ไปงาน International Day ที่ Hyogo High School (1)
นั่งรถไฟไปเฮียวโกะกัน
สวัสดีครับท่านผู้อ่าน ก่อนที่เราจะนั่งรถไฟไปเที่ยวงาน International Day ที่ Hyogo High School จะขอเล่าบางมุมของชีวิตในหอพักนักเรียนก่อนนะครับ
อย่างที่ได้เล่าให้ฟังว่าหอพักนักเรียนนานาชาติคันไซนั้น มีนักเรียนทุนจากหลายระดับ หลายสาขาวิชา หลายสถาบันการศึกษามาอยู่รวมกันแบบเพิ่งมาใหม่ไม่รู้จะไปเช่าห้องอยู่ที่ไหนก็ให้อยู่ที่นี่ไปพลางๆ ก่อน และกิจกรรมที่ทางหอ (ซึ่งสมัยนั้นดำเนินงานโดย AIEJ) จัดไว้เพื่อนักเรียนต่างชาตินั้น นอกจากการมี “ติวเตอร์” (พี่เลี้ยง) ที่เป็นนักศึกษาชาวญี่ปุ่น คอยช่วยพูดคุยเพื่อปรึกษาหารือไปด้วยฝึกภาษาญี่ปุ่นให้นักเรียนต่างชาติไปด้วยแล้ว ก็ยังมีกิจกรรมจำพวกจัดอาสาสมัครจำพวกนักศึกษา แม่บ้าน ชาวญี่ปุ่น มาจัดกลุ่มนั่งพูดคุยกับนักเรียนต่างชาติด้วย
ผมก็เคยไปนั่งคุยร่วมกิจกรรมกับเขา เจอนักศึกษาสาวญี่ปุ่นคนหนึ่งบอกว่า ผมหน้าโหลมากสำหรับคนที่นี่ แบบเดินถนนนั่งรถไฟขึ้นรถเมล์ในญี่ปุ่นนี่ ไม่เป็นที่สังเกตแน่นอน (ร้องไห้แป๊บ)
ซึ่งกิจกรรมลักษณะนี้ ก็มีการจัดในสเกลที่ใหญ่ขึ้นไปอีก แต่กลับกันจากที่ให้อาสาสมัครญี่ปุ่นเดินมาหานักเรียนต่างชาติอย่างที่หอ คราวนี้ให้นักเรียนต่างชาติเดินไปนักเรียนญี่ปุ่น (ซะงั้น)
ผมได้ไปร่วมกิจกรรมนี้โดยมีเพื่อนที่หอหนุ่มฮอนดูรัสที่ชื่อมาริโอ มาชวน แต่คนชวนดันลืมเซ็นเอกสารยืนยันการไปซะอย่างนั้นเลยอดไป แต่เฟรดเพื่อนหนุ่มฝรั่งเศสที่เรียนโอซาก้าไกไดด้วยกันก็ไปเป็นเพื่อนผมด้วย ค่อยยังชั่ว
งานจัดให้มีเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2003 เช้าวันนั้นผมรีบตื่นมา 06:45 น. เพื่อรีบอาบน้ำแปรงฟันแล้วไปรวมตัวคนที่จะไปกันตรงล๊อบบี้ข้างล่างเจ็ดโมงเช้า วันนี้คนนำขบวนคือ “เมงุมิซัง” ติวเตอร์ที่หออีกคนหนึ่งซึ่งเรียนที่โอซาก้าไกไดนี่หละ เอกภาษาเวียดนาม แถมเป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนมัธยมปลายประจำจังหวัดเฮียวโกะ ที่เรากำลังจะไปวันนี้นี่หละ และผมก็คุยทักทายสมาชิกในคณะเดินทางนิดหน่อย มีอยู่คนหนึ่งที่ผมสะดุดใจมากว่าหน้าตาเป็นญี่ปุ่น แต่คุยไปคุยมา เป็นคนบราซิล “เชื้อสายญี่ปุ่น” ครับ ชื่อวิคเตอร์อะไรนี่หละจำไม่ค่อยได้ แต่นามสกุลไซโต้นะ
