ท่านเคยประสบปัญหาคนญี่ปุ่นไม่เปิดใจหรือไม่ ไม่ว่าท่านจะเล่าเรื่องส่วนตัวไปเพียงใด ท่านได้รับแต่คำตอบว่า “อืม เหรอ สุโก้ย” กลับมา แต่ไม่เคยได้รับรู้เรื่องราวของฝ่ายตรงข้ามอย่า เสียใจไป … ลองมาดูวิธีที่คนญี่ปุ่นคบกันก่อน ขอเริ่มเล่ากรณีสาวๆ นะคะ อย่างเวลาสาวญี่ปุ่นไปสังสรรค์ทานข้าวมุ้งมิ้งเม้าท์มอย พวกเธอทำอะไรกันบ้างนะ
ดิฉันได้รับคำถามบ่อยๆ ว่า “ทำยังไง ถึงจะสนิทกับคนญี่ปุ่นได้คะ/ครับ”
ท่านเคยประสบปัญหาคนญี่ปุ่นไม่เปิดใจหรือไม่ ไม่ว่าท่านจะเล่าเรื่องส่วนตัวไปเพียงใด ท่านได้รับแต่คำตอบว่า “อืม เหรอ สุโก้ย” กลับมา แต่ไม่เคยได้รับรู้เรื่องราวของฝ่ายตรงข้าม
อย่าเสียใจไป … ลองมาดูวิธีที่คนญี่ปุ่นคบกันก่อน ขอเริ่มเล่ากรณีสาวๆ นะคะ อย่างเวลาสาวญี่ปุ่นไปสังสรรค์ทานข้าวมุ้งมิ้งเม้าท์มอย พวกเธอทำอะไรกันบ้างนะ
1. โจะชิไค (女子会:Joshikai)
หมายถึง การไปทานข้าวร่วมกันเฉพาะหมู่เพื่อนสาวเท่านั้น คำว่า “สาว” ในที่นี้ คนญี่ปุ่นใช้กว้างๆ อนุโลมถึงสาวอายุประมาณช่วง 40 ปีได้ค่ะ อาจเป็นเพื่อนสนิทสมัยมัธยม มหาลัย หรือเพื่อนที่สนิทกันในที่ทำงาน
สาวญี่ปุ่นรู้สึกว่าหากไปทานข้าวกับเพื่อนสาวด้วยกัน จะปลดปล่อยเม้าท์มอยได้เต็มที่มากกว่า และส่วนมากมักจะไปกันไม่เกิน 4 คน (หากเกินกว่านั้น พวกเธอเกรงว่าจะคุยได้ไม่ทั่วถึง) เรื่องที่สาวๆ คุยก็มีตั้งแต่เม้าท์มอยแฟนหรือสามี คุยเรื่องสัพเพเหระ เลยไปถึงเรื่องทะลึ่งๆ ใต้สะดือก็มี ใครนึกไม่ออก ให้นึกถึงเหล่าตัวเอกซีรี่ส์อเมริกันชื่อดัง Sex and the city เพียงแต่สาวญี่ปุ่นไม่หัวเราะดังเท่ายัยซาแมนต้าเท่านั้นเอง
ส่วนร้านอาหารยอดนิยมสำหรับการโจะชิไค หรือมีทติ้งเพื่อนสาวนั้น ต้องเป็นร้านที่บรรยากาศสบายๆ หรือไม่ก็ชิคๆ เก๋ๆ ไปเลย ยิ่งมีห้องส่วนตัวหรือฉากกั้นก็ดี พวกเธอจะได้วี้ดว้ายกันได้เต็มที่ ส่วนอาหารควรเป็นอาหารจุ๋มจิ๋มน่ารัก แนวอาหารอิตาลีหรือฝรั่งเศสจะได้รับความนิยมมากเพราะเดิร์นดี ส่วนเมนูอาหารพวกเธอก็จะเลือกเมนูที่แคลอรี่ต่ำๆ ไม่ค่อยมีของทอด มีผักผสมๆ บ้าง
ร้านอาหารที่รู้ใจจึงมักจัดเซ็ทอาหารเอาใจพวกเธอ ให้ลองหลายๆ เมนู อย่างละนิดอย่างละหน่อย สาวๆ ชอบได้ลองหลายๆ อย่างแบบไม่ต้องกลัวอ้วนด้วย (ส่วนตัว คิดว่าไอเดียนี้ดีมากๆ และผลักดันให้ร้านอาหารในไทยโปรดนำไปใช้)
ที่ขาดไม่ได้ คือ ร้านอาหารนั้น ต้องมีของหวานน่าทานๆ มีเค้กหรือพุดดิ้งน่ารักๆ พอยกมาเสิร์ฟที สาวญี่ปุ่นก็จะวี้ดว้าย คาวาอี้ กันทั้งโต๊ะ เป็นการสร้างสีสันให้กับโจะชิไค เป็นอย่างดี


