3 สิ่งที่ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับความเชื่อในการสอนงานแบบญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นเองแม้จะมีความอ่อนน้อม ถ่อมตน แต่ถ้าเป็นเรื่องงานพวกเขากลับมีทัศนคติของการนำเสนอผลงานให้ผู้อื่นรับทราบด้วย ไม่ปิดทองหลังพระเพียงอย่างเดียว
何で
(อ่านว่า นันเด๊ะ)
แปลว่า ทำไม
หัวหน้างานของผมถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย หลังอธิบายให้ฟังว่างานติดขัดปัญหาบางอย่าง
พอเริ่มอธิบายเหตุผลบางอย่าง ท่านก็เริ่มถามอีกครั้งด้วยประโยคที่คุ้นชิน
何で (ทำไม)
เจออย่างนี้หลายๆ ครั้งเข้าผมก็เริ่มกังวลและคิดมากว่า
ผมทำอะไรผิด
เขาโกรธอะไรเราหรือเปล่า
หรือเขากำลังจะจับผิดอะไรเรา
เล่นเอานอนไม่หลับไปหลายคืน ความสัมพันธ์กับหัวหน้าก็ย่ำแย่ เพราะเราตีความว่าเขา ไม่ชอบผมเสียแล้ว
5 ปีให้หลังถึงได้ทราบว่าสิ่งที่หัวหน้าท่านนั้นทำกับผม คือการสอนงาน
ประโยคที่คุณ Taiichi Ohno บิดาแห่งระบบการผลิตแบบโตโยต้าพูด และกลายมาเป็นวัฒนธรรมองค์กรในเวลาต่อมาคือ
ที่โตโยต้า พนักงานไม่ได้มาที่ทำงานเพื่อทำงาน (อย่างเดียว) แต่พวกเขามาที่นี้เพื่อ “คิด”
การคิดจึงเป็นของคู่กันกับการทำงานร่วมกับชาวญี่ปุ่น
3 สิ่งที่ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับความเชื่อในการสอนงานแบบญี่ปุ่น
1. การบอกคำตอบทันทีเป็นการไม่ให้เกียรติทีมงานและอาจจะหมายถึงการไม่สอนงานพวกเขาด้วย
การสอนงานด้วยการตั้งคำถามนั้นมีข้อดีคือ
คนถูกสอนงานต้อง ตอบ
จะตอบได้ ก็ต้อง คิดก่อน
และเมื่อตอบออกมาคนสอนงานก็จะทราบทันทีว่าความคิดของคนถูกสอนนั้นเป็นอย่างไร สามารถปรับตรงไหนได้บ้าง
และคำถามที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดในการฝึกคิดนั้น คือ ทำไม
เพราะเป็นคำถามที่ต้องการ เหตุผล
ที่ญี่ปุ่นจึงมีวัฒนธรรมการสอนงานด้วยคำถามว่าทำไมๆ หลายๆ ครั้งเพื่อให้พนักงานได้คิด และค้นหาคำตอบด้วยตัวเอง โดยไม่มีเจตนา จะตำหนิหรือต่อว่าอย่างใด
2. นิยมถามก่อนจะบอกเหตุผล
พวกเขานิยมถามรายละเอียดมากมายก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่ตัวเองคิด หรือกำลังจะนำเสนอนั้นจะเป็นประโยชน์กับคู่สนทนาหรือไม่
ถ้าใช่ เขาจะบอกเหตุผลและแสดงความคิดเห็นภายหลัง
และเพื่อให้เกิดภาวะนี้ได้บางครั้งลักษณะคำถามของพวกเขาจะตรงๆ สั้นๆ กระชับ เช่น
สรุปว่า ทำหรือยังไม่ได้ทำ
สรุปว่า เสร็จหรือยังไม่เสร็จ
งานนี้ใช้เวลากี่วัน
สำหรับคนไทยที่มีมุมมองในการทำงานเป็นแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยและระมัดระวังการตอบคำถามที่จะทำให้กระทบกับงานคนอื่นโดยไม่จำเป็นนั้น มักเกรงกลัวและเลี่ยงที่จะตอบคำถามและยิ่งเลี่ยงก็ยิ่งทำให้การสนทนาสับสน และ เกิดคำถาม ตรงประเด็นเพิ่ม สร้างความอึดอัด หนักกว่าเก่า
ทางแก้ที่ดีคือ ถามตรง ตอบตรงครับ
3. เน้นให้นำเสนอผลงานด้วย
“อันนี้ถ้าเป็นไปได้อยากให้เก็บข้อมูลเพิ่มให้หน่อย”
“อันนี้อยากให้นำเสนอความพยายามของคุณมากอีกหน่อยว่ากว่าจะทำได้ต้องผ่านอะไรมาบ้าง”
ชาวญี่ปุ่นเองแม้จะมีความอ่อนน้อม ถ่อมตน แต่ถ้าเป็นเรื่องงานพวกเขากลับมีทัศนคติของการนำเสนอผลงานให้ผู้อื่นรับทราบด้วย ไม่ปิดทองหลังพระเพียงอย่างเดียว
ดังนั้นถ้าคุณถูกหัวหน้าชาวญี่ปุ่นขอร้องให้ทำงานบางอย่างเพิ่มทั้งที่มันดูจะมีไว้เพื่อนำเสนออย่างเดียวก็ไม่ต้องแปลกใจ กลับกันควรยิ่งต้องดีใจเพราะนั้นเท่ากับว่าเขายินดีที่จะโปรโมตหรือผลักดันคุณครับ
พรุ่งนี้ไปเจอหัวหน้าถ้าเขาถาม ทำไม ตอบไปได้อย่างไม่ต้องคิดมากนะฮะ เพราะมันคือการสอนงาน ล้านเปอร์เซ็นต์ ^^
#SenseiPae
#เก่งงานอย่างญี่ปุ่นคุณก็ทำได้
#LeanovativeThinking
ติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ Facebook: Leanovative Thinking By Sensei Lek & Sensei Pae
เรื่องแนะนำ :
– ถ้ามีเวลามานั่งเสียใจ จงเปลี่ยนให้เป็นเวลาพัฒนาตัวเอง
– ลดภาระงาน – ญี่ปุ่นที่เปลี่ยนไป เพื่อแก้ปัญหาพนักงานฆ่าตัวตาย –
– 1 นาที 1 ล้านบาท -คุณค่าของเวลาที่ชาวญี่ปุ่นสอนผม-
– ทำไมคนญี่ปุ่นถึงทำงานมีประสิทธิภาพ -ถอดความเชื่อและทัศนคติในการทำงานของชาวญี่ปุ่น-
– จุดแข็งของคนอ่อนแอที่ (ไม่ยอมแพ้พ่าย) -ยอมรับตัวเองและก้าวเล็กๆ ไปข้างหน้า-