ความตั้งใจในไปการเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกนี้ก็คือไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์อย่างเดียว ไม่ได้ตั้งใจไปช้อปปิ้งอะไรมากมาย แต่เอาเข้าจริงๆ ยังไงก็ต้องซื้อบ้างแหละ
เรื่องและภาพโดย : The 19th Ronin www.marumura.com
ย้อนกลับไปในหน้าร้อนเมื่อปี 2011 หมายเลขสิบเก้า ได้ไปตะลุยทริปเท้าแตกที่มหานครโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นมาขอรับ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ได้ไปเยือนประเทศในฝัน ไปแบบ เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง ในตอนนี้จะมาขอเขียนภาคผนวกอีกซักตอน เกี่ยวกับอุปสรรคต่างๆ ตอนไปญี่ปุ่นขอรับ

ขนาดของกระเป๋าเดินทาง
ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่าไม่เพียงครั้งแรกที่ไปญี่ปุ่น แต่เป็นครั้งแรกที่ได้ขึ้นเครื่องบินและได้ไปต่างประเทศเลยก็ว่าได้ ก็คิดเอาง่ายๆ ว่า ไปแค่หนึ่งอาทิตย์แถมเป็นช่วงซัมเมอร์ด้วย พวกเสื้อผ้าหนาๆ นี่ไม่จำเป็นอยู่แล้ว ก็เลยพกเป้หนึ่งใบ กระเป๋าสะพายใส่กล้องหนึ่งใบ และเสื้อผ้าของใช้ยัดลงกระเป๋าเดินทางขนาดเล็ก ปัญหามันอยู่ที่ตรงนี้เลยขอรับ ดูเหมือนกระเป๋าที่เล็กกะทัดรัดพกพาสะดวกที่เราคาดการณ์เอาไว้จะเกิดปัญหาเอาซะแล้ว
ความตั้งใจในไปการเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกนี้ก็คือไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์อย่างเดียว ไม่ได้ตั้งใจไปช้อปปิ้งอะไรมากมาย แต่เอาเข้าจริงๆ ยังไงก็ต้องซื้อบ้างแหละ ทีนี้!! พอจะซื้อพื้นที่ในกระเป๋าที่เราต้องยัดของที่ซื้อเพิ่มนั้นมันมีไม่มาก เรียกว่าน้อยมากเกินไปมากกว่า จะซื้อกระเป๋าใหม่ก็งบคงไม่พอ (T^T) กลายเป็นว่าต้องถือของพะรุงพะรังไปโน้นมานี่บ่อยๆ และเวลากระเป๋าลากล้อเร็วๆ มันชอบเสียการทรงตัว กระเด้งกระดอนบ่อยๆ พลิกซ้ายทีขวาที มันทำให้หงุดหงิดมากเลยขอรับ เพราะฉะนั้นซื้อกระเป๋าเดินทางขนาดกลางหรือใหญ่ไปเลยดีกว่า

ของใช้ส่วนตัว
การไปเที่ยวด้วยงบที่มีจำกัดทำให้หมายเลขสิบเก้าจัดของใช้ส่วนตัวไปครบเซตเลย สบู่เหลว แชมพู ครีมนวด ยาสีฟัน ติดนิสัย เกินดีกว่าขาด จะได้ไม่ต้องไปเสียตังค์ซื้อที่โน้น หลายตังค์อยู่ แล้วจะซื้อที่ไหนก็ยังไม่รู้ ไปต่างบ้านต่างเมืองก็ควรจะเตรียมให้พร้อม แต่ว่าพอไปถึงที่แทบไม่ได้ใช้ของที่เราเตรียมไปเลย โรงแรมที่ญี่ปุ่นมีพวกนี้มีหมดและคุณภาพดีด้วยขอรับ บางที่มีครบเซทมากๆ มีหวี มีไดร์เป่าผม มีแปรงสีฟัน ให้พร้อม แต่ยาประจำตัว หรือยาสามัญประจำบ้านยังไงก็ควรพกไปนะ ประมาทไม่ได้เลย บางทีอาจจะไปเจออากาศเปลี่ยนแปลงเป็นไข้หนักๆ แล้วจะลำบากมาก เพราะบ้านเค้าซื้อยาไม่ง่ายเหมือนบ้านเรา