พอลงรถไฟต้องเดินเท้าต่อไปโรงเรียน ก็เจอภาพที่ต้องตะลึง! โอ้ ขุ่นพระ ตรงหัวเลี้ยวที่จะเลี้ยวซ้ายไปถึงโรงเรียน มีเด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่ง ยืนทนหนาว เอาป้ายแขวนคอที่เขียนว่า “ยินดีต้อนรับ” แล้วก็พูด “โอฮาโยโกไซมัส” (อรุณสวัสติ์ค่ะ) ซ้ำๆ อยู่อย่างนั้น ผมหันไปบอกเฟรดว่าอะไรวะเนี่ย แค่เอาป้ายแปะตรงหัวมุมก็ได้ (ป่ะ) สงสารเด็ก อากาศตอนนั้นแค่ 7-8 องศาเอง ยืนใส่เสื้อกันหนาวมีฮูด ตัวสั่นแหง็กๆ อยู่นั่นนะ เฟรดบอก I agree
เมื่อเข้าโรงเรียนแล้ว เราก็พบกับป้าย Welcome ตามรูปข้างบน (คนใส่โอเวอร์โค้ทสีเทาน่ะ เฟรดนะครับ)
พอเราเดินเข้าไปในตึกแล้วก็ถอดรองเท้าเปลี่ยนเป็นรองเท้าแตะที่เขาเตรียมไว้ แล้วไปนั่งในห้องคล้ายห้องคหกรรม ก็จะได้พบกับคณะนักเรียนต่างชาติจากที่อื่นๆ มาด้วย นั่งแยกโต๊ะชายหญิง ครูของโรงเรียนก็เอาเอกสารมาแจกแล้วอธิบายกำหนดการต่างๆ สรุปคือ ตอนเช้า เข้าห้องประชุมร่วมพิธีเปิดงาน ตอนบ่ายแยกกันเข้าไปตามแต่ละห้องเรียนตามที่เขาจัดไว้ให้
ตอนเข้าห้องประชุมเพื่อร่วมพิธีเปิดงาน มีความอลังการมากตรงที่นักเรียนแต่ละชาติจะได้ถือธงชาติของตนนำขบวนไป ซึ่งผมก็ให้น้องคนไทยคนหนึ่งถือธง (ไม่ใช่อะไร ผมจะถือกล้อง ก็กล้องดิจิตอลที่ไปซื้อที่นัมมะน่ะหล่ะ) พอเราเข้าไปนั่งที่ ก็มีวงดนตรีมาเล่นต้อนรับเราบนเวที เสร็จแล้วก็เชิญครูใหญ่มากล่าวเปิดงาน ซึ่ง เดี๋ยวก่อนนะ ครูใหญ่เล่นพูดแต่ภาษาญี่ปุ่นแล้วให้นักเรียนหญิงเป็นล่ามแปลเป็นภาษาอังกฤษ เอ มันจะดีหรือ ไม่โชว์ speak english หน่อยหรือครับ อ่านสคริปต์ก็ยังดีนาครับ (ฮา)
วงดนตรีของโรงเรียนเล่นโชว์บนเวทีเปิดงาน
เห็นไหมเฟรดถือธงฝรั่งเศส
บรรยากาศในหอประชุม
หนุ่มฝรั่งคนนี้ดูจากธงชาติคงมาจากนิวซีแลนด์
(ขอคั่นรายการนิด ผมเคยมีอคติว่าคนญี่ปุ่นเป็นพวกชาตินิยมจัดจนรังเกียจที่จะพูดภาษาอังกฤษ จนกระทั่งได้ไปเรียนภาษาญี่ปุ่นและพูดถามเรื่องนี้กับคนญี่ปุ่นอย่างตรงไปตรงมาว่าพวกคุณ Nationalism หรือเปล่า เขาบอก เปล๊า แค่ว่าคนญี่ปุ่นเรียนภาษาอังกฤษในโรงเรียนช้ามาก อย่างเร็วกับประถมปลาย ดีไม่ดีเพิ่งมาเรียนเอาม.ต้น ด้วยซ้ำ คนไทยนี่อย่างผมเรียนกันแต่อนุบาล ยังไม่ค่อยเป็นเรื่องเลย โธ่ถัง)
