แนวโน้มสัตว์เลี้ยงในประเทศญี่ปุ่นและโอกาสของชาวไทยที่ทำงานด้านสุขภาพสัตว์ ตอนที่ 2
อย่างที่เราทราบกันเป็นอย่างดีครับ ประเทศญี่ปุ่นนับเป็นประเทศที่มีความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและวิทยาการทางการแพทย์เป็นอย่างยิ่ง รวมไปถึงด้านสัตวแพทย์ด้วย วัฒนธรรมการเลี้ยงสัตว์ของชาวญี่ปุ่นนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่น่าสนใจ ทั้งในแง่ของทัศนคติที่มีต่อสัตว์เลี้ยง แนวทางในการเลือกสถานพยาบาล ระบบการดูแลรักษา ตลอดจนค่าใช้จ่ายต่างๆ ดังมีรายละเอียดต่อไปนี้ครับ
มุมมองของชาวญี่ปุ่นที่มีต่อสัตว์เลี้ยง
คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่มองว่าสัตว์เลี้ยงเป็นสมาชิกหนึ่งในครอบครัว พวกเขาให้ความรัก ความเอาใจใส่ และการดูแลเป็นอย่างดี มีการจัดสรรเวลาในแต่ละวันสำหรับเล่นและทำกิจกรรมร่วมกับสัตว์เลี้ยงเสมอ ในขณะเดียวกัน คนญี่ปุ่นก็ยังคงรักษาไว้ซึ่งระเบียบวินัยในการควบคุมดูแลสัตว์เลี้ยงด้วย เช่น การฝึกขับถ่าย การเดินด้วยสายจูง การห้ามเข้าไปในบางพื้นที่ในบ้าน ซึ่งแตกต่างจากคนไทยที่มักจะค่อนข้างตามใจสัตว์เลี้ยง จนบางครั้งอาจขาดการควบคุม
อย่างไรก็ตาม ด้วยพื้นที่อยู่อาศัยค่อนข้างจำกัดในเมืองใหญ่ของญี่ปุ่น ทำให้ชาวญี่ปุ่นส่วนมากมีข้อจำกัดในการเลี้ยงสัตว์ขนาดใหญ่ จึงมักพบเห็นสุนัขสายพันธุ์ขนาดเล็ก เช่น ชิบะ หรือ หมาป่าญี่ปุ่น (Shiba Inu), ชิสุ (Shih Tzu), ปอมเมอเรเนียน หรือแมวพันธุ์ต่างๆ อาศัยตามบ้านเรือนของชาวญี่ปุ่นเป็นส่วนใหญ่ ต่างจากบ้านเราที่นิยมสุนัขพันธุ์ใหญ่จำพวก ลาบราดอร์ ชเนาเซอร์ ร็อตไวเลอร์ เป็นต้น
การเลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์
หลายคนอาจเคยอ่านการ์ตูนญี่ปุ่น “ซุปเปอร์ด็อกเตอร์เค” ซึ่งจะมีรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการเลือกพบหมอชาวญี่ปุ่นจะเลือกตามชื่อเสียง ขีดความสามารถ ของแพทย์คนนั้นๆที่มีลงรายละเอียดตามข่าว นิตยสาร หนังสือพิมพ์ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในสังคมประเทศญี่ปุ่นมาช้านานแล้ว ด้านการดูแลสัตว์ก็ไม่แตกต่างกันครับ เมื่อสัตว์เลี้ยงไม่สบายหรือเจ็บป่วย ชาวญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับชื่อเสียงและความเชี่ยวชาญของสัตวแพทย์เป็นหลัก มีการติดตามข้อมูลผ่าน
สื่อต่างๆ ทั้งวารสารวิชาการ นิตยสารสัตว์เลี้ยง รายการโทรทัศน์ หรือเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลและคำแนะนำด้านการดูแลสัตว์อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการสอบถามจากเพื่อนหรือคนรู้จักที่เคยไปใช้บริการมาก่อน
โดยทั่วไป คนญี่ปุ่นมักให้ความเชื่อถือและไว้วางใจในตัวสัตวแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์สูง ไม่ว่าจะเป็นด้านอายุรกรรม ศัลยกรรม หรือทันตกรรม ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมเวลาคนญี่ปุ่นเจ็บป่วยเอง ที่มักจะค้นหาและไปพบแพทย์ที่ชำนาญเฉพาะโรคนั้นๆ เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับการรักษาที่ถูกต้องและดีที่สุด ดังนั้น เกณฑ์ในการเลือกโรงพยาบาลหรือคลินิกรักษาสัตว์ของชาวญี่ปุ่นนอกเหนือจากทำเลที่ตั้งและความสะดวกในการเดินทางแล้ว จุดสำคัญคือความชำนาญเฉพาะด้านของสัตวแพทย์ประจำสถานพยาบาลนั้นๆ