รองเท้า
ถึงแม้คมนาคมของญี่ปุ่นจะขึ้นชื่อว่าสะดวกสบายและเป็นระบบมากก็ตาม แต่การเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองนั้น ค่อนข้างที่จะต้องเที่ยวด้วยการเดินเยอะกว่าไปเที่ยวกับทัวร์แน่นอน หมายเลขสิบเก้าแนะนำให้สวมร้องเท้าผ้าใบ หรือรองเท้าที่มั่นใจว่าไม่เสียดสีเท้าเราทำให้เกิดบาดแผลขึ้นมาได้ เดี๋ยวจะเที่ยวไม่สนุกเอานะ จะขึ้นแท็กซี่ หรือรถเมล์เหมือนเมืองไทยเราคนละเรื่องกันเลยขอรับ

ตั๋วรถไฟ
ไปญี่ปุ่นครั้งนั้น หมายเลขสิบเก้าทำตั๋วหายไปสองครั้ง มั่นใจว่ากำอยู่ในมือแล้วแท้ๆ แต่หายไปตอนไหนไม่รู้ขอรับ โทษตั๋วที่อันเล็กก็ไม่ได้ ต้องโทษตัวเราเอง ไม่ระวัง พอถึงที่หมายก็ไปบอกเจ้าหน้าที่ตรงทางออกว่า ทำตั๋วหาย ขึ้นมาจากสถานีไหน เค้าก็ให้เราจ่ายค่าตั๋วใหม่อีกครั้งและเปิดทางให้เราออกขอรับ
(=_=) —– รู้สึกปวดใจ

ห้ามถ่ายรูป
ดูเหมือนว่าการถ่ายรูปในญี่ปุ่นจะเป็นสิ่งที่ต้องระวังหน่อย!! โดยเฉพาะย่านช้อปปิ้งเพราะร้านรวงเค้าดูเหมือนจะเป็นโลคอลแบรนด์ (Local Brand) กันซะส่วนใหญ่ บางร้านก็ติดป้ายห้ามถ่ายรูปไว้เลย บางร้านก็ไม่ได้ติดก็ระมัดระวังกันนิดนึงนะขอรับ ^^

ไม่เป็นไปตามแผน
บางทีการวางแผนล่วงหน้าตอนไปเที่ยวก็ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะภารกิจที่วางไว้จะสมบูรณ์แบบไปซะหมด เพราะสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งต้องจองตั๋วล่วงหน้า เพราะบางคนนึกว่าต้องไปซื้อเอาตอนจะไปเลยทีเดียว หมายเลขสิบเก้ากินแห้วอดไปพิพิธภัณฑ์จิบลิมาแล้วนะ เพราะความไม่รู้ ไม่ศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนนี่แหละ ก็เลยเปลี่ยนแผนไปเที่ยวแถวโอไดบะแทน เพราะรู้ว่าแถวนั้นมีงานอีเว้นที่ตึกฟูจิทีวี ก็ฟิน!! ไปอีกแบบขอรับ

ภาษาและท่าทาง
อาจจะเป็นปัญหาสำหรับคนที่ภาษาอังกฤษและญี่ปุ่นไม่แข็งแรง แต่ปัญหาจะหมดไปเมื่อเราศึกษาแผนที่ ศึกษาตัวอักษรญี่ปุ่นและการออกเสียงสถานที่ที่เราจะไปไว้บ้างก็ดี เพราะบางทีท่าทางก็ช่วยในการสอบถามไม่ได้ หมายเลขสิบเก้าเล่นเปิดกูเกิ้ลแมพดูก่อนไปเลยนะ แต่ถ้าเที่ยวในโตเกียว พนง. ร้านต่างๆ เค้าก็พยายามสื่อสารกับต่างชาติได้ดีอยูแล้วขอรับ
เอาล่ะ!! ขอจบภาคผนวกส่งท้ายทริปนี้ไปก่อน นับว่าเป็นบทเรียนที่ดีของหมายเลขสิบเก้าที่ได้ไปสัมผัสประเทศในฝันมาแล้ว ถ้ามีโอกาสได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นเองก็อย่าลืมเตรียมตัว เตรียมตังค์ให้พร้อมกันนะขอรับ !!
เรื่องและภาพโดย : The 19th Ronin www.marumura.com