พอครูใหญ่กล่างคำเปิดงานจบ วงดนตรีก็บรรเลงต่อ เล่นจบ หอบเก้าอี้กลับไปด้วย (ฮา)
ต่อไปก็เป็นโชว์จากชมรมยูโด มาโชว์ท่าทุ่ม แต่เดี๋ยวก่อน รายการต่อไปโชว์จากชมรมคาราเต้ ฮาสุดๆ มีสตอรี่คือเด็กนักเรียนคนหนึ่งโดนเด็กเลวรุม จนต้องร้องว่า HELP ME KARATE-MAN!! แล้วคาราเต้แมนก็มาไล่เตะต่อยเด็กเลวด้วยลีลามหาโม้ โม้แค่ไหน ฮาขนาดไหน ชมคลิปได้เลยนะครับ ขอบอกว่าไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน (อีกแล้ว) เอามาลงให้ดูเพื่อท่านผู้อ่านโดยเฉพาะเลย (ทำใจเรื่องความคมชัดนะครับ คลิปเมื่อสิบเจ็ดปีก่อนนะ 17 ปี ย้ำ) เสร็จแล้วก็มีนักเรียนหญิงคาราเต้ออกมาโชว์รำกาต้า โชว์การคุมิเต้ (ประมือ) แล้วก็โชว์จากชมรมเคนโด้
ชมคลิปรวมกิจกรรมในหอประชุม (พิธีเปิด)
ไฮไลท์ของช่วงเช้าคือรายการ “ก่อนบ่ายคลายเครียด” มีนักเรียนญี่ปุ่นมานั่งแถวหนึ่ง แล้วก็มีนักเรียนต่างชาติที่เขาไปลากมาจากที่นั่ง (ฮา) มาถามตอบเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นบนเวที ถามกันสนุกสนานจนต้องถามกันลงมาถึงข้างล่าง
ผมเลยถามว่า “คนญี่ปุ่นคิดว่า ราเม็ง เป็นอาหารจีนหรืออาหารญี่ปุ่นกันแน่”
มีเสียงตะโกนตอบมาว่า “เป็นอาหารจีนหรืออาหารญี่ปุ่นก็ได้ทั้งสองอย่างแหละ (โว้ย)”
เสร็จแล้วก็เชิญแขกทุกท่านถ่ายรูปหมู่ร่วมกับอาจารย์และนักเรียนแล้วจึงไปกินข้าวกลางวันกัน
นี่คือรายการ “ก่อนบ่ายคลายเครียด”
ขอตัวไปกินข้าวกล่องกับน้ำชาหนึ่งขวดก่อนนะครับ เดี๋ยวมีกิจกรรมตอนบ่ายต่อ
เรื่องแนะนำ :
– คั่นรายการ : ไปเที่ยวนัมบะ กับนิปปอนบาชิก่อนไหม
– ฤดูใบไม้ร่วงปี 2003 กับการมาเมืองญี่ปุ่นครั้งแรกในชีวิต (4) ห้องเรียน อ.ชิมาโมโต้
– ฤดูใบไม้ร่วงปี 2003 กับการมาเมืองญี่ปุ่นครั้งแรกในชีวิต (3) ชีวิตในมหาลัย
– ฤดูใบไม้ร่วงปี 2003 กับการมาเมืองญี่ปุ่นครั้งแรกในชีวิต (2) ชีวิตในหอ
– ฤดูใบไม้ร่วงปี 2003 กับการมาเมืองญี่ปุ่นครั้งแรกในชีวิต (1) เมื่อแรกเข้าหอ
#ไปงาน International Day ที่ Hyogo High School (1) นั่งรถไฟไปเฮียวโกะ