นอกจากนี้ คนญี่ปุ่นยังให้ความสนใจกับรายละเอียดปลีกย่อยที่เกี่ยวเนื่องกับการให้บริการด้วย เช่น ความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความใส่ใจในการสื่อสารและสร้างความเข้าใจแก่เจ้าของ ความพร้อมของอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย รวมถึงบรรยากาศและการตกแต่งภายในที่เอื้อต่อการผ่อนคลายความเครียดและความวิตกกังวลขณะรอนำสัตว์เลี้ยงเข้าพบสัตวแพทย์ด้วย
ระบบการดูแลรักษาสัตว์ของประเทศญี่ปุ่น
ประเทศญี่ปุ่นมีการจัดการระบบสุขภาพสัตว์เลี้ยงที่ครอบคลุมและบูรณาการกันเป็นอย่างดีระหว่างภาครัฐและเอกชน โดยจะเห็นได้ชัดเจนจากความร่วมมือแบบองค์รวมระหว่างคณะสัตวแพทยศาสตร์ในมหาวิทยาลัยกับโรงพยาบาลสัตว์ทั่วไป ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาล โรงพยาบาลสัตว์ของมหาวิทยาลัยซึ่งได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐเป็นอย่างดี ทั้งในด้านงบประมาณ บุคลากร และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ จะทำหน้าที่เป็นผู้นำและเป็นต้นแบบในการกำหนดมาตรฐาน รูปแบบการดำเนินงาน และแนวทางปฏิบัติที่เป็นเลิศทางสัตวแพทย์ มีการผลิตผลงานวิจัยและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้สามารถดูแลรักษาสัตว์ได้ดียิ่งขึ้น และคอยถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่บุคลากรในโรงพยาบาลสัตว์ทั่วไปอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่จะแตกต่างจากประเทศไทยคือ จำนวนเคสสัตว์ป่วยที่รับจะไม่เยอะเท่ากับประเทศไทย ช่วงเวลาการทำงานของบุคลากรในโรงพยาบาลสัตว์ เวลาทำความสะอาด จะมีความชัดเจน
ขณะเดียวกัน ภาคเอกชนก็เข้ามามีบทบาทอย่างสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจโรงพยาบาลสัตว์ให้เติบโตและพัฒนาไปพร้อมๆกัน ด้วยศักยภาพของภาคธุรกิจในการระดมทุน การลงทุนในเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัย การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน และการจัดการระบบงานที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้สัตว์ป่วยสามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพสูง รวดเร็ว ใกล้บ้าน และครอบคลุมทั่วทั้งประเทศมากขึ้น
ทั้งนี้ ในปี 2024 ญี่ปุ่นมีโรงพยาบาลสัตว์เอกชนที่ผ่านการรับรองมาตรฐานแล้วประมาณ 12,500 แห่งทั่วประเทศ นอกเหนือจากโรงพยาบาลสัตว์ในมหาวิทยาลัยอีกหลายสิบแห่ง แต่ละแห่งมีความร่วมมือกันทางวิชาการ มีการจัดประชุม สัมมนา ฝึกอบรมเพื่อพัฒนาความรู้และทักษะของบุคลากรสม่ำเสมอ มีการส่งต่อข้อมูลผู้ป่วย ปรึกษาหารือในเคสที่ซับซ้อน ร่วมกันพัฒนาเทคนิคการรักษาแบบใหม่ๆ เป็นต้น ซึ่งกลไกความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นนี้นับเป็นหัวใจสำคัญของการให้บริการทางสัตวแพทย์ที่ดีเยี่ยมของญี่ปุ่น
