อีกหนึ่งการแข่งขันที่คนไทย ได้ไปสร้างตำนานไว้ที่ญี่ปุ่น
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ผมมีโอกาสได้ชมภาพยนตร์ Beautiful Boxer ภาพยนตร์เก่าในปี 2004 โดยคุณเอกชัย เอื้อครองธรรม
และก็นึกถึงแมตช์การต่อสู้ซึ่งถือเป็นจุดไคลแมกซ์ของภาพยนตร์ นั่นก็คือการเดินทางไปญี่ปุ่นของน้องตุ้ม เพื่อต่อสู้กับตำนานนักมวยปล้ำหญิงญี่ปุ่นอย่าง “เคียวโกะ อิโนะอุเอะ” ที่ต้องบอกว่าร่างกายแตกต่างกันเป็นอย่างมาก เพราะถึงแม้จะเป็นผู้หญิงแต่ร่างกายของเคียวโกะก็ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดคนหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น และเมื่อผสานกับประสบการณ์ในวงการหลายสิบปี การต่อสู้ในวันนั้นจึงได้รับความสนใจจากสื่อทั่วประเทศญี่ปุ่นเลยล่ะครับ

สำหรับเด็กรุ่นใหม่ที่อาจไม่ทราบว่า “น้องตุ้ม” คือใคร ก็ขอเกริ่นสักนิดนึงก่อนครับ “น้องตุ้ม” หรือชื่อในวงการว่า “ปริญญา เกียรติบุษบา” เป็นนักมวยไทยสาวประเภทสองที่ถือได้ว่ามีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ เมืองไทย เริ่มชกที่เวทีมวยลุมพินีและเก่งถึงขนาดเป็นแชมป์ จุดเด่นของเธอคือเป็นนักมวยที่แต่งหน้าทางปากเหมือนผู้หญิง และมักจะหอมแก้มคู่ต่อสู้เมื่อเธอชนะ ตอนนั้นสื่อของเมืองไทยสนใจน้องตุ้มกันมากๆ ครับ ถือได้ว่าเป็นคนมีชื่อเสียงมากๆ คนนึง
(อย่างไรก็ตามโดยส่วนตัว ผมคิดว่าสื่อมองเธอในฐานะของดารามากกว่ามองเธอในฐานะของนักกีฬานะครับ นั่นเพราะตอนเธอไปชกที่ญี่ปุ่นนั้น ข่าวเกี่ยวกับแมตช์นี้เขียนออกมาเพียงแค่กรอบเล็กๆ เป็นตัวหนังสือบนหน้าหนังสือพิมพ์เท่านั้น ต่างจากในญี่ปุ่นที่ออกทีวีแทบจะทุกช่อง และการต่อสู้ของน้องตุ้มในวันนั้นยังเป็นใบเบิกทางให้กับนักมวยปล้ำสาว ประเภทสองอื่นๆ อีกมากมายด้วย ถึงแม้จะไม่มีใครประสบความสำเร็จเหมือนน้องตุ้มก็ตาม)


ประเด็นที่ผมอยากพูดถึงในวันนี้ก็คือ แมตช์นี้ล่ะครับ มันมีความแตกต่างกันมากระหว่างในภาพยนตร์กับในเรื่องจริง อย่างเช่นการที่เคียวโกะไล่ถลุงน้องตุ้มซะยับเยิน หรือมีการจับกดแบบมวยปล้ำ ยังไงก่อนอื่นเราไปดูคลิปจากภาพยนตร์กันก่อนครับ
อย่างไรก็ตามผมไม่ได้มีปัญหาอะไรกับตัวหนังนะครับ กลับกันผมชอบเรื่องนี้มากๆ แต่อยากนำเสนอข้อมูลบางส่วนจากการแข่งขันจริงๆ ด้วย เพื่อเสริมเนื้อหาเข้าไปเท่านั้นครับ
การแข่งขันครั้งนี้นั้นจัด ขึ้นที่ Nippon Budokan กรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่นครับ (คนละที่กับในหนัง) ในช่วงปี 1998 ตอนนั้นวงการมวยปล้ำญี่ปุ่นเริ่มถูกรุกรานโดยการต่อสู้พวก MMA สไตล์ต่างๆ ลามไปทุกสมาคมและมันทำให้วงการมวยปล้ำต้องปรับตัวครับ คือถ้าเน้นมวยปล้ำอย่างเดียวคงจะไม่มีคนดูแล้ว (เหมือนในปัจจุบันที่กระแสไอดอลโด่งดัง นักมวยปล้ำก็พยายามมีงานถ่ายแบบ มีอะไรสายบันเทิงมากขึ้น ส่วนหนึ่งก็เพื่อเอาตัวรอดกับความเปลี่ยนแปลงนี่ล่ะครับ)
