ดิฉันยกสถานการณ์จริงที่เราเจอวันนี้จาก 4 ชั่วโมงในจตุจักรมาให้เพื่อนๆ ลองดู พร้อมเปรียบเทียบว่าหากเกิดเรื่องแบบเดียวกัน แม่ค้าไทยทำแบบนี้ แล้วแม่ค้าญี่ปุ่นจะทำอย่างไร ลองมาดูกันค่ะ

หลายๆ คนไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วติดใจร้านขายของที่นู่นมาก เรียงเป็นระเบียบเรียบร้อย ของก็กระจุ๊กกระจิ๊กน่ารัก คนขายสุภาพอ่อนน้อม ยิ้มแย้มต้อนรับอย่างดี

ตัดภาพมาที่ตลาดจตุจักรเมื่อวาน มีคุณป้าญี่ปุ่นคนหนึ่งก็ติดอกติดใจร้านขายของและตลาดในเมืองไทยมากเช่นกัน คุณป้าเป็นลูกศิษย์ภาษาไทยดิฉันเองค่ะ แกเครซี่การช้อปปิ้งที่เมืองไทยมาก และทุกครั้งที่ไปซื้อของด้วยกัน เราจะเจอเหตุการณ์ Culture Shock เสมอๆ แต่นั่นก็ยิ่งเป็นสิ่งที่ทำให้แกหลงรักเมืองไทย
ดิฉันยกสถานการณ์จริงที่เราเจอวันนี้จาก 4 ชั่วโมงในจตุจักรมาให้เพื่อนๆ ลองดู พร้อมเปรียบเทียบว่าหากเกิดเรื่องแบบเดียวกัน แม่ค้าไทยทำแบบนี้ แล้วแม่ค้าญี่ปุ่นจะทำอย่างไร ลองมาดูกันค่ะ ☺
1. แม่ค้ากระเป๋าสานไม้ไผ่

จริงๆ ตอนซื้อสินค้าตัวนี้ คุณป้าก็มีประเด็นเล็กน้อย คือ กระเป๋าแบบนี้ ใช้ได้แค่ช่วงหน้าร้อนเท่านั้น ที่ญี่ปุ่นพวกกระเป๋าหวายสาน กระเป๋าสานไม้ไผ่หรือกระจูดแบบนี้ จะใช้แค่หน้าร้อนค่ะ ใช้ได้แค่ 2 เดือน ถ้าใช้นอกฤดูจะถูกมองว่าเชย แต่พอแม่ค้าบอกใบละ 270 บาท ป้าก็โอเค (ในความถูก)
ทีนี้ เรื่องของเรื่องคือ คุณป้าดิฉันดันไปสังเกตเห็นว่า มันมีไม้ไผ่ที่โผล่เป็นซี่เล็กๆ ออกมาจากกระเป๋า เลยชี้ให้แม่ค้าดู
แม่ค้าญี่ปุ่น: รีบขอโทษขอโพยแล้วไปหยิบกระเป๋าใบอื่นมาให้ลูกค้าเลือกใหม่
ความเป็นจริง: แม่ค้ายิ้มน้อยๆ ชิลๆ แล้วบอกว่า “เอากรรไกรมาตัดไอ้ที่ยื่นมาก็เรียบร้อยแล้วจ้า”
บทเรียนสอนใจญี่ปุ่น: อย่ามัวแต่นั่งรอความช่วยเหลือจากผู้ประกอบการหรือรัฐบาล เราต้องหัดแก้ปัญหาด้วยตัวเอง
(ป.ล. ป้าช็อคมากเมื่อดิฉันแปลคำตอบแม่ค้าเสร็จ)
2. แม่ค้าหินอัฟกานิสถาน
คราวที่แล้วคุณป้าและลูกสาว พร้อมทั้งดิฉันมาช้อปจตุจักร เราบังเอิญเดินผ่านร้านที่ขายพวกหินและลูกปัดอัฟกานิสถาน-เนปาลร้านหนึ่ง ครั้งนี้ลูกสาวคุณป้าเลยพรีออเดอร์ลูกปัดแบบภาพด้านล่าง (ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร) สัก 100 อัน เขาจะเอาไปปักบนกระเป๋า ปักบนกรอบรูปเก๋ๆ

