เกอิชาทำได้ทั้งฟ้อนรำ เล่นดนตรี แต่งเนื้อเพลงเป็นกลอนสด การเย็บปักถักร้อย บางคนพูดภาษาต่างประเทศ เป็นล่ามเจรจากับต่างประเทศได้สบาย พวกนี้คุยเก่งและฉลาด มีปฏิภาณไหวพริบโต้ตอบ บรรยากาศการเจรจาต่อรองจะเป็นไปได้ดี ถ้าได้เกอิชามาเป็นผู้ปรนนิบัติ
ที่มาจาก : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม 2541

พรุ่งนี้แล้วนะครับ ที่จะรู้ว่าใครจะได้เป็นหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย ระบบการเมืองญี่ปุ่นเหมือนบ้านเรา คือ ส.ส.ชูมือเลือกนายก-รัฐมนตรี พรรคเสรีฯ มีส.ส. มากที่สุดในสภาผู้แทนราษฎร ก็จะโหวตให้หัวหน้าพรรคตัวเองเป็นนายกฯ
ก่อนที่จะได้โหวตเป็นนายกฯ ก็ต้องแข่งให้ได้เป็นหัวหน้าพรรคซะก่อน ถามว่าใครเลือกหัวหน้าก็ ส.ส. 236 คน + สมาชิกสภาสูง 103 คน + ตัวแทนสาขาพรรค 47 แห่ง พรุ่งนี้ก็รู้ว่าใครเป็นหมู่ ใครเป็นจ่า พอถึงปลายเดือนนี้ คนที่ได้เป็นหัวหน้าพรรคก็จะพาสขึ้นไปเป็นนายกฯ…คุณเคอิโซ โอบูชิ รมต.ต่างประเทศ, คุณเซอิโรคุ กาจิยามา อดีตเลขาธิการครม. หรือคุณจูนิชิโร โคอิซูมิ รมตสาธารณสุข…1 ใน 3 นี่ละครับ
ผมมาเอาจ.ม.ที่โรงพิมพ์ไทยรัฐเดินผ่านรปภ. คุณพี่ยกมือตะเบ๊ะพรึบเข้ามากระซิบว่า คุณนิติภูมิกำลังเขียนเรื่องญี่ปุ่น อย่าลืมแถมเรื่องเกอิชาซักวันนะครับ แฮ่ๆ ผมและเพื่อนๆ อยากจะรู้เรื่องการคลี่กิโมโนจริงๆ
ผมแค่เรียนรู้จากเพื่อนๆ น่ะครับ นอกนั้นก็ดูทีวีบ้าง อ่านบ้าง ขอความรู้จากคนไทยที่เคยไปอยู่ญี่ปุ่นบ้าง ผมรู้เรื่องนี้น้อย ไม่รู้จะเขียนได้ถูกใจคุณพี่รปภ. หรือเปล่า?
ความเห็นส่วนตัว ผมว่าสตรีญี่ปุ่นสวย แต่หาความเย้ายวนใจได้น้อยเต็มที เพราะไม่มีจริตมารยา เจ้าแง่แสนงอนเหมือนสตรียุโรปตะวัน-ออก หรือสตรีเอเชียชาติอื่นๆ ผู้หญิงญี่ปุ่นมัดใจชายด้วยสมบัติลูกผู้หญิงจริงๆ ปรนนิบัติพัดวีทำหน้าที่แม่เหย้าเฝ้าเรือนครบถ้วน กิริยามารยาทสุภาพอ่อนโยน พูดจาไพเราะน่าฟังและเคารพสามี
ในญี่ปุ่นมีผู้หญิงประเภทหนึ่งที่เรียกว่า เกอิชา หลายคนแปลว่าโสเภณี ซึ่งบางทีอาจจะไม่ตรงความหมายนักนะครับ เกอิชามีหน้าที่เสิร์ฟน้ำชาและปรนนิบัติให้ความสะดวกสบายแก่แขก ไม่ใช่โสเภณีของแท้ที่มีหน้าที่เพียงอย่างเดียวเหมือนในโรงน้ำชาบ้านเรา หน้าที่อะไรไม่ต้องให้นิติูมิเขียนละเอียด คุณพี่รปภ. น่ะ รู้ดีมากกว่าผมเยอะ
เกอิชาอาจจะไปนอนกับใครก็ได้ เป็นเมียน้อยของใครไม่จำกัด นักการเมือง นักธุรกิจของญี่ปุ่นนิยมมีเกอิชาไปเป็นขาประจำอย่างน้อยๆ ก็คนหนึ่ง เอาไว้เป็นเพื่อนออกงานสังคมต่างๆ ที่สุาพ เธอจะนั่งปรนนิบัติเอาใจแขกอยู่ใกล้ๆ ในขณะที่แขกเจรจาเรื่องงาน ส่วนมากเกอิชาจะมีความรู้เรื่องทั่วๆ ไป คุยกับเธอแล้วไม่น่าเบื่อเหมือนเถียงกับภรรยาที่บ้าน (เขาว่ามายังงั้น)