นอกจากนี้ การจัดการระบบฐานข้อมูลสุขภาพสัตว์ออนไลน์ที่เชื่อมโยงระหว่างโรงพยาบาลสัตว์กับหน่วยงานรัฐ เช่น กรมปศุสัตว์ และกระทรวงสาธารณสุขอย่างเป็นระบบ ช่วยให้สามารถตรวจสอบข้อมูลและติดตามการระบาดของโรคติดต่อในสัตว์ได้อย่างรวดเร็ว เอื้ออำนวยต่อการป้องกันโรคในระดับประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยต่อสุขภาพมนุษย์จากโรคสัตว์เลี้ยงสู่คนอีกด้วย
ราคาค่ารักษาพยาบาลสัตว์และโอกาสการทำงานด้านสุขภาพสัตว์ของคนไทย
ระดับราคาค่ารักษาพยาบาลและการบริการต่างๆ ในโรงพยาบาลสัตว์ของญี่ปุ่นจะค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับประเทศไทย ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 3-4 เท่าตัว ทั้งค่าตรวจรักษา ค่าฉีดวัคซีน ค่าทำหมัน ตลอดจนค่าผ่าตัด หรือค่าพักค้างคืนในโรงพยาบาล อย่างไรชาวญี่ปุ่นก็ยินดีและเต็มใจที่จะจ่าย เพราะถือเป็นค่าใช้จ่ายที่คุ้มค่าสำหรับสมาชิกในครอบครัวที่พวกเขารัก อีกทั้งพวกเขามั่นใจว่าจะได้รับการดูแลรักษาที่ดี
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จำนวนชาวญี่ปุ่นที่ย้ายถิ่นฐานเข้ามาทำงานในประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยสำคัญมาจากความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นทางเศรษฐกิจและการลงทุนระหว่างไทยกับญี่ปุ่น การขยายตัวของบริษัทญี่ปุ่นในไทย รวมถึงสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ของไทยที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตของชาวต่างชาติ จึงไม่น่าแปลกใจที่ครอบครัวชาวญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยตัดสินใจย้ายเข้ามาอยู่อาศัยในไทยด้วยเช่นกัน
เมื่อครอบครัวชาวญี่ปุ่นเข้ามาตั้งถิ่นฐานในไทย สิ่งที่ติดตามมาด้วยก็คือสัตว์เลี้ยงที่พวกเขานำเข้ามาด้วย หรือที่หลายครอบครัวเลือกจะหาเลี้ยงเพิ่มเติมระหว่างอยู่ในไทย ส่งผลให้ประชากรสัตว์เลี้ยงในกลุ่มคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในไทยค่อยๆ ขยายตัวตามไปด้วย ตามปกติแล้ว คนญี่ปุ่นมีความพิถีพิถันในการดูแลสุขภาพสัตว์ค่อนข้างมาก โดยมักจะพาสัตว์ไปตรวจสุขภาพ ฉีดวัคซีน ถ่ายพยาธิอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงไม่ลังเลที่จะจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่ค่อนข้างสูงหากสัตว์เลี้ยงเจ็บป่วย
อย่างไรก็ตาม ด้วยความแตกต่างทางภาษาและวัฒนธรรม ทำให้ชาวญี่ปุ่นส่วนหนึ่งยังคงเกิดความกังวลใจที่จะพาสัตว์เลี้ยงไปใช้บริการจากโรงพยาบาลสัตว์หรือคลินิกทั่วไปในไทย พวกเขามักมองหาบุคลากรและสถานพยาบาลที่สามารถสื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้ เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันในการอธิบายอาการ แนวทางการรักษา และการดูแลสัตว์เลี้ยงในระยะยาว อีกทั้งยังต้องการการบริการที่เข้าใจถึงวัฒนธรรมและปรับตัวให้เข้ากับรูปแบบการใช้ชีวิตของคนญี่ปุ่นด้วย
