ใบไม้เปลี่ยนสีที่อาโอโมริ…ที่ญี่ปุ่นน้านนนนน ฤดูใบไม้ร่วง เป็นอีกช่วงเวลาหนึ่งที่น่าไปเที่ยวมากๆ ซึ่งมีหลายจุดที่สามารถไปชมใบไม้เปลี่ยนสีกันได้ วันนี้เราจะขอแนะนำจังหวัดหนึ่งที่น่าสนใจสุดๆ สำหรับการไปชมใบไม้เปลี่ยนสี Aomori (อาโอโอริ) นั่นเอง
ใบไม้เปลี่ยนสีที่อาโอโมริ…ที่ญี่ปุ่นน้านนนนน ฤดูใบไม้ร่วง เป็นอีกช่วงเวลาหนึ่งที่น่าไปเที่ยวมากๆ ซึ่งมีหลายจุดที่สามารถไปชมใบไม้เปลี่ยนสีกันได้ วันนี้เราจะขอแนะนำจังหวัดหนึ่งที่น่าสนใจสุดๆ สำหรับการไปชมใบไม้เปลี่ยนสี Aomori (อาโอโอริ) นั่นเอง
แม้ว่าจังหวัดท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวชาวไทยส่วนใหญ่คุ้นเคยอาจจะเป็นแถบเกียวโต หรือนิกโก้ (จังหวัดโทชิงิ) แต่หลังๆ มานี้ ภูมิภาคโทโฮขุหรือภาคอีสานของญี่ปุ่น (ตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะฮอนชู) ก็มาแรงอยู่นะ พอดีกำลังส่องเส้นทางเที่ยวจังหวัดอาโอโมริในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีให้คุณเพื่อนอยู่ ก็เลยได้โอกาสนำข้อมูลมาแบ่งปัน ใครที่สนใจจะไปเที่ยวฤดูใบไม้ร่วงที่ญี่ปุ่น แต่อยากไปในเส้นทางที่แตกต่าง ตามมาเลยยยยย
เมื่อให้คุณเพื่อนดูที่ตั้งจังหวัดอาโอโมริในแผนที่ญี่ปุ่น … นางก็ตีโพยดีพายทันทีค่าาาาาาาา
“โห…ไกลปืนเที่ยง!! เดินทางยังไงอ่ะ ลำบากแน่เลย จะดีเหรอ??”
“เอิ่มมมม คุณเพื่อนขา เขามีบัตรรถไฟเว้ย JR EAST PASS (Tohoku area) ซื้อไปจากเมืองไทยราคาแค่ 19,000 เยน เป็นแบบ Flexible 5 วัน ไม่ต้องใช้ต่อเนื่องกันทุกวัน ใช้วันเว้นวันก็ยังได้ (ดี๊…ดีอ่ะ) ก็แค่นั่งเครื่องไปลงโตเกียว แล้วใช้ JR EAST PASS ตัวนี้นั่งชิงกันเซนจากโตเกียวไปได้เลย สะดวกออก! ที่สำคัญมันใช้นั่งรถบัสของ JR Tohoku Bus ได้ด้วย มาชมใบไม้เปลี่ยนสี นั่งรถบัสชมวิวทิวทัศน์สิคร้าาา เลิศสุด! แล้วคุณเพื่อนก็ดันว่างไปญี่ปุ่นแค่ช่วงต้นๆ ฤดูใบไม้ร่วง..ชิมิ! ก็ต้องไปจังหวัดแรกๆ ที่ใบไม้เปลี่ยนสีดิ ถ้าไปเที่ยวจังหวัดที่อยู่ทางตอนใต้ เอ็งจะเห็นอะไรฝะ! มันยังเขียวอยู่เว้ย!!”
