World Cup 2022 series Ep.2 “เงิน”
“คุณว่าเงินซื้อชัยชนะได้ไหม?”
รายการวิจารณ์บอลจริงจังของญี่ปุ่นเคยคุยกันตอนที่มหาเศรษฐีของโลก เทเงินซื้อทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้
ผู้ประกาศข่าวกีฬา คิดพักนึงและบอกว่า “ผมไม่เชื่อ เงินมันซื้อความยั่งยืนไม่ได้”
ที่มาที่ไปของเรื่องนี้ อาจจะเกี่ยวข้องกับ แผนยุทธศาสตร์ร้อยปีของสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น (แปลกที่ คนญี่ปุ่นไม่ค่อยโวยวายเหมือนประเทศไทยนะ ที่มียุทธศาสตร์ยี่สิบปี) แผนนี้คือการวางระบบสร้างวงการลูกหนังแดนซามูไร ให้ขึ้นมาเป็นสุดยอดของโลก หรือหมายถึงทีมชาติญี่ปุ่นจะต้องคว้าแชมป์บอลโลก ในศตวรรษนี้แหล่ะ!!
แล้วสมาคมฟุตบอลหรือภาครัฐ ทำอย่างไรล่ะ? แค่พูดเป้าหมายมาลอยๆ มันไม่ได้มีราคาอย่างแน่นอน
พวกเขาเน้นความสำคัญไปที่ฟุตบอลเจลีก และการสร้างรากฐานให้ชุมชนท้องถิ่น เข้ามามีส่วนร่วมของการพัฒนา แต่อีกหนึ่งช่องทางที่จะทำให้วงการฟุตบอล เติบโตอย่างก้าวกระโดด คือการส่งผู้เล่น ไปเก็บประสบการณ์ต่างแดน
“หนึ่งในวิธีที่ทำให้ผู้เล่น รวมถึงโค้ชของเรายกระดับ คือการส่งพวกเขาไปเล่นต่างประเทศ”
เพื่อทำตามแผน ที่ต้องการพัฒนาคุณภาพผู้เล่น ผ่านการส่งไปค้าแข้งในยุโรป การปล่อยนักเตะในราคาที่ถูกกว่า ญี่ปุ่นเลยคิดว่า… เราขายขายตัดราคาสินค้านักเตะญี่ปุ่นได้ไหม?
ยกตัวอย่างเช่นฮิเดโตชิ นากาตะ เขาคือผู้เล่นที่สวรรค์ส่งโปรดให้วงการบอลญี่ปุ่นในช่วง 90’s ตอนเริ่มต้นค้าแข้งในทวีปยุโรปกับเปรูจาประเทศอิตาลี นากาตะถูกซื้อตัวในราคาแค่ 3.5 ล้านยูโรเท่านั้น ก่อนที่นากาตะจะไประเบิดผลงาน และถูกโรม่า มาซื้อตัวไปจากเปรูจา ในราคาสูงถึง 21.7 ล้านยูโร มากกว่าเดิม เกือบ 7 เท่า
จากฟุตบอลโลก 1998 ประเทศญี่ปุ่นเข้าร่วมการแข่งขัน โดยไม่มีนักเตะค้าแข้งนอกประเทศ แม้แต่คนเดียว 4 ปีถัดมา ในฟุตบอลโลก 2002 ญี่ปุ่นมีผู้เล่นอยู่ต่างแดน ถึง 4 คน สิ่งที่ชาวยุโรป เริ่มสังเกตเห็นเลยคือ นักเตะญี่ปุ่นกลายเป็นของถูก คุณภาพดีกว่าราคา
ความคิดในยุทธศาสตร์ชาติของบอลญี่ปุ่น ไม่ใช้เรื่องของการยัดเงินเข้าไป!!