สิ่งที่สาวญี่ปุ่นพยายามระวังคือ อย่าพูดเรื่องตัวเองมากเกินไป เดี๋ยวเพื่อนๆ จะเบื่อหรือหมั่นไส้เอาได้ เจอเว็บหนึ่งถึงกับบอกว่าจงพูดเรื่องตัวเองภายใน 1 นาทีเท่านั้น เพื่อให้คนอื่นได้มีโอกาสเม้าท์บ้าง (ต้องจับเวลากันเลยเหรอคะ)
สำหรับการไปกินข้าวในหมู่เพื่อนสาวที่มีทั้งสาวโสดและสาวแต่งงานแล้ว สาวที่แต่งงานแล้ว กรุณาอย่าคุยเรื่องลูกหรือสามีสุดแสนน่ารักนัก เพราะเพื่อนอาจหมั่นไส้ได้ ขณะเดียวกัน สาวโสดทั้งหลายก็อย่าโม้เรื่องชีวิตแสนอิสระ ไปเที่ยวโน่น ซื้อของที่นั่นมากนัก เดี๋ยวเพื่อนที่แต่งงานแล้วจะหงอยได้ (ขนาดเป็นเพื่อนกัน ก็ยังแคร์หัวข้อคุยกันมากๆ สมเป็นคนญี่ปุ่นจริงๆ)
2. มาม่าโทโมะไค (ママ友会:Mama-tomo-kai)
ท่านใดที่เคยไปญี่ปุ่น ส่วนใหญ่จะเห็นเหล่าคุณแม่ยังสาวเข็นรถเข็นเด็ก หรือจูงลูกเดินนุ้งนิ้งในห้างสรรพสินค้า ตอนกลางวันแสกๆ วันธรรมดา เนื่องจากพวกเธอเป็นแม่บ้าน มีหน้าที่หลักคือดูแลปากท้องของสามีและลูกให้เป็นอย่างดี (อาชีพแม่บ้านญี่ปุ่นนี่หนักและน่าเบื่อจริงๆ เหมือนเคยเล่าในหนังสือเล่ม Japan Love Gossip ไปแล้ว …)
พอไม่ได้ไปทำงานบริษัท พวกเธอจะหาเพื่อนได้ที่ไหน
คำตอบ คือ สนามเด็กเล่นและโรงเรียนลูกค่ะ
บริเวณหน้าอพาร์ทเม้นท์ญี่ปุ่นมักจะมีสวนสาธารณะเล็กๆ พร้อมของเล่นเด็กต่างๆ นานา ตั้งแต่ชิงช้า ม้านั่ง คุณแม่ก็มักจะพาลูกน้อยไปเล่นที่สวนสาธารณะ ภาษาญี่ปุ่นถึงกับมีศัพท์เรียก “โคเอน เดบิวต์ (公園デビュー)” แปลว่า การพาลูกไปสวนสาธารณะครั้งแรก ซึ่งเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นและสุดแสนน่ากังวลสำหรับเหล่าคุณแม่มาก เพราะไม่รู้ว่าจะเข้ากับเหล่าแม่ๆ ที่รู้จักกันอยู่ก่อนแล้วหรือเปล่า ต้องหาทางเนียนๆ เข้ากลุ่มเม้าท์มอยให้ได้ (แม่บ้านญี่ปุ่นก็กดดันไม่แพ้มนุษย์เงินเดือนญี่ปุ่นนะคะ)
อีกโอกาสหนึ่งก็คือ เมื่อลูกเข้าโรงเรียนประถม ส่วนใหญ่ ลูกสนิทกับใคร แม่ก็สนิทกับแม่ของเพื่อนสนิทลูกนี่แหละ

ทีนี้พอรู้จักกันก็ต้อง “พยายาม” สนิทกันไว้ ส่วนใหญ่เหล่าแม่ๆ มักชวนกันไปทานอาหารกลางวัน หรือจิบน้ำชายามบ่าย (ใครอยากเห็นภาพนี้ ให้ไปร้านกาแฟเดิร์นๆ แถวทองหล่อหรือห้าง Emporium ตอนบ่ายๆ) นี่แหละค่ะ ที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า มาม่าโทโมะไค (ママ友会:Mama tomo kai) หรือการสังสรรค์ในหมู่คุณแม่
