หวานยังไงให้ได้ดี?? มาประเดิมต้นปีด้วย 7 ขนมหวานที่มีประโยชน์แบบคนญี่ปุ่นกันเถอะ!
แม้เราทุกคนจะคุ้นเคยกับตำนานนักรบซามูไรแห่งแดนอาทิตย์อุทัยกันมาเนิ่นนาน จนหลายคนอาจเข้าใจกันไปโดยอัตโนมัติว่า ’ซามูไร’ น่าจะเป็นตำแหน่งหน้าที่ซึ่งมีแต่ผู้ชายเท่านั้นที่จะเป็นได้ หากในหน้าประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยอดีต ก็เคยมีเรื่องราวของซามูไรและนักรบหญิงซึ่งมีความกล้าหาญจนได้รับการบันทึกเอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้เช่นกัน วันนี้เราจึงอยากนำเอาเรื่องราวของวีรสตรีเหล่านั้นมาเล่าสู่ให้ฟังกันดูบ้าง แล้วมาดูกันซิว่าเรื่องราวของบรรดาซามูไรสาวเหล่านี้จะปังและดุเด็ดเผ็ดมันพอที่จะฟาดฟันกับซามูไรฝ่ายชายได้หรือไม่!
ก่อนจะไปถึงเรื่องราวของซามูไรเพศแม่ที่ถูกบันทึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์แดนปลาดิบนั้น เราขอชวนคุณมาทำความรู้จักกับเรื่องราวของซามูไรที่แท้จริงกันก่อน
คำว่า samurai นั้นมีรากเดิมมาจากคำว่า saburau ซึ่งมีความหมายถึงการรับใช้ ในช่วงสมัยยุค Heian (ค.ศ.794 – 1185) หน้าที่ของซามูไรจึงเป็นการรับใช้เหล่าบรรดาสมาชิกระดับสูงในราชวงศ์ โดยตำแหน่งของเหล่าซามูไรนั้นนับเป็นข้าราชการระดับกลางๆ ในราชสำนัก ซึ่งหน้าที่ของพวกเขานั้นรวมถึงการต่อสู้เพื่อปกป้องเจ้านายของตนเองด้วย
ต่อมาในสมัย Edo (ค.ศ. 1603 – 1868) ซามูไรได้รับการยอมรับในฐานะของข้าราชการระดับสูง จนกลายมาเป็นชนชั้นที่สูงที่สุดจาก 1 ใน 4 ชนชั้นระดับสูงของสังคมญี่ปุ่นในยุคนั้น โดยมีความสำคัญนำหน้า เกษตรกร ช่างฝีมือ และพ่อค้า
และเมื่อได้ชื่อว่าเป็นซามูไร ไม่ว่าจะอยู่ในเพศสภาพไหนก็ล้วนต้องได้รับการฝึกฝนในด้านฝีมือการต่อสู้กันมาอย่างหนักเท่าๆ กัน ซึ่งซามูไรเพศหญิงก็ไม่ได้รับการยกเว้นในเรื่องนี้ ในยุคเอโดะนั้น บรรดาซามูไรสตรีจำเป็นต้องเรียนรู้วิธีการต่อสู้ด้วย naginata (ง้าว) เป็นหลัก หากแต่ความเข้มข้นของการใช้วิชาการต่อสู้ของพวกเธอนั้นจะขึ้นอยู่กับบทบาทและสถานที่หรือภูมิภาคที่พวกเธออาศัยอยู่ เช่น ในพื้นที่ซึ่งอาจจะไม่ได้เป็นเมืองใหญ่ที่ร่ำรวยมั่งคั่งไปด้วยทรัพย์สินเงินทองมากมายนัก เหล่าซามูไรหญิงก็จะได้รับการผลักดันให้มีความรู้ในเรื่องของงานฝีมือ การตัดเย็บ และเรียนรู้หนังสือเป็นการเพิ่มเติม เพื่อที่จะสามารถหาเงินเลี้ยงดูครอบครัวและพยุงฐานะของตนเองได้
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ซามูไรเพศหญิงก็จะต้องได้รับการอบรมในเรื่องของการต่อสู้และวิธีการทำสงครามเพื่อช่วยในการปกป้องครอบครัวและพื้นที่ของตนเป็นหลัก และแม้จะมีน้อยครั้งที่ซามูไรหญิงได้มีโอกาสแสดงฝีมือในสนามรบใหญ่ๆ แต่ก็ไม่ใช่จะไม่มี!