สถานการณ์นี้จึงเป็นโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจสำหรับบุคลากรทางการสัตวแพทย์ในไทยที่มีทักษะภาษาญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นสัตวแพทย์ พยาบาลสัตว์ ผู้ดูแลสัตว์ หรือนักตัดแต่งขนสัตว์ ที่มีความเข้าใจในวัฒนธรรมการเลี้ยงสัตว์ของชาวญี่ปุ่น โดยอาจเปิดคลินิกหรือร้านบริการเฉพาะกลุ่มลูกค้าญี่ปุ่น มีเว็บไซต์หรือสื่อโซเชียลมีเดียเป็นภาษาญี่ปุ่น เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายและเกิดความมั่นใจในการใช้บริการ
นอกจากนี้ การเชื่อมโยงกับบริษัทญี่ปุ่นในไทย เช่น การเสนอแพ็กเกจส่วนลดค่าบริการให้กับพนักงานบริษัทญี่ปุ่น หรือการเข้าร่วมออกบูธในงานสังคมของชาวญี่ปุ่นในไทย ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อสูง เข้าใจวัฒนธรรม และพร้อมที่จะจ่ายเพื่อบริการระดับพรีเมี่ยมที่จะช่วยดูแลสัตว์เลี้ยงอันเป็นที่รักของพวกเขา
ทั้งนี้ สำหรับบุคลากรทางสัตวแพทย์ชาวไทยที่มองเห็นโอกาสทางการตลาดนี้ การพัฒนาทักษะภาษาญี่ปุ่นควบคู่ไปกับความรู้และประสบการณ์ทางวิชาชีพจะช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันได้เป็นอย่างดี อีกทั้งการศึกษาทำความเข้าใจวัฒนธรรม ค่านิยม และพฤติกรรมของลูกค้ากลุ่มนี้ ก็มีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อนำไปสู่การออกแบบบริการที่สอดคล้องกับความคาดหวังของลูกค้าชาวญี่ปุ่นต่อไป
ภาพรวมแล้ว แนวโน้มการย้ายถิ่นฐานของครอบครัวชาวญี่ปุ่นเข้ามายังประเทศไทยนั้น นับเป็นโอกาสที่ท้าทายและน่าสนใจสำหรับบุคลากรด้านสัตวแพทย์ไทยที่มีความพร้อมและต้องการมุ่งเข้าสู่การให้บริการในตลาดเฉพาะกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงนี้ ทั้งนี้ การเริ่มต้นด้วยการพัฒนาทักษะภาษา ความเข้าใจวัฒนธรรม การออกแบบการบริการที่เหมาะสม รวมถึงกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดเชิงรุกไปยังกลุ่มเป้าหมาย จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถก้าวเข้าไปมีบทบาทในตลาดนี้ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาวครับ
จะเห็นได้ว่าการดูแลสัตว์เลี้ยงของชาวญี่ปุ่นมีความพิถีพิถันและเอาใจใส่สูงมาก ทำให้เราได้เห็นความแตกต่างเมื่อเปรียบเทียบกันกับที่ประเทศไทยและประเทศอื่นๆ นอกจากนี้ก็ถือเป็นโอกาสของคนไทยที่ทำงานเกี่ยวกับสุขภาพสัตว์
ไม่ว่าจะเป็นสัตวแพทย์ สัตวบาล นักเทคนิคสัตวแพทย์และเทคนิคการแพทย์ นักการพยาบาลสัตว์ ที่มีโอกาสได้ดูแลสัตว์เลี้ยงให้กับชาวญี่ปุ่นที่เดินทางมาทำงานที่ประเทศไทยครับ
เรื่องแนะนำ :
– แนวโน้มสัตว์เลี้ยงในประเทศญี่ปุ่น ตอนที่ 1
– โรนิน: ทางเลือกของนักเรียนญี่ปุ่นที่ไม่ผ่านการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในครั้งแรก
– โกลเด้นวีค ตอนที่ 2: นักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติช่วงวันหยุดโกลเด้นวีค
– โกลเด้นวีค ตอนที่ 1: กิจกรรมยอดนิยมของชาวญี่ปุ่นในช่วงวันหยุดโกลเด้นวีค
– 6 คำแนะนำเรื่อง “การแต่งงาน” จากพี่สาวญี่ปุ่น!
#แนวโน้มสัตว์เลี้ยงในประเทศญี่ปุ่นและโอกาสของชาวไทยที่ทำงานด้านสุขภาพสัตว์ ตอนที่ 2