อาทิตย์ที่แล้ว เราคุยกันถึงเรื่องวิธีทานอาหารญี่ปุ่นบางอย่างที่พวกเราชาวไทยกลุ้มใจ ไม่รู้ว่าจะทานอย่างไร และมีคำถามตามเข้ามาอีกมากมาย ทั้งหน้าไมค์ในเพจและหลังไมค์ ดิฉันเลยขออนุญาตรวบรวมมาเขียนตอบดังต่อไปนี้ค่ะ ^^
เราเคยคุยกันถึงเรื่องวิธีทานอาหารญี่ปุ่นบางอย่างที่พวกเราชาวไทยกลุ้มใจ ไม่รู้ว่าจะทานอย่างไร หลังจากที่โพสท์บทความไป ก็มีเสียงตอบรับอย่างล้นหลาม และมีคำถามตามเข้ามาอีกมากมาย ทั้งหน้าไมค์ในเพจและหลังไมค์
ดิฉันเลยขออนุญาตรวบรวมมาเขียนตอบดังต่อไปนี้ค่ะ ^^
วิธีทานทงคัตสึ
Q1: งาในถ้วยเล็กๆ ที่เสิร์ฟพร้อมทงคัตสึ พอบดแล้วให้ทำยังไงกับงาดีคะ เอาไปเป็นท้อปปิ้งของน้ำจิ้ม แบบเอาหมูจิ้มซอสแล้วเอาส่วนที่โดนซอสไปแตะๆ งา หรือว่าเอาไปโรยบนหมูทอด เหมือนโรยข้าวคั่วดีคะ
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Katewadee/How%20to%20eat%20japanese%20food%202/1.png)
A: เวลาไปร้านทงคัตสึญี่ปุ่นดีๆ มีระดับสักหน่อย เขาจะเสิร์ฟงาพร้อมถ้วยบดให้เรา เพื่อให้เราบดสดๆ จะได้มีกลิ่นหอมของงายังคงอยู่ อย่าลืมเอาไม้มาบดๆ ถูๆ งาไปเรื่อยๆ นะคะ งามันจะแตกตัวเป็นผงๆ เวลาทานกับหมูทอดจะได้หอมอร่อย (พูดแล้วก็อยากทาน)
ก่อนอื่นคาดว่าคงมีคนสงสัยว่าจะบดงาไปถึงเมื่อไรดี คำตอบคือ … แล้วแต่ที่ชอบๆ ค่ะ บดให้เมล็ดงาหักๆ แตกๆ หน่อยก็ได้ บดให้ป่นเป็นผงเลยก็ได้ โดยส่วนตัว ดิฉันชอบแบบแรก เพราะเวลาทาน จะกรุบๆ เพิ่มความเร้าใจในการทานมากขึ้น
สำหรับคำถามเรื่องซอสกับงานั้น คำตอบคือให้เทซอสลงไปในถ้วยงาได้เลยค่า ก่อนทานก็พนมมือขอบคุณและขอโทษคนล้างจานของทางร้าน แล้วก็หม่ำอย่างเอร็ดอร่อยกันเถอะค่ะ
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Katewadee/How%20to%20eat%20japanese%20food%202/2.png)
วิธีทานปลาให้งามๆ
Q2: คนญี่ปุ่นใช้ตะเกียบทานปลาย่างได้อย่างไรคะ หนูจิ้มยังไงก็เละทุกทีเลยค่ะ
A: น้องรัก….พี่ก็ไปไม่รอดค่ะ ถ้าไปทานข้าวกับคนอื่นที่ไม่ใช่คู่เดท ดิฉันจะเอาตะเกียบถือสองมือ แล้วทำเป็นเหมือนมีดกับส้อม ค่อยๆ ยึกๆ หั่นๆ บิๆ เนื้อปลาไป ภาพที่ออกมาจะไม่ค่อยสวยเท่าไร แต่ถ้าไปทานกับคู่เดท ก็จะตัดปัญหาด้วยการไม่สั่งปลาย่างมันซะเลย หึๆ
แต่นั่น….ไม่ใช่ประเด็น… คนญี่ปุ่นมีวิธีการทานปลาให้สะอาดดังต่อไปนี้ค่ะ
(ขอบพระคุณวิทยาทานจาก http://www.pref.kyoto.jp/suiji/1347253873820.html )
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Katewadee/How%20to%20eat%20japanese%20food%202/3.png)
1. ใช้ตะเกียบบากปลาตรงก้าง (เส้นสีแดง) ค่อยๆ แซะเหมือนขีดเส้นใต้ไป