และนี่คือ 3 ซามูไรหญิงที่ได้รับการจารึกในเรื่องวีรกรรมความกล้าหาญ ซึ่งเราจะนำเรื่องราวของพวกเธอมาฝากกันในวันนี้!
Tomoe Gozen
จะเรียกว่าเธอคนนี้เป็นหนึ่งในซามูไรหญิงที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นก็ว่าได้ และแม้ว่าเรื่องราวของเธออาจจะไม่ได้มีการบันทึกเอาไว้อย่างเป็นลายลักษณ์อักษรมากนัก เพราะส่วนใหญ่เรื่องราวของเธอมักจะได้รับการเล่าขานกันผ่าน The Tale of Heike ซึ่งเป็นตำนานที่เล่าขานสืบต่อกันมา โดยหนึ่งในเรื่องราวนั้นคือสงคราม Genpei (ค.ศ.1180 – 1185) และหนึ่งในวีรกรรมของเธอก็คือการนำทหารม้านับพันนายร่วมรบในสมรภูมิ Tonamiyama (Toyama) และยังว่ากันว่าเธอได้ทำการตัดหัวศัตรูตัวฉกาจอย่าง Honda no Morishige ในสมรภูมิครั้งสุดท้ายที่ Awazu (Shiga) อีกด้วย ซึ่งความดุดันเก่งกล้าของเธอยังคงถูกเล่าขานสืบต่อกันมาผ่านเรื่องราวของละคร Noh และผลงานศิลปะแบบ Ukiyo-e อีกมากมายเลยทีเดียว
แม้อาจจะไม่มีการบันทึกเรื่องราวของเธอเป็นลายลักษณ์อักษรในหน้าประวัติศาสตร์อย่างจริงจัง แต่ว่ากันว่ามีการบรรยายถึงตัวเธอในเรื่องราวบันทึกของสงคราม Genpei เอาไว้อย่างน่าทึ่งดังนี้ ‘มีความงดงามเป็นพิเศษ ผิวขาว ผมยาว และมีเสน่ห์ เธอยังเป็นนักธนูที่แข็งแกร่งอย่างน่าทึ่ง และในฐานะนักดาบหญิง เธอเป็นนักรบที่มีค่านับพัน พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับปีศาจหรือพระเจ้า ไม่ว่าจะขี่ม้าหรือเดินเท้าก็ตาม’
ทุกวันนี้ Tomoe Gozen กลายเป็นหนึ่งในตำนานนักรบแห่งแดนอาทิตย์อุทัย ในฐานะของซามูไรหญิงซึ่งมีพร้อมทั้งความงามและทักษะการต่อสู้ที่เด็ดขาดหาตัวจับได้ยาก โดยเฉพาะทักษะในด้านการใช้ง้าวและธนู นอกจากนั้น บางตำนานยังเล่าว่าเธอเป็นนักสู้ที่มีความดุดันและกล้าหาญ หลายครั้งเธอทำหน้าที่เป็นผู้นำทัพออกรบและคว้าชัยชนะกลับมาพร้อมศีรษะของศัตรูมากมาย
บทสรุปสุดท้ายของเธอยังคงไม่แน่ชัดจนถึงทุกวันนี้ บางตำนานบอกว่าเธอพ่ายแพ้แก่ Wada Yoshimori ในสงครามที่เกียวโตและถูกบังคับให้เป็นสนมของเขา ในขณะที่บางตำนานบอกเล่าว่าเธอใช้ชีวิตในบั้นปลายด้วยการบวชเป็นแม่ชี … และนี่เป็นเพียงเรื่องราวโดยย่อของนักรบหญิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในตำนานของญี่ปุ่นซึ่งยังคงเป็นปริศนาอยู่จนถึงปัจจุบัน!
