ถ้าใครมีโอกาสเดินเข้าโรงงานของบริษัทญี่ปุ่น มักจะมองเห็นป้ายแสดงสถานะ (Visualization board) ตอนทำงานใหม่ๆ ผมเคยสงสัยว่าจำเป็นไหมที่ต้องมีป้ายแสดงสถานะมากมายแบบนี้ไหม คนที่ทำงานของตัวเอง เขาก็น่าจะรู้ว่าสถานะของตัวเองเป็นยังไง ไม่น่าจำเป็นต้องทำเลยนะ
(1) ถ้าใครมีโอกาสเดินเข้าโรงงานของบริษัทญี่ปุ่น มักจะมองเห็นป้ายแสดงสถานะ (Visualization board)
ตอนทำงานใหม่ๆ ผมเคยสงสัยว่าจำเป็นไหมที่ต้องมีป้ายแสดงสถานะมากมายแบบนี้ไหม
คนที่ทำงานของตัวเอง เขาก็น่าจะรู้ว่าสถานะของตัวเองเป็นยังไง ไม่น่าจำเป็นต้องทำเลยนะ
(2) เดือนกันยายนเป็นช่วงสอบปลายภาคของเด็กๆ
น้องเมจิลูกสาวของผม จะมีกำหนดสอบในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า ทั้งหมด 9 วิชา
วันแรกที่เมจิเริ่มอ่านหนังสือเตรียมสอบ เธอใช้เวลาตอนเย็น 30 นาที แล้วไปดูการ์ตูนต่อ
“เมจิ อ่านแบบนี้จะทันเหรอลูก” ผมถามด้วยความไม่แน่ใจ
“หนูคิดว่าทันนะคะ” เธอตอบแบบนั้น
(2) บอกตามตรงผมไม่มั่นใจกับเวลาที่เหลือ
ผมเลยสร้างตารางการอ่านหนังสือเพื่อมองเห็นสถานะที่แท้จริง (Visualize status)
จากตารางเห็นได้ชัดว่าเรามีเวลาเตียมตัวแค่วิชาละ 2 วันและเราควรอ่านหนังสือวันละ 120 นาที ถึงจะอ่านจบแบบทันเวลาพอดี
เมื่อลูกสาวมองเห็นป้ายแสดงสถานะของเธอ เธอยอมปรับวิธีการอ่านหนังสือของเธองดดูการ์ตูน เพื่อเอาเวลามาอ่านหนังสือแทน
(1) ป้ายแสดงสถานะจึงมีความจำเป็น ที่ทำให้คนทุกคนเข้าใจความเป็นไปที่แท้จริง
ถ้าไม่มีป้ายแสดงสถานะ (Visualization board) เราอาจจะเข้าใจว่ากระบวนการของเราดีแล้ว ทั้งๆ ที่จริงจำเป็นต้องแก้