คุณป้ากับดิฉันเลยกลับมาเยือนร้านนี้อีกครั้ง เราถามสาวน้อยหน้าหวานที่นั่งเฝ้าร้านว่า นี่แผ่นละเท่าไรจ๊ะ น้องตาหวานบอกว่า แผ่นละ 30 บาทจ้ะ เราพยายามใช้สิทธิ์ลูกค้าเก่า โดยท้วงว่าเคยซื้อแผ่นละ 20 บาท
แม่ค้าญี่ปุ่น: ต้องขอประทานโทษด้วยนะคะ ทางร้านจำต้องปรับราคาขึ้นเนื่องจากอัตราค่าแลกเปลี่ยนเงิน…บลาๆๆ (คือ นางมีเหตุผลรองรับ บอกได้ชัดเจนว่าทำไมถึงขึ้นหรือลดราคา และบอกราคาไหนก็ขายราคานั้นเลย ไม่ต้องต่อ)
ความเป็นจริง: น้องตอบ “โอเคค่ะ เชิญเลือกได้เลยค่ะ”
บทเรียนสอนใจญี่ปุ่น: ราคาที่ตกลง ขึ้นอยู่กับเทคนิคการต่อรองราคา และความสามารถในการจดจำราคาที่เคยซื้อ
3. แม่ค้าเสื้อยืด
ดิฉันกับป้าเดินผ่านร้านเสื้อยืดร้านหนึ่ง สกรีนลายสวยดี เลยแวะเข้าไปดู ป้าถูกใจเสื้อลายลิงน้อยตัวหนึ่งที่แขวนโชว์ตรงกำแพงร้าน เลยถามว่า “มีไซส์ L ไหมก๊ะ”
แม่ค้าญี่ปุ่น: “กรุณารอสักครู่นาก๊ะ” แล้ววิ่งไปดูของที่ชั้นวางให้ ถ้าไม่มี นางจะกลับมาด้วยสีหน้าเจ็บปวด คำขอโทษจะพรั่งพรูออกมาจากปากนาง
ความเป็นจริง: น้องที่เฝ้าร้านทำสีหน้าเพลียๆ พร้อมชี้นิ้วไปที่ราวแขวนเสื้อโซนหนึ่ง แล้วตอบว่า “มีเท่าที่โชว์นี่แหละจ้ะ”
(แปลว่ามีหรือไม่มี? หรือเราต้องไปค้นหาเอง?)
บทเรียนสอนใจญี่ปุ่น: อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
สุดท้าย เราไม่ซื้อเสื้อร้านนี้ค่ะ (มันไม่มีไซส์… ค้นพบจากการไปเมียงมองที่ราวแขวนเสื้อเอง)
4. พ่อค้า/แม่ค้าขายถุงพลาสติก
ร้านสุดท้ายที่เราแวะวันนี้ คือ ร้านขายถุงพลาสติกเป็นโหลๆ ตรงจตุจักรโครงการ 11 ซอย 4 (จำได้แม่นเพราะถามคนหลายคนมากกว่าจะเจอ) คุณป้าบอกว่า ชอบถุงพลาสติกลายทางๆ แบบนี้น่ารักดี เอาไว้ใส่เบนโตะหรือของจุ๊กจิ๊กให้หลานไปโรงเรียนได้