สรุปสาเหตุที่เลือกแนะนำจังหวัดอาโอโมริให้คุณเพื่อน
วิธีเดินทาง – สอยบัตร JR EAST PASS ไปเลย สะดวกเว่อร์ๆ อยากไปคนเดียวก็เชิญ เดินทางง่าย
ช่วงเวลา – ต้นฤดูใบไม้ร่วงก็ไปได้ ไม่ต้องรอให้มีวันหยุดว่างตรงเป๊ะๆ กับช่วงพีคของฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่น เพราะนักท่องเที่ยวจะแยะ โดยเฉพาะตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ ก็อาโอโมริเป็นจังหวัดแรกต่อจากฮอกไกโดที่จะได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสีอยู่แล้วนี่นา ถ้าอากาศไม่เพี้ยน ฤดูกาลเป็นปกติ อาโอโมรินี่แหล่ะหนึ่งในไฮไลท์ของฤดูใบไม้ร่วงบนเกาะฮอนชูเลย เป็นที่ที่เราจะได้เห็นใบไม้สีเหลือง ส้ม แดง ก่อนใครบนเกาะ หุ หุ (ที่ไหนอากาศเย็นก่อน..ใบไม้ก็เริ่มเปลี่ยนสีก่อนไง
สถานที่ – ไม่อยากไปซ้ำจังหวัดเดิมๆ ที่นักท่องเที่ยวมหาศาลอย่างโตเกียว โอซาก้า ฯลฯ (คำเตือน : อาโอโมริก็เป็นเมืองท่องเที่ยวไฮไลท์ในฤดูใบไม้ร่วงนะ ต้องมีนักท่องเที่ยวต่างชาติบ้างล่ะ แต่ไงก็ไม่ถึงกับพลุกพล่านอยู่ดี)
มาถึงคำถามยอดฮิตที่ใครๆ ก็ถาม ไม่เว้นแม้แต่คุณเพื่อนของอิฉัน (- – )
“แล้ว…มีอะไรให้เที่ยวล่ะ” โอเค..จัดให้!!
อาโอโมริมีความดังเรื่องจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีอยู่แล้ว ก็มีจุดที่ไม่ควรพลาดประจำฤดูกาลนี้
“อ่ะ! รวบรวมมาให้ 7 สถานที่น่าเที่ยวในจังหวัดอาโอโมริช่วงฤดูใบไม้ร่วง”
(1) Towada Lake ทะเลสาบสุดดังประจำภูมิภาคนี้ อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Towada-Hachimantai เช่นเดียวกับ Oirase Stream และน้ำตกอีกหลายสาย อาทิ Kumoi no taki และ Shiraito no taki เป็นต้น ความดังของ Towada ก็ได้มาจากวิวริมทะเลสาบนี่แหล่ะ ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีอ่ะ ทิวทิศน์รอบทะเลสาบเรียกได้ว่าสุดจะบรรยาย
(2) Oirase Stream ทะเลสาบทาวาดะ ทำให้เกิดลำน้ำหลายสาย หนึ่งในนั้นก็คือ Oirase บริเวณนี้มีต้นเมเปิ้ลที่เวลาใบไม้เปลี่ยนสีจะสวยมาก เรียงรายกันอยู่เป็นสิบกิโลเมตร มีน้ำตกหลายสายที่เดินเท้าเที่ยวชมได้ในระยะทางแค่ 2 – 3 กิโลเมตร (รับรองว่าถ่ายรูปเพลิน ลืมความเมื่อยเลยล่ะ เหอๆ) หรือจะนั่งรถบัสชมวิวเลียบลำธาร Oirase ก็น่าจะฟิน ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ไปชมสายน้ำ ไปดูน้ำตก ได้เห็นต้นไม้รายรอบที่กำลังเปลี่ยนสีก็ต้องเลิศสิคะ (อันนี้อยากไปเองเป็นที่สุด)
(3) Hakkoda Ropeway จะชมไปไม้เปลี่ยนสี แบบว่า..รอบทิศทาง แนะนำให้ขึ้นที่สูง! ภาพของพรมต้นไม้ที่กำลังเปลี่ยนสี เป็นเหลือง ส้ม แดง อยู่ใต้กระเช้าที่เรากำลังนั่งอยู่นะ โอ้ย..เลอค่า ถ้าไม่กลัวความสูงก็ไปเหอะ (คำเตือน : ช่วงปลายตุลาคม ใบไม้แถบพื้นราบและเชิงเขาจะเปลี่ยนสีสวยมากๆ สวยจนไม่รู้จะบรรยายยังไง ต้องลองไปหาคำจำกัดความด้วยตัวเอง แต่ว่าบนยอดเขาอาจจะหนาวเหน็บ ควรเตรียมอุปกรณ์กันหนาวไปด้วยเน้อ ก็ยิ่งสูงยิ่งหนาวไง)
