遅い!!! อ่านว่า “โอะโซะอิ” แปลว่า “ช้า” 13 ปีก่อนผมถูกพี่เลี้ยงชาวญี่ปุ่นตะโกนว่าด้วยคำนี้ลั่นห้องประชุม หลังเข้ามาประชุมช้าไป 10 นาที เลยตัดสินใจเดินออกไปถ่ายเอกสารใช้เวลาไป 10 นาที ในวัย 20 ต้นๆ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมพี่เลี้ยงท่านนั้นต้องโมโหผมขนาดนั้น
遅い!!! อ่านว่า “โอะโซะอิ” แปลว่า “ช้า”
13 ปีก่อนผมถูกพี่เลี้ยงชาวญี่ปุ่นตะโกนว่าด้วยคำนี้ลั่นห้องประชุม หลังเข้ามาประชุมช้าไป 10 นาที
ในตอนนั้นผมเป็นเจ้าภาพในการประชุม เห็นว่าจำนวนเอกสารไม่พอต่อจำนวนผู้เข้าที่มีกว่า 20 คน เลยตัดสินใจเดินออกไปถ่ายเอกสาร
ใช้เวลาไป 10 นาที
ในวัย 20 ต้นๆ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมพี่เลี้ยงท่านนั้นต้องโมโหผมขนาดนั้น
ตั๋วหนังบ้านเราบอกว่าหนังฉาย 14.00 ฉายจริง 14.30
ไปงานแต่งงาน บัตรเชิญบอกพิธีเริ่ม 18.00 กว่าจะเริ่มจริงๆ 19.30
“แค่ 10 นาทีจะอะไรนักหนา” ผมหาคำตอบมาปกป้องตัวเอง
แต่แล้วหลังทำงานกับชาวญี่ปุ่น 10 ปีเต็ม ผมก็เข้าใจเหตุผลของพวกเขามากขึ้น
งานที่ผมรับผิดชอบนั้นเป็นงานต้นน้ำ
ถ้าการตัดสินใจของผมช้าแค่ 1 วัน อาจจะส่งผลต่อยอดขายของบริษัท คิดเป็น 480 ล้านบาท หรือ 1 นาที 1 ล้านบาท
ตัวเลขนี้มาจากไหน
บริษัทที่ผมเคยทำอยู่จะมีตัวเลขชี้วัดความสามารถในการผลิต ที่เรียกว่า Takt time
ทุกๆ ค่าเวลาหนึ่งจะมีสินค้า 1 ชิ้นออกจากไลน์การผลิต
สินค้าที่ถูกที่สุดของบริษัทผม ราคาประมาณ 400,000 บาท ชิ้นที่แพงที่สุด ประมาณ 1,600,000 บาท บวกกันหารสอง จะได้ 1,000,000 บาทกลมๆ พอดี
Takt time หรือความสามารถในการผลิตสูงสุดของบริษัทที่เคยทำได้อยู่ที่ 52 วินาทีต่อ 1 หน่วยสินค้า ตีกลมๆก็ 1 นาที
หมายความว่าทุก 1 นาทีบริษัทมีสินค้าที่พร้อมสร้างยอดขายได้ 1 ล้านบาท
เพียงแค่ผมเข้าประชุมช้า 10 นาที บริษัทอาจจะสูญเสียโอกาสในการสร้างรายได้ ไปแล้ว 10 ล้านบาท
ถ้าช้าไปหนึ่งวัน ก็ 1 ล้านบาท x 60 นาที x 8 ชม ₌ 480 ล้านบาท
แค่นั้นยังไม่พอ
กว่า 20 ชีวิตที่นั่งในห้องประชุมทุกคนมีภารกิจที่ต้องทำให้สำเร็จ การให้คนกว่า 20 คนมานั่งรอกว่า 10 นาที เท่ากับเราได้เบียดเบียนเวลา
ที่มีค่าของคนอื่นไปแล้ว 200 นาที
บริษัทไม่ได้จ่ายเงินเดือนให้เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ มานั่งเฉยๆ 200 นาที และเขาเหล่านั้นก็มีเรื่องอื่นๆ ที่อยากจะทำหลักเลิกงานเช่นกัน
10 นาทีที่ผมไม่เห็นความสำคัญนั้น แท้จริงแล้วมีคุณค่ามากกว่าที่ผมคิดมากมาย
งานที่ทุกท่านทำอยู่หละครับ 1 นาทีมีคุณค่าแค่ไหนฮะ
#SenseiPae
#เก่งงานอย่างญี่ปุ่นคุณก็ทำได้
#LeanovativeThinking
ติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ Facebook: Leanovative Thinking By Sensei Lek & Sensei Pae
เรื่องแนะนำ :
– ทำไมคนญี่ปุ่นถึงทำงานมีประสิทธิภาพ -ถอดความเชื่อและทัศนคติในการทำงานของชาวญี่ปุ่น-
– จุดแข็งของคนอ่อนแอที่ (ไม่ยอมแพ้พ่าย) -ยอมรับตัวเองและก้าวเล็กๆ ไปข้างหน้า-
– Osanai Aya ตั้งใจ+ไร้ข้ออ้าง = ไม่มีอะไรขวางความสำเร็จ -หุ่นดีไม่มีขาย อยากได้ต้องจริงจัง-
– ทำไม ทำไม ทำไม คำถามสร้างคน เรียนรู้จากหลักการ 5 whys
– (ไม่มีใคร) แก่เกินเรียนรู้ -Insta Gran Kimiko Nishimoto นักถ่ายรูปลง Instagram วัย 89-