แน่นอนร้านนี้ขายถุงหลายไซส์มาก เราก็หยิบๆ ดูๆ ป้าถามว่าอยากได้ถุงสีม่วงไซส์เล็กกว่านี้มีไหม
แม่ค้าญี่ปุ่น: กุลีกุจอหาให้
ความเป็นจริง: หนุ่มน้อยที่ยืนหน้าแผงทำหน้านิ่งๆ ตาแบ๊วๆ ไม่รับรู้คำพูดของพวกเราทั้งสิ้น
เรามารู้จากเจ๊เจ้าของร้านทีหลังว่า พ่อค้าหนุ่มรายนี้เป็นชาวต่างชาติเพื่อนบ้านที่เข้ามาช่วยงานแบกของยกของ ฟังภาษาไทยยังไม่ค่อยออก เราเลยต้องถามคำถามเดิมกับเจ๊ที่นั่งอยู่หลังร้านอีกรอบ
บทเรียนสอนใจญี่ปุ่น: AEC อยู่ใกล้ตัวเรา (ญี่ปุ่น) มากกว่าที่คิด
หลังจากนั้น ดิฉันก็พาคุณป้าไปต่อตลาดโบ๊เบ๊ -> แวะกินบะหมี่ข้างทาง -> เอ็มโพเรี่ยม -> Top supermarket

(ตอนอยู่จตุจักร ไม่ได้คิดว่าจะเขียนเรื่องนี้ เลยไม่ได้ถ่ายรูปอะไรไว้เลย เจ็บใจมาก)
คาดว่าป้ายังช้อปมันส์ที่จตุจักรไม่หาย เลยมาช้อปต่อที่ซูเปอร์มาร์เก็ต แกพยายามหาโอริโอแบบ Half คือ มี 2 รสในม้วน (แท่ง?) เดียว เราพยายามหาแล้วแต่ไม่มี แกบอกว่า หลานๆ ชอบมาก เพราะญี่ปุ่นไม่มี … โอ้แม่เจ้า ฉันยังไม่รู้เลยว่ามันมีอะไรแบบนี้ในเมืองสยามนี้ด้วย
สุดท้ายคุณป้าก็ได้ถั่วโก๋แก่ (รสไก่กับรสวาซาบิ) ไป 10 กระป๋อง เลย์รสกุ้งลอบสเตอร์ ขนมทองม้วนเคลือบช็อคโกแล็ต พริทซ์รสต้มยำกุ้งกับรสลาบ ขนมเยลลี่ Yupi เยลลี่ yoyo ไปฝากหลาน แชมพูและครีมนวด Dove (แกบอกว่าฉลากด้านหลังเป็นภาษาไทย สวยดี …. มึนมะ) รวมแล้ว 2 พันติ๊ดๆ บาท หากรวมกับสิ่งที่แกช้อปที่จตุจักรวันนี้ ป้าคงทำยอดไปเกือบหมื่นบาท ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยอีกนิด
ส่วนค่าแรงดิฉันวันนี้….แต่น แตน แต๊นนนน

คุณป้าอุตส่าห์หอบมาฝาก ^^ อาริกาโตะ โกไซมัส
ทักทายพูดคุยกับเกตุวดี ได้ที่ >>> Facebook เกตุวดี
ผักกาด! ดิฉันเริ่มพอจะเล่นทวิตเตอร์เป็นแล้ว 555 ใครเล่นทวิตเตอร์ มาติดตามความเวิ่นเว้อของเกตุวดีกันได้ที่นี่เลยจร้า https://twitter.com/Gadewadee_Maru

เพื่อนๆ ทราบหรือยังว่า คอลัมน์ Japan Gossip ของพวกเราถูกรวมเล่มเป็นหนังสือแล้ว!!! ชื่อ “Japan Gossip: เม้าท์ญี่ปุ่นให้คุณยิ้ม” มีแทรกการ์ตูนและเกร็ดเรื่องเล่าญี่ปุ่นเพิ่มด้วย

การ์ตูนปกน่ารักมาก แต่ยืนยันว่า เกตุวดีตัวจริงสวยและเซ็กซี่กว่า

ใครสนใจ ลองหาไว้วางในห้องน้ำเพื่อนั่งอ่านให้ขำยามเช้าตอนประกอบภารกิจ หรือจะซื้อฝากคนที่จะไปเที่ยว/เรียนญี่ปุ่นก็ได้ เราไม่ว่ากัน หาซื้อได้ตามร้านหนังสือทั่วไป เช่น ซีเอ็ด นายอินทร์ เลยค่ะ เล่มละ 180 บาท