Lady Ishikawa
เธอคือหญิงสาวซึ่งทำหน้าที่ปกป้องครอบครัวและเจ้านายเคียงบ่าเคียงไหล่กับซามูไรผู้เป็นสามี เรื่องราวเกิดขึ้นในราวปี ค.ศ.1569 เมื่อ Ouchi Teruhiro จากตระกูล Ouchi ซึ่งนับเป็นหนึ่งในตระกูลที่ทรงอิทธิพลที่สุดของประเทศในช่วงนั้น ได้ทำการหนุนหลัง Otomo Sorin ซึ่งเป็นผู้นำของจังหวัด Bungo (Oita) ให้ทำการบุกปราสาท Tachibana ในคิวชู ในขณะที่ตนเองก็นำพาทหารมาบุกยึดปราสาท Koromine ของตระกูล Ishikawa ในเวลาเดียวกัน และเนื่องจากในเวลานั้น Ichikawa Tsuneyoshi ทำหน้าที่นำกำลังไปสู้รบติดพันกับทางฝั่งของ Otomo Sorin อยู่ จึงไม่สามารถกลับมาเพื่อปกป้องบ้านและครอบครัวของตนเองได้
และนั่นทำให้นายหญิงของตระกูล Ishikawa ต้องลุกขึ้นมาทำหน้าที่ปกป้องภัยที่รุกล้ำกร้ำกรายเข้ามายังพื้นที่ของเธอ ด้วยการนำเหล่าบรรดาสาวใช้ซึ่งล้วนได้รับการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้และใช้อาวุธมาเป็นอย่างดี ลุกขึ้นต่อสู้กับศัตรูที่มารุกรานบ้านของพวกเธอ โดยมีง้าวคู่ใจเป็นอาวุธหลัก พวกเธอสวมชุดเกราะเยี่ยงนักรบและใช้ยุทธวิธีต่างๆ เพื่อต่อกรกับเหล่าทหารของ Ouchi Teruhiro ได้อย่างยาวนานถึง 10 วัน จนกระทั่งผู้รุกรานพ่ายแพ้และล่าถอยไป ซึ่งส่งผลให้ Ouchi Teruhiro ตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเองในเวลาต่อมา ส่วนนายหญิงแห่งอิชิคาวะก็ได้รับการบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์และได้รับการยกย่องในฐานะหนึ่งในวีรสตรีของญี่ปุ่นจนถึงปัจจุบัน
Joshigun
Joshigun คือชื่อเรียกของกองทัพนักรบสตรีซึ่งเข้าร่วมในสมรภูมิสงคราม Boshin ซึ่งเป็นสงครามครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นจากกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นซึ่งต้องการปฏิวัติระบบการปกครองสไตล์โชกุนแบบดั้งเดิม มาเป็นการปกครองในรูปแบบที่มีองค์จักรพรรดิ์เป็นผู้นำในช่วงสมัยเมจิ โดยหลังจากฝ่ายจักรวรรดิเข้าควบคุมเกียวโตและเอโดะ (โตเกียว) ได้สำเร็จ พวกเขาก็มุ่งหน้าไปยังจุดหมายใหม่อย่าง Aizu และเมื่อสงครามมาเคาะประตูบ้าน เมื่อนั้นไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงก็ย่อมต้องลุกขึ้นสู้! เหล่าซามูไรหญิงแห่ง Aizu จึงรวมตัวกันก่อตั้งกลุ่มนักรบสตรี Joshigun ขึ้นมา โดยมี Nakano Takeko ซึ่งขณะนั้นอายุเพียง 21 ปี เป็นหนึ่งในผู้นำ หลังจากร่วมปกป้องดินแดนของตนอยู่ระยะหนึ่ง Nakano