(4) Sannai-Maruyama อันนี้เป็นแหล่งประวัติศาสตร์ มีความเก่าแก่มากกว่า 5,500 ปี เขาจัดแสดงไว้ประมาณพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง จำลองเป็นหมู่บ้านยุคเก่าของญี่ปุ่น (สมัยโจมง) ที่จริงจุดนี้ก็สามารถเที่ยวได้ทั้งปี แต่ด้วยความที่เป็นกลางแจ้ง มันจึงเห็นวิวทิวเขาโดยรอบที่ใบไม้กำลังเปลี่ยนสีด้วย
(5) Hirosaki Castle ไฮไลท์ของจุดนี้ ถึงแม้จะเป็นต้นซากุระรอบปราสาทฮิโรซากิที่เขาปลูกไว้กว่า 50 สายพันธุ์ ราว 2,600 ต้นที่เด่นมากในช่วงฤดูใบไม้ผลิ แต่ช่วงใบไม้ร่วงที่ปราสาทนี้ก็น่าดูชมนะจ๊าาาา ปกติแล้วก็จะมีจัดเทศกาลชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ปราสาทนี้ด้วยล่ะ ราวๆ ปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายนน่ะ
(6) Hirosaki Ringo Park มาจังหวัดอาโอโมริ ไม่ได้เข้าสวนแอปเปิ้ลถือว่าผิด!! จังหวัดนี้เขาดังเรื่องแอปเปิ้ล ก็ต้องไปเด็ดกันให้ถึงสวนสิ สวนนี้มีต้นแอปเปิ้ลมากกว่า 1,200 ต้น แถมช่วงฤดูใบไม้ร่วงยังเป็นฤดูเก็บเกี่ยวที่เยี่ยมมากเลยล่ะ (เก็บผลได้ตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงเดือนพฤศจิกายน) แล้ววิวที่สวนนี้ก็ยังสวยเลิศ สามารถมองเห็นทิวเขาต่างๆ ที่ต้นไม้กำลังพากันผลัดใบ กลายเป็นสีเหลือง ส้ม แดง มากมายๆ
(7) A-FACTORY ณ จุดนี้ แอบเอาใจขาช้อปนิดนุง ไหนๆ เราก็ต้องผ่านสถานี Aomori อยู่แล้ว ไม่แวะที่นี่ไม่ได้เลย เดินจากสถานีไปได้แค่นาทีเดียว ที่นี่เป็น duty-free shopping center ที่รวบรวมของท้องถิ่นเอาไว้ ทั้งของสด ของแห้ง ขนม ฯลฯ เอาเป็นว่าจะซื้อของฝากจากอาโอโมริ มาที่นี่เลย สินค้าเด่นๆ ก็เป็นแอปเปิ้ลสด, Apple cider และผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากแอปเปิ้ล
จริงๆ แล้ว ที่อาโอโมริยังมีสถานที่น่าเที่ยวอีกเพียบ ที่เด่นๆ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็จัดมาให้แล้ว แต่ที่เที่ยวที่เหมาะกับฤดูกาลอื่นๆ ก็ยังมีอีกเยอะ!! อย่างเช่น Nebutamura, สวนสาธารณะ Blue Sea Park, ถนนช้อปปิ้ง Shinmachi Shopping Street (Amenity Street) ฯลฯ เอาเป็นว่าถ้าอยากดูภาพรวมของจังหวัดนี้ ก็ลองไปอ่านนี่เลย >> https://www.marumura.com/aomori/
เนื่องจากคุณเพื่อนบอกว่า…
“เรื่องกินฉันไม่ Need เที่ยวไป ชิมไป เจออะไร กินอย่างนั้น …ขอให้เป็นอาหารญี่ปุ่นละกัน”
เลิศค่ะ!! งั้นข้ามไปในส่วนของเรื่องที่หลับที่นอน
สำหรับคุณเพื่อนน้านนนนนน เที่ยวลำบากไม่ว่า.. กินอะไรก็ได้ไม่มีบ่น.. แต่ที่ซุกหัวนอนขอเลือกนิ๊ดนึง