มีรุ่นน้องทุนญี่ปุ่นหลายคนเคยปรึกษาผมเรื่องว่าควรเปลี่ยนงานไหมหรือมี offer หลายที่ ควรเลือกยังไง
ผมมักจะบอกรุ่นน้องว่า อย่าใช้เหตุผลว่า อันนี้ให้เงินมากกว่า หรือเห็นมีตำแหน่งว่าง match กับ skill, experience เราพอดี เป็นเหตุผลแรกในการเลือก… แต่ให้ถามตัวเองก่อนว่ามีเป้าหมายอีก 20-30 ปีคืออะไร แล้วงานที่จะไปมันทำให้เราใกล้เป้าหมายนั้นมากขึ้นหรือไม่ (อย่างเช่น ถ้าอยากเป็น CEO การเลือกงานที่เข้าใกล้ตำแหน่งผู้บริหารต่อให้เป็นองค์กรเล็ก ก็ทำให้เราใกล้ฝั่งฝันมากกว่า เป็นต้น)
เช่นเดียวกับญี่ปุ่นที่มีความทะเยอทะยาน และเชื่อสุดใจว่า แนวทางการพัฒนาเยาวชน คือหนทางการพัฒนาให้เจลีก แข็งแกร่งเท่ากับลีกชั้นนำในยุโรป ไม่ใช่ในแง่ของค่าตัวนักเตะ หรือชื่อเสียงผู้เล่น แต่เป็นคุณภาพนักเตะในชาติ ที่สักวันแข้งแดนซามูไร ต้องเก่งไม่ต่างจากนักเตะเยอรมัน หรือสเปน
ด้วยเหตุนี้ สโมสรเจลีก จึงไม่จำเป็นที่จะต้องหาเงิน ซื้อนักเตะราคาแพง เข้ามาแทนผู้เล่นฝีเท้าดี ซึ่งถูกขายไปในราคาสุดถูก เพราะสามารถสร้างขึ้นมาแทนได้ ผ่านระบบเยาวชนของทุกสโมสร ซึ่งถูกสร้างอย่างเป็นระบบ จากการวางแผนที่ดีขอวงการฟุตบอลญี่ปุ่นซึ่งต่างกับจีน ไซนีสซูเปอร์ลีก ที่มีช่วงนึง เทเงินแบบไม่อั้น เพื่อเอานักเตะเก่งๆ ทั่วโลกเข้ามาในลีก… แต่มันพิสูจน์เลยว่า กระบวนการแบบนี้ ไม่ยั่งยืน ตอนนี้หากใครติดตามข่าวบอล จะรู้เลยว่าตอนนี้ลีกจีนข่าวเงียบกริบไปเลย
ที่เขียนมาถึงตรงนี้ มันทำให้ผมนึกถึงคำถามที่อดีตประธานบริษัทโตโยต้าของไทย เคยตั้งตำถามกับคนไทยว่า คำว่า “ดี” ของคุณนิยามแบบไหน ?
1) เราต้องทำให้วิธีทำดี ส่วนผลจะไม่ดี ไม่เป็นไร เราทำดีแล้ว
2) วิธีไม่ใช่ประเด็น ขอให้ไม่ผิดกฎหมาย ขอให้ผลลัพธ์มันดี นั่นแหล่ะดี
3) ทั้งวิธีทำ ทั้งผลลัพธ์ ต้องออกมาดี มันถึงเรียกว่าดีสิ
เหล่าบอร์ด หรือคนไทยก็ถกเถียงกันมากมาย ประธานบริษัทบอกว่า (ขอย้ำว่านี่คือ ความเห็นส่วนบุคคล แค่ในฐานะผู้บริหารบริษัทใหญ่ๆ ระดับภูมิภาค) ถ้าวิธีดี ยังไงผลลัพธ์ก็ต้องดี ถ้าผลออกมาแย่ แสดงว่าจริงๆ แล้ววิธีทำเราไม่ดีต่างหาก
พอเห็นยุทธศาสตร์ที่เขาเดินแล้ว เลยนึกถึงวิธีที่ทางลัทธิเซนก็ชอบใช้ ในการดำรงชีวิต
บางทีถ้าพวกเรายึดติดว่า ปัญหาทุกอย่างน่าจะแก้ด้วยเงินได้… มันอาจจะทำให้เราหลงลืมอะไรบางอย่างไป…
วิถีคือเป้าหมาย
— เซน
เรื่องแนะนำ :
– World Cup 2022 series Ep.1 “กล้า”
– นิทาน อาเบะ กับเวทมนต์ต้องห้าม
– นิทานมนุษย์เงินเดือน : เข็มนาฬิกา กับ มินามิโนะ
– [18+] “MEXT” วันแห่งโชคชะตา
– [18+] 10 วิธี เพื่อ “ซ่อมบำรุงสมอง” ใน 10 นาที ง่ายจนอยากแชร์
#World Cup 2022 series Ep.2 “เงิน”