ก็โดนยิงด้วยกระสุนเข้าที่หน้าอกระหว่างอยู่ในสงคราม แต่ด้วยศักดิ์ศรีของความเป็นซามูไรหญิงที่ไม่ด้อยกว่านักรบคนไหน แทนที่เธอจะนอนรอความตายเพื่อให้ศัตรูมานำศีรษะของตนกลับไปเพื่อรับรางวัลจากเจ้านาย เธอกลับขอให้ Yūko ผู้เป็นน้องสาวของตนเองตัดหัวเธอออกไปซะก่อน แล้วขอให้นำร่างของเธอไปฝังอย่างมีเกียรติแทนที่จะถูกศัตรูทิ้งประจานเอาไว้
Nakano Takeko
หลังการสู้รบ Yūko ได้นำศีรษะของ Nakano ผู้เป็นพี่สาวไปฝังไว้ใต้ต้นสนใหญ่ ณ วัด Hōkai ในจังหวัด Fukushima โดยมีนักบวชกระทำพิธีฝังให้อย่างสมเกียรติ นอกจากนั้นเธอยังได้บริจาคอาวุธของพี่สาวเอาไว้ให้วัดนี้เช่นกัน
ทุกวันนี้ในช่วงเทศกาลฤดูใบไม้ร่วงประจำปี จะมีขบวนของเด็กสาวชาว Aizu สวมชุดฮากามะและโพกศีรษะด้วยผ้าขาวเข้าร่วมพิธีรำลึกถึงวีรกรรมของบรรดานักรบหญิง Joshigun เป็นประจำ และมีการสร้างอนุสาวรีย์ของ Nakano ขึ้นในบริเวณที่ศีรษะของเธอถูกฝังอยู่เช่นกัน!
เพราะไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหนหรือเพศใด มนุษย์มักถูกบังคับให้ลุกขึ้นมาต่อสู้กับเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเสมอ จะเป็นหญิง ชาย หรือเพศใดๆ ก็ตาม เมื่อถึงเวลาที่ต้องปกป้องครอบครัวหรือคนที่ตัวเองรัก ทุกคนก็สามารถพลิกสถานะจากมนุษย์ผู้รักสงบมาเป็นนักรบได้เสมอ และนี่เป็นเพียงแค่ตัวอย่างบางส่วนที่เรามีโอกาสได้เจอะเจอ และอยากนำเรื่องราวของพวกเธอมาฝากคุณ!
เรื่องแนะนำ :
– หวานยังไงให้ได้ดี?? มาประเดิมต้นปีด้วย 7 ขนมหวานที่มีประโยชน์แบบคนญี่ปุ่นกันเถอะ!
– ‘Mizuhiki’ มาเรียนรู้เรื่องราวของเงื่อนแห่งความโชคดีรับวันปีใหม่กัน!
– ‘Asobi’ นักบวช หมอผี และโสเภณีในบั้นปลาย!
– ส่องเมนูอาหารรับซานต้า ม่วนจอยวันคริสต์มาสสไตล์ญี่ปุ่นต้องกินอะไร?
– ปักหมุด 9 ตลาดนัดคริสต์มาสเด็ดๆ รอบโตเกียว จะเฟี้ยวแค่ไหนต้องไปโดน!
– เปิดเมนูรักษาหวัดแบบ Japanese Style กินง่าย ทำง่าย ลองดู!
ข้อมูลอ้างอิง:
– https://savvytokyo.com/women-samurai-in-japanese-history/
– https://en.wikipedia.org/wiki/Nakano_Takeko
– https://www.yae-mottoshiritai.jp/ashiato/nakano-takeko/
– https://en.wikipedia.org/wiki/Lady_Ichikawa
– https://www.tofugu.com/japan/tomoe-gozen/
– https://worldhistorycommons.org/tomoe-gozen
– https://en.wikipedia.org/wiki/Tomoe_Gozen
#3 นักรบหญิงในตำนาน – เพราะการต่อสู้ไม่ใช่เรื่องของผู้ชายเท่านั้นนะคะคุณ!