การต่อสู้ครั้งนี้เกิดขึ้นในงานของ AJW ซึ่งเป็นสมาคมมวยปล้ำชื่อดัง สมาคมเดียวกับที่เคยมาปล้ำในเมืองไทยนั่นล่ะครับ ที่มีพวกดัมพ์ มัตสึโมโตะอะไรแบบนี้ อย่างไรก็ตามรายการนี้ได้รับการสนับสนุนจากค่าย NEO ซึ่งเป็นค่ายของคุณ “เคียวโกะ” เองนั่นแหละ ดังนั้นหลายๆ คนที่ถามว่า “ทำไมเอานักมวยปล้ำมาเจอกับนักมวยไทยวะ?” หรือ “คนจัดการแข่งขันโคตรโง่เลย” (จะเห็นบ่อยๆ ตามคอมเมนท์น่ะครับ) ก็เลยอยากยืนยันตรงนี้ว่าถ้าจะด่าคนจัด ก็คือด่าเคียวโกะเองนั่นแหละ เพราะแกเห็นดีเห็นชอบกับการแข่งขันนี้มากๆ ครับ
อีกอย่างหนึ่งการต่อสู้ของจริงตอนนั้นสู้โดยกติกามวยไทยนะครับ ดูการต่อสู้ของจริงได้จากคลิปด้านล่างนี้เลย (แต่แน่นอนอาจจะมีหยวนๆ บ้าง เพราะแมตช์นี้ก็ไม่ใช่การแข่งขันเก็บสถิติอย่างจริงจังอะไรครับ)
ในคลิปด้านบนจะเห็นว่าการแข่งขันต่างกับในหนังแบบคนละม้วนเลยครับ เขาบอกว่าปัญหาสำคัญก็คือคู่ซ้อมของเคียวโกะมีความเกรงใจเธอจนเกินไป (แน่นอนเพราะญี่ปุ่นมีทั้งระบบเซ็มไป และเธอเองก็เป็นถึงตำนานของวงการ จะให้ใครมาสอนง่ายๆ หรือจะหาคนที่กล้าต่อว่าเธอได้ง่ายๆ ก็เป็นเรื่องยาก) ดังนั้นอาวุธโจมตีของเธอที่เตรียมมาจึงเหมือนจะมีเพียงอย่างเดียวนั่นก็คือ เข้าโจมตีและคลุกวงใน แต่ว่าเธอทำอะไรไม่ได้เลยครับ บางทีเธอก็เอาท่ามวยปล้ำแบบดร็อปคิก (กระโดดถีบขาคู่) เข้ามาใช้ ซึ่งนอกจากจะไร้ประโยชน์แล้ว ยังถือเป็นสิ่งที่ทำลายจังหวะของการต่อสู้อย่างมากอีกด้วย และอย่าลืมนะครับว่ายังไงเสียถึงน้องตุ้มจะเป็นสาวประเภทสอง แต่น้องตุ้มก็เป็นผู้ชายอยู่ดี พละกำลัง และจังหวะจะต้องแน่นหนาและแกร่งกว่าเคียวโกะอยู่แล้ว และเมื่อเคียวโกะไม่มีอาวุธอะไรจะสู้นอกไปจากการคลุกวงใน ก็เป็นเรื่องง่ายสำหรับน้องตุ้มที่จะใช้ได้ทั้งเข่า และศอก และสุดท้ายน้องตุ้มก็เอาชนะไปอย่างไม่ยากเย็นนักหลังจากสับศอกเข้าไปที่คิ้ว ซ้ายของเคียวโกะ จนแตกเลือดอาบและกรรมการต้องสั่งยุติการแข่งขันทันที !
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งการแข่งขันที่ถือว่า “คนไทย” ได้ไปสร้างตำนานไว้ที่ญี่ปุ่น และอย่างที่เกริ่นไปว่าแมตช์นี้ช่วยปลุกกระแสมวยไทยในญี่ปุ่นได้พอสมควรเลย ครับ และหากใครมีโอกาสลองหาภาพยนตร์ Beautiful Boxer มาชมกันนะครับ ผมเชื่อว่าจะสนุกและได้แรงบันดาลใจดีๆ แน่นอน
พบกันใหม่สัปดาห์หน้าหรือทางทวิตเตอร์ @Pumiiiiiiiiii ครับ