การลดความอ้วนพร้อมกับความเครียดและวิตกกังวล อาจไม่มีผลในทางที่ดี กล่าวคือหากเราไม่เครียดหรือหงุดหงิด เกิดการย่อยที่ดีตามมา จึงได้มีการนำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับ การลดความอ้วนไปพร้อมกันทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ
เคยไหมเวลามีปาร์ตี้หรืองานที่ต้องออกไปทานอาหารมื้อหนักนอกบ้านเป็นเวลาติดต่อกัน รู้ตัวอีกทีน้ำหนักก็ขึ้นถึง 2 – 3 กิโลกรัมเลยทีเดียว แต่การเลือกที่จะไม่ทานหรือไม่ดื่มเพียงเพราะกลัวน้ำหนักเพิ่มนั้น อาจจะเป็นการเสียมารยาทต่อคนรอบข้างคุณว่าไหม แล้วจะทำอย่างไรกันดีล่ะทีนี้
การลดความอ้วนพร้อมกับความเครียดและวิตกกังวล อาจไม่มีผลในทางที่ดี สำหรับคนที่มีระบบการย่อยอาหารและระบบการเผาผลาญที่ดีแล้วนั้น ส่วนที่ทานเข้าไปในร่างกาย จะไม่เกิดการสะสมในร่างกาย กล่าวคือหากเราไม่เครียดหรือหงุดหงิด ระบบการทำงานของเอนไซน์จะไม่ผันผวน ทำงานได้ปกติ เกิดการย่อยที่ดีตามมา จึงได้มีการนำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับ การลดความอ้วนไปพร้อมกันทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ
ข้อพึงปฏิบัติเกี่ยวกับการทาน
1. | ก่อนอื่น ประเด็นที่สำคัญที่สุดนั้นคือ การทำร่างกายและจิตใจให้รู้สึกผ่อนคลาย ต่อจากนั้นทำร่างกายให้อบอุ่น คือ ก่อนมื้ออาหารคุณควรดื่มเครื่องดื่มอุ่นๆ การทำร่างกายให้อุ่นแล้วจะส่งผลให้เกิดความผ่อนคลาย และกระตุ้นให้ระบบการย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น หากเป็นไปได้ระหว่างมื้ออาหารนั้นก็ให้ดื่มเครื่องดื่มอุ่นๆอย่างต่อเนื่อง |
2. | ทานอาหารจำพวกโปรตีน เช่น เนื้อสัตว์ต่างๆ และอาหารประเภทถั่ว ในขณะที่อาหารยังร้อนๆ สำหรับเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์นั้นมีความเป็นกรด ช่วยให้เลือดหมุนเวียนดี มีส่วนทำให้ร่างกายอุ่นได้อีกทาง |
3. | สิ่งสำคัญอีกประการคือ ให้ทานอาหารที่มีเส้นใยและพวกผักใบเขียวก่อนทานอาหารประเภทอื่นๆ ทำเช่นนี้แล้ว ร่างกายจะสามารถลดการดูดซึมอาหารที่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ได้ดีทีเดียว และหลังจากที่ทานที่ดื่มอย่างเต็มที่แล้ว ควรทานผลไม้เพื่อเป็นการพักผ่อนและฟื้นฟูกระเพาะอาหารที่ทำงานหนักมาแล้ว |
4. | ในขณะทานอาหาร คุณควรทานอย่างช้าๆ ไม่ต้องรีบร้อน เคี้ยวให้ละเอียด สมองจะทำงานราวกับว่าได้ทานมามากแล้ว เกิดความรู้สึกอิ่มเร็วขึ้น ทานให้ตรงอันดับที่ดีต่อร่างกาย เริ่มจากอาหารจำพวกสาหร่าย คอมบุ ต่อด้วยผักนานาชนิด และตามด้วยอาหารจำพวกโปรตีน หากทานตามลำดับแบบที่กล่าวมาได้นั้น คุณผอมได้ไม่ยากแน่นอน |
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : http://www.biteki.com/article/2012/12/31/62622/