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Katewadee/How%20to%20eat%20japanese%20food%202/4.png)
2. จากนั้นใช้มือจับหัวปลา แล้วค่อยๆ ทานเนื้อตรงส่วนเหนือเส้นที่บิๆ ไว้ วิธีนี้จะทำให้แซะปลาออกมาทานได้พอดีคำค่ะ (ใช้มือจับไม่น่าเกลียด ไม่เป็นไรค่ะ)
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Katewadee/How%20to%20eat%20japanese%20food%202/5.png)
3. แล้วก็ค่อยๆ แซะทานส่วนล่าง ใช้ตะเกียบแยกพุงปลาออกมาก่อน ใครทานตรงพุงได้ ก็ค่อยๆ ใช้ตะเกียบแซะๆ ต่อไป
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Katewadee/How%20to%20eat%20japanese%20food%202/6.png)
4. จากนั้นใช้ตะเกียบคีบก้างปลาขึ้นมา (คนญี่ปุ่นก็ไม่พลิกปลาทานค่ะ)
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Katewadee/How%20to%20eat%20japanese%20food%202/7.png)
5. มันจะเหลือส่วนครีบปลาแข็งๆ ด้านบน ก็ค่อยๆ ใช้ตะเกียบเลาะออกก่อน ก็จะเหลือเนื้อปลาส่วนล่างไว้ให้ทานได้อย่างง่ายดาย
6. ถ้ามีเศษเนื้อปลาติดอยู่ที่ก้าง ก็ค่อยๆ ใช้ตะเกียบปัดๆ เศษปลาออกมา เอามาทานต่อได้
นี่แค่เขียนอธิบาย ยังบรรยายได้ตั้ง 6-7 ขั้นตอน โดยส่วนตัวลองทำแล้วรู้สึกยากเหมือนกัน ถ้าไม่ใช่คนที่จับตะเกียบแบบข้อมือแข็งๆ คงทุลักทุเลหน่อย ลองขอช้อนส้อมจากทางร้านอาจจะเวิร์คกว่า แต่ก็ลองดูนะคะ
ถ้าสั่งปลาเป็นชิ้นๆ อย่างซาบะ หรือแซลมอน ก็ค่อยๆ บิๆ จิ้มๆ ไป ไม่ยากเท่าแบบปลาย่างเป็นตัวค่ะ
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Katewadee/How%20to%20eat%20japanese%20food%202/8.png)
หมายเหตุ: ดิฉันเคยโชว์ศิลปะการใช้ช้อนส้อมในการแคะปลาทูหรือหั่นปลากระพงทอดน้ำปลาให้ คนญี่ปุ่นมานักต่อนักแล้ว ทุกคนประทับใจที่ดิฉันสามารถใช้ช้อนส้อมได้คล่องแคล่วขนาดนั้น อย่าอายที่จะทานแบบไทยค่ะ ถ้าคุณรู้สึกว่าใช้ตะเกียบแล้วไปไม่เป็นจริงๆ
หมายเหตุ 2: ใครอ่านคำอธิบายข้างต้นแล้วมึนงงปวดหัว ลองดูวิธีแทะปลาจากคลิปนี้ได้ค่ะ
Q3: ไดฟุกุกับโมจิ ต่างกันอย่างไรคะ
A: ตอนแรกนึกว่าเป็นคำถามที่ตอบง่าย แต่พอหาข้อมูลจริงๆ ก็ตอบยากเหมือนกันนะคะ ก่อนอื่นขอชี้แจงก่อนว่าโมจิในที่นี้ หมายถึงโมจิญี่ปุ่น ไม่ใช่โมจิไทยแบบจังหวัดนครสวรรค์นะจ๊ะ
ขนม 2 อย่างนี้ต่างกันตรง โมจิทำมาจากแป้งข้าวเหนียว ส่วนไดฟุกุทำมาจากแป้งชิราทามะ (แป้งข้าวเหนียวที่สะเด็ดน้ำแล้วทำให้แห้ง) จุดแตกต่างใหญ่ๆ อีกประการหนึ่ง คือ ไดฟุกุมีไส้ถั่วแดง โมจิ (ส่วนใหญ่) ไม่มี จำไว้แค่นี้ก็ได้ค่ะ โมจิกับไดฟุกุที่เรามักเห็นตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มักจะมีประมาณนี้ค่ะ
