที่เราเห็นกันอยู่ ณ ปัจจุบัน เข็มขัดทั้งสองจะกลายเป็นเป้าหมายของนักมวยปล้ำ และทรงคุณค่าไม่ต่างจากเข็มขัดชั้นนำเส้นอื่นๆที่ผมพูดถึงแน่นอนครับ
พบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดีครับ
เรื่องแนะนำ :
– นักมวยปล้ำหญิงญี่ปุ่นที่น่าจะประสบความสำเร็จใน WWE
– ‘DNA’ สายเลือดใหม่ของวงการมวยปล้ำญี่ปุ่นที่ต้องจับตามอง
– “ประเทศไทย” เป้าหมายของนักกีฬาต่อสู้ญี่ปุ่น
– หลงรักนักมวยปล้ำ จะทำไงดี?
– Pro Wrestling Noah… ค่ายมวยปล้ำญี่ปุ่นที่ใกล้ล่มสลาย?