ในเมือง Aomori จัดเต็มไปเลย นำเสนอ Hotel JAL City Aomori ไปให้ นอนในเมือง คุณเพื่อนขอแบบสะดวกๆ หน่อย ใกล้แหล่งช้อป ใกล้สถานี ที่นี่ตอบโจทย์นางค่ะ เดินจากสถานี Aomori แค่ 6 นาที เดินไปช้อปที่ A-Factory ก็แค่ 6 นาทีเหมือนกัน หรือจะเดินไปหาข้าวหน้าปลาดิบกินที่ตลาดปลา Furukawa Fish Market (Aomori Gyosai Center) แค่ 8 นาทีก็ถึง… อันนี้คุณเพื่อนชอบมาก
ด้วยความที่จะไปเที่ยวทะเลสาบ Towada มันไปได้ 2 เส้น คือจากทางอาโอโมริ (Aomori City) และจากทางฮาชิโนะเฮะ (Hachinohe) เลยเลือกแนะนำ Hachinohe Grand Hotel ให้คุณเพื่อนด้วย เผื่อจะเลือกเส้นทางที่ผ่านทั้งสองเมือง โรงแรมนี้เดินทางจากสถานี JR Hon-Hachinohe ประมาณ 8 นาที ไกลจากสถานีรถนิดหน่อย แต่เรื่องมาตรฐานนี่เกินผ่าน
อย่างละแวก Hirosaki สำหรับคุณเพื่อน เราแนะนำ Hotel Naqua City Hirosaki ให้ โรงแรมนี้อยู่ติดสถานี (JR Hirosaki Station) เดินแค่ 2 นาที แล้วยังอยู่ไม่ไกลจากปราสาทฮิโรซากินัก นั่งแท็กซี่ไปประมาณ 15 นาที คุณเพื่อนจะได้ไปชมใบไม้เปลี่ยนสีสะดวกๆ หน่อยน่ะ ห้องพักสะอาดสะอ้าน มีให้เลือกหลายแบบด้วย
ที่ Towada โรงแรมตระกูล Prince ต้องมาค่ะ Towada Price Hotel อันนี้ชิลสุด เพราะเป็นโรงแรมริมทะเลสาบโทวาดะเลย มีบ่อแช่น้ำแร่กลางแจ้งให้เราชิลกับวิวสวยๆ ของทะเลสาบ อาหารบุฟเฟ่ต์ก็จัดเต็ม เป็นโรงแรมที่เหมาะกับ “การพักผ่อน” จริงๆ อิ่มกาย อิ่มใจ แต่การเดินทางในอุทยานแห่งชาติก็คงไม่ง่ายใช่มะ ไม่ยากเกินไปจ้าาาา เราสามารถนั่งรถบัสมาจากสถานี Hachinohe ไปได้ประมาณ 140 นาที ไปลงป้าย Towada Bus Top แล้วเขาจะมี free shuttle bus มารับ (15 นาที) แค่นี้เอง
โรงแรมที่แนะนำให้คุณเพื่อนนั้น เน้นที่ได้มาตรฐาน ติดไฮโซหน่อยๆ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติไปพักกันเยอะ คุณเพื่อนจะได้มั่นใจ แล้วก็มีบริษัททัวร์ในเมืองไทยขายอยู่ด้วย …คุณเพื่อนจะได้ไปหาซื้อง่ายๆ น่ะ
นำเสนอโรงแรมให้คุณเพื่อนไปซะรอบจังหวัด ทั้งหมดนี้ก็จัดสามารถเส้นทางได้แล้วล่ะ แต่ในการตัดสินใจเลือกว่าจะนอนที่ไหนวันไหนนั้น ก็ต้องดูเส้นทางก่อนว่าไปเที่ยวที่ไหนก่อนหลังดี อันนี้ต้องให้อิสระกับผู้เดินทางคิดเองนิดหน่อย เพราะคนจะไปตะลอนเที่ยวน่ะไม่ใช่เรา ต้องให้เขาทำความเข้าใจกับเส้นทางเองนิดนึง (ปรึกษาได้ แต่ไม่ฟันธง เพราะคนไปหลงไม่ใช่เรา ฮ่าๆๆๆ) แต่เชื่อว่าคุณเพื่อนคงเลือกเที่ยวนอกเมืองก่อน แล้วค่อยมาช้อปปิ้งปิดท้ายในตัวเมืองอาโอโมริ ..ของช้อปมันหนัก จัดวันท้ายๆ จะได้ไม่ต้องแบกกันไปตลอดทั้งทริป
ถึงแม้ข้อมูลเกี่ยวกับทริปเที่ยวอาโอโมริในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่เราจัดเตรียมให้คุณเพื่อนนั้น นำเสนอให้เข้ากับ Lifestyle และความต้องการของนาง แต่ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ คนอื่นๆ ด้วยนะ (^^)/