ฝั่งไดฟุกุ:
– ไดฟุกุไส้ถั่วแดง
ถ้าแบบแอ๊ดวานซ์หน่อย จะมีครีมสดผสมระหว่างแป้งกับถั่วแดง ก็จะทำให้หอมนุ่มยิ่งขึ้นค่ะ (โดยส่วนตัวโปรดปรานแบบนี้)
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Katewadee/How%20to%20eat%20japanese%20food%202/9.png)
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Katewadee/How%20to%20eat%20japanese%20food%202/10.png)
– ไดฟุกุไส้สตรอเบอร์รี่ (Ichiko-daifuku)
เป็นไดฟุกุที่หลายๆ คนกรี๊ด แป้งหนุบๆ ผสมกับไส้ถั่วแดงหวานๆ มีความหวานอมเปรี้ยวของสตรอเบอร์รี่แทรกเล็กน้อย อื๊มมมม โออิชี่
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Katewadee/How%20to%20eat%20japanese%20food%202/11.png)
ฝั่งโมจิ:
– โมจิทั่วไป
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Katewadee/How%20to%20eat%20japanese%20food%202/12.png)
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Katewadee/How%20to%20eat%20japanese%20food%202/13.png)
เดิมจะเป็นก้อนสี่เหลี่ยมแข็งๆ พอเอามาย่างไฟ ก็จะปูดออกดังภาพ ข้างนอกกรอบๆ ข้างในเหนียวๆ ยืดๆ แซ่บค่ะ ทานเปล่าๆ ก็ได้ จิ้มโชยุพันสาหร่ายก็ได้
– วาราบิโมจิ
ในบรรดาโมจิดิฉันชอบโมจิชนิดนี้ที่สุด ก้อนจะใสๆ เคลือบด้วยผงน้ำตาลกับผงคินาโกะ (ผงถั่วเหลืองบด) ค่ะ
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Katewadee/How%20to%20eat%20japanese%20food%202/14.png)
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Katewadee/How%20to%20eat%20japanese%20food%202/15.png)
– ซากุระโมจิ
ออกช่วงเดือนเมษาถึงมิถุนายนค่ะ แป้งสีชมพูอ่อนๆ ตรงกลางเป็นไส้ถั่วแดง (แต่ไม่เรียกไดฟุกุ…) ห่อด้วยใบซากุระ บางคนทานใบด้วย แต่ดิฉันไม่ค่อยชอบ เพราะมันเค็มๆ ปะแล่มๆ เลยทานแต่แป้งกับถั่วแดงอย่างเดียว โดยส่วนตัวให้คะแนนความอร่อย 4 เต็ม 10 คือ .. ให้คะแนนรสชาติ -2 แต่ให้คะแนนหน้าตา 6 (สีชมพู น่ารักๆ) โดยส่วนตัว…(ย้ำ) ไม่ค่อยชอบรสชาติ เพราะแป้งโมจิชนิดนี้จะหยาบๆ หน่อย ไม่นุ่มเด้งดึ๋งเหมือนไดฟุกุค่ะ
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Katewadee/How%20to%20eat%20japanese%20food%202/16.png)
– โมจิหญ้า (Kusa-mochi)
Kusa แปลว่าหญ้าค่ะ สังเกตง่ายๆ ขนมโมจิประเภทนี้จะสีเขียวๆ มีกลิ่นหญ้าตุ่ยๆ หน่อย ตอนแรกๆ ดิฉันไม่ค่อยชอบเท่าไร รู้สึกแปลกๆ แต่ทานไปทานมา มันก็อร่อยดี ลองหาทานดูค่ะ มีตามร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Katewadee/How%20to%20eat%20japanese%20food%202/17.png)