เกอิชาจะแบ่งเป็น 1.โอซากุหรือไมโกะ เป็นดรุณีแรกรุ่น ที่สำนักเกอิชาสั่งสอน อบรมวิชาการสำหรับลูกผู้หญิง พวกนี้จะแต่งตัวกับไว้ผมทรงโบราณ 2.เกอิชาชั้นสูง เธอคบเฉพาะกับคนมีกะตังค์ ถ้าเป็นนักการเมืองก็ต้องระดับแกนนำของพรรค ข้าราชการก็ต้องระดับผู้อำนวยการขึ้นไป หรือไม่ก็พ่อค้าใหญ่ นักเขียนก็ต้องระดับพี่ดอย ดอกฝิ่น สตรีพวกนี้แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าราคาแพง ไปไหนมาไหนได้รับการยกย่องเหมือนคุณหญิง 3.เกอิชาที่ทำงานตามภัตตาคารชั้นดี ไม่ใช่โสเภณีโดยตรงนะครับ ถ้าคุณพี่รปภ.ไปเที่ยวญี่ปุ่น พวกเธอพอใจก็อาจจะไปกับคุณก็ได้ และ 4.เกอิชาชั้นต่ำสุด ไม่มีความรู้ในกิจการต่างๆ ของเกอิชา เป็นโสเภณีที่แฝงมาในรูปของเกอิชามากกว่า
เกอิชาทำได้ทั้งฟ้อนรำ เล่นดนตรี แต่งเนื้อเพลงเป็นกลอนสด การเย็บปักถักร้อย บางคนพูดภาษาต่างประเทศ เป็นล่ามเจรจากับต่างประเทศได้สบาย พวกนี้คุยเก่งและฉลาด มีปฏิภาณไหวพริบโต้ตอบ บรรยากาศการเจรจาต่อรองจะเป็นไปได้ดี ถ้าได้เกอิชามาเป็นผู้ปรนนิบัติ
แค่อ่านดูคุณสมบัติก็ไม่ใช่จะเป็นกันได้ง่ายๆ นะครับ ต้องเรียนกันประมาณ 6-7 ปี หลักสูตรยาวกว่ามหาวิทยาลัยซะอีก สำนักเกอิชาจะส่งคนออกไปหาเด็กสาวแรกรุ่นอายุ 11-12 ปี คัดเอาที่หน้าตาดีๆ หน่อยมาฝึกให้อยู่ในกรอบประเพณีอย่างเคร่งครัด อบรมศิลปวิทยาแห่งเกอิชา พอสำเร็จได้รับปริญญาเกอิชาศาสตรบัณฑิต สำนักก็จะเริ่มส่งออก ค่าจ้างคิดเป็นชั่วโมง แพงหรือถูก ก็แล้วแต่ความพอใจของแขกที่มีต่อเกอิชา
(เขาว่ากันว่า) เกอิชาจะเนื้อตัวสะอาดหมดจด อาบน้ำทีหนึ่งนานเป็นชั่วโมงมักจะใช้ขี้นกไนติงเกลหรือรำใส่ถุงบางๆ ชุบน้ำถูหน้าทุกครั้ง ทำให้ผิวพรรณผุดผ่อง ใช้บวบแห้งถูตัวตลอดเรือนร่าง บรรจงใช้หินขัดพื้นเท้า มีคนใช้ประจำตัวไว้คอยถูหลัง
(เขาว่ากันว่า) เกอิชาคือสตรีในอุดมคติของชายทุกคนในโลกนี้ แต่ไม่ใช่ผู้ชายทุกคนจะไขว่คว้าหาเธอมาครอบครองได้ เพราะค่าบริการมาตรฐานคือประมาณชั่วโมงละ 8,000 บาท คุณพี่รปภ.+ นิติภูมิ เราสองคนอย่าไปฝันลมๆ ว่า จะได้มีโอกาสสัมผัสท่าน ดอกฟ้าเกอิชาเลยนะครับ แค่ไปสมัครเป็นคนใช้ถูหลัง ก็ไม่รู้เธอจะรับหรือเปล่า
ใครไม่ทราบเคยบอกว่า “อันของสูงแม้หมายปองต้องจิต ถ้าไม่คิดปีนป่ายจะได้หรือ” อย่าไปป่ายเลยครับ แค่เห็นค่าเครื่องบิน หน้าที่มืดอยู่แล้ว จะยิ่งมืดเข้าไปใหญ่
ที่มาจาก :
1.หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม 2541
2.www.nitipoom.com