มาม่าโทโมะไค เป็นประโยชน์ด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างเหล่าแม่ๆ เป็นอย่างยิ่ง เช่น โรงพยาบาลเด็กที่ไหนดี ซื้อเสื้อผ้าเด็กที่ไหน เมื่อไรมีของถูกหรือลดราคา ทำนองนี้ แต่คนญี่ปุ่นเขาก็ไม่ได้เปิดใจให้กันง่ายๆ (ใครอยากสนิทกับคนญี่ปุ่น โปรดทำใจ ขนาดคนญี่ปุ่นด้วยกัน เขาก็ยังไม่ค่อยเปิดใจ) เขาจะพยายามรักษาระยะห่างให้พอดี ไม่เข้าไปละลาบละล้วงเรื่องของฝ่ายตรงข้ามมากเกินไป ไม่งั้นอาจทำให้ฝ่ายตรงข้ามไม่พอใจได้
สิ่งที่เหล่าแม่ๆ กลัวที่สุด คือ การโดนเพื่อนคุณแม่หมั่นไส้หรืออิจฉา บางกลุ่มถึงกับมี “มาม่าบอส (ママボス)” คือ คุณแม่ที่เป็นผู้นำในกลุ่มนั้นๆ ศักดิ์ศรีเหมือนไจแอนท์ในเรื่องโดราเอมอน (และแม่คนอื่นๆ ก็ต้องทำตัวเป็นซูเนโอะ เนียนๆ พินอบพิเทา ค่อยๆ รักษาความสัมพันธ์กันไป)
เพราะฉะนั้นเวลาไปสังสรรค์ในหมู่แม่ๆ คุณแม่ญี่ปุ่นจะพยายามอย่างยิ่งที่จะ ….
1. ไม่แต่งหรูหรือประดับเครื่องประดับที่โดดเด่นเกินไป ไม่งั้นจะโดนหมั่นไส้ แต่งเรียบๆ ให้กลืนๆ ไปกับคนอื่นนี่แหละ ดีที่สุด
2. ไม่พูดถึงเรื่องสามีตัวเองมากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องดีๆ อย่างเงินเดือน งานที่ทำ โบนัส บางทีแม้แต่ชื่อบริษัทอาจไม่ควรบอก เพราะหากเป็นบริษัทดังฟังชื่อบริษัทและดูอายุปุ๊บ ก็พอจะคำนวณเงินเดือนของสามีได้แล้ว หากเงินเดือนมากๆ อาจโดนหมั่นไส้ได้
บทสนทนาในหมู่แม่ๆ จึงเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับลูกๆ เป็นหลัก ไม่ค่อยพาดพิงสามีหรือเรื่องราวของตัวเองสักเท่าไร เพราะกลัวโดนเกลียดสุดชีวิต (เขียนไปน้ำตาจะไหล … ทำไมชีวิตโดนกดดันกันขนาดนี้ … และกำลังแปลกใจที่ทำไมดิฉันมีความรู้เรื่องสมาคมแม่ๆ ขนาดนี้ สั่งสมมาจากไหนกัน…ยังไม่มีลูกและสามีแท้ๆ)
เป็นอีกบทความหนึ่งที่อยากจะกระซิบบอกว่า สังคมญี่ปุ่นก็มีกฎเกณฑ์มีธรรมเนียมบางๆ ที่เราอาจมองไม่เห็น หากไม่ไปอยู่จะไม่รู้ อยากให้คนไทยได้เห็นและเข้าใจคนญี่ปุ่น (สาวญี่ปุ่น) กันยิ่งขึ้นค่ะ
ติดตามคอลัมน์ Japan Gossip ได้ทุกวันอังคารนะคะ
ทักทายพูดคุยกับเกตุวดี ได้ที่ >>> เกตุวดี Marumura
อ่าน Japan Gossip ทั้งหมด CLICK HERE
เรื่องแนะนำ :
– Sumikko…คาแรคเตอร์สะท้อนนิสัยคนญี่ปุ่น
– เมื่อเปรียบผู้ชายญี่ปุ่นเป็นสัตว์ประเภทต่างๆ
– เทคนิคการจัดจานอาหารสไตล์คาเฟ่ญี่ปุ่น
– เครื่องดื่มที่มนุษย์เงินเดือนญี่ปุ่นโปรดปรานมากที่สุด
– ซักกางเกงใน … ความเหมือนที่แตกต่าง