สีเขียวมาจากใบของต้นหญ้าชนิดหนึ่ง ชื่อ Yomogi ค่ะ ^^
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Katewadee/How%20to%20eat%20japanese%20food%202/18.png)
– โกะเฮโมจิ (Go-hei mochi)
ของดังฝั่งนาโกย่า เป็นเหมือนแป้งโมจิเสียบไม้ แล้วทาซอสที่ผสมจากโชยุ มิโสะและน้ำตาลค่ะ เพราะฉะนั้นรสชาติจะออกหวานๆ เค็มๆ
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Katewadee/How%20to%20eat%20japanese%20food%202/19.png)
การวางตะเกียบ
Q4: ระหว่างทานอาหารญี่ปุ่น ไม่ทราบว่าจะพักตะเกียบที่ไหนดีคะ
Q5: พอทานอาหารญี่ปุ่นเสร็จ จะเอาตะเกียบไว้ที่ไหนดีคะ
A: สารภาพว่าดิฉันปลื้มจิตกับผู้ตั้งคำถามทั้งสองคำถามนี้มาก เป็นผู้ที่ละเอียดและช่างสังเกตมากจริงๆ ค่ะ คือ ตอนดิฉันไปญี่ปุ่นใหม่ๆ วางตะเกียบที่ไหนไม่เคยสนใจ จนโดนคนญี่ปุ่นเตือน … เอาล่ะค่ะ ท่าวางตะเกียบที่ถูกต้อง ได้แก่ ….
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Katewadee/How%20to%20eat%20japanese%20food%202/20.png)
วางตะเกียบไว้ตรงที่วางตะเกียบที่เขาจัดมาค่ะ กล่าวคือถ้าคุณผู้อ่านกอดอก ตะเกียบต้องขนานกับแขนที่กอดอก (ถ้าอ่านคำอธิบายแล้วงง ดูภาพด้านบนก็พอค่ะ) ไม่ว่าจะก่อนทาน ระหว่างทาน หรือทานเสร็จแล้ว ก็วางตะเกียบไว้ตำแหน่งข้างต้นค่ะ
ทีนี้บางร้านไม่มีที่วางตะเกียบ ให้ เราอาจเอาซองที่ใส่ตะเกียบมาพับทำเป็นที่วางตะเกียบก็ได้ค่ะ ก็จะดูผู้ดีทีเดียว วิธีพับก็มีหลายแบบค่ะ
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Katewadee/How%20to%20eat%20japanese%20food%202/21.png)
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Katewadee/How%20to%20eat%20japanese%20food%202/22.png)
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Katewadee/How%20to%20eat%20japanese%20food%202/23.png)
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Katewadee/How%20to%20eat%20japanese%20food%202/24.png)
ส่วนคนญี่ปุ่นบางคนที่เป็นเซียนพับกระดาษหรือต้องการโชว์ป๋า เขาก็มีวิธีพับที่วางตะเกียบแบบต่างๆ ต่อไปนี้ค่ะ
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Katewadee/How%20to%20eat%20japanese%20food%202/25.png)
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Katewadee/How%20to%20eat%20japanese%20food%202/26.png)
(บล๊อกเกอร์คนนี้มีสอนวิธีพับด้วย ลองทำตามนะคะ ดิฉันไม่สามารถจริงๆ) http://chibichous.exblog.jp/6073102
บางรายพับเป็นก้างปลาบ้าง ดาวบ้าง สุนัขบ้าง….
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Katewadee/How%20to%20eat%20japanese%20food%202/27.png)
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Katewadee/How%20to%20eat%20japanese%20food%202/28.png)
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Katewadee/How%20to%20eat%20japanese%20food%202/29.png)
พอทานเสร็จ ก็เอาตะเกียบใส่ซองเหมือนเดิมก็จะเรียบร้อยดีงามค่ะ แนะนำว่าถ้าอยากให้ advance ให้เอาตะเกียบใส่แค่ครึ่งซองแล้วพับซองกระดาษที่เหลือครึ่งหนึ่ง จุดประสงค์คือเพื่อที่ให้พนักงานเสิร์ฟแยกออกว่า ตะเกียบไหนใหม่ ตะเกียบไหนใช้แล้ว (คนญี่ปุ่นเขาคิดเผื่อพนักงานเก็บโต๊ะด้วยค่ะ คิดเผื่อแผ่ถึงทุกคนรอบตัวจริงๆ)
Q6: เวลาไปญี่ปุ่น อาหารที่โน่นปริมาณเยอะมาก เคยได้ยินมาว่าการที่สั่งอาหารมาแล้วทานเหลือ ถือเป็นการบอกว่าคนทำๆ ไม่อร่อยและเสียมารยาท เลยคิดจะแชร์หารสองกับเพื่อน แต่ก็ได้ยินมาอีกว่าเสียมารยาท คนหนึ่งต้องสั่งอย่างน้อยเมนูหนึ่ง จะทำอย่างไรดีคะ ทานไม่หมด ไม่อยากให้เสียน้ำใจทางร้านด้วยค่ะ
A: จริงที่ว่าเวลาไปร้านอาหารญี่ปุ่น เขาจะบอกให้เราสั่งอย่างน้อยคนละ 1 เมนูค่ะ จะเป็นเครื่องดื่มก็ได้นะคะ ทีนี้ถ้าไม่อยากหาร แต่อยากให้เขายกมาเสิร์ฟน้อยลง อาจบอกเขาว่า…
Gohan wo Sukuna me ni (ご飯を少なめに) แปลว่า ขอข้าวน้อยหน่อยนะคะ ถ้าใครทราบภาษาญี่ปุ่นอยู่แล้ว อาจเติม “Onegaishimasu” เป็นเชิงขอร้องแบบสุภาพก็ได้ค่ะ ส่วนร้านราเม็ง อันนี้คงทำใจลำบากหน่อย เพราะเขาไม่ค่อยยืดหยุ่นกับปริมาณ ถ้าทานเหลือจริงๆ อาจบอกซอรี่แล้วทำท่าลูบท้องพร้อมบอกอาการอิ่มมากไปก็ได้ค่ะ คนญี่ปุ่นน่าจะพอเข้าใจอินเนอร์และภาษากายพวกเรา^^
Q7: เวลาทานอาหารญี่ปุ่น อย่างราเม็ง ถ้าไม่ชอบอะไรบอกเชฟได้ไหมคะ
A: ถ้าเป็นร้านอาหารไฮโซบอกไปเลยค่ะ แต่ถ้าเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นธรรมดา ปกติดิฉันจะเห็นคนญี่ปุ่นก้มหน้าก้มตาทานกัน ยอมรับกับชะตาชีวิตที่ต้องเผชิญ แต่ลองบอกดูค่ะ ไม่ถือว่าเป็นเรื่องเสียมารยาทแต่อย่างใด (ยกเว้นกรณีเดียว คุณไปทานข้าวกับแม่สามี คุณแม่อาจมองคุณว่าเป็นคนช่างเลือกกิน ไม่อดทนก็เป็นได้)
จบกันไปแล้วกับ 7 คำถามค้างคาใจชาวไทยกับอาหารญี่ปุ่น หวังว่าจะทำให้คุณผู้อ่านทานอาหารญี่ปุ่นได้อย่างภาคภูมิใจและสง่างามยิ่งๆ ขึ้นไปนะคะ ส่วนคำถามค้างคาใจประเภทร้านอาหารไหนอร่อย ไปทานเค้กที่ไหนดีนั้น ต้องขอประทานโทษจริงๆว่า ดิฉันไม่ใช่บล๊อกเกอร์ด้านอาหารญี่ปุ่น แต่เป็นบล๊อกเกอร์ด้านไลฟ์สไตล์ญี่ปุ่นมากกว่าค่ะ เล่าสู่กันฟังได้แต่วิถีชีวิตและแนวคิดคนญี่ปุ่นนะคะ >< แล้วพบกันใหม่อังคารหน้าค่ะ!
ทักทายพูดคุยกับเกตุวดี ได้ที่ >>> Japan Gossip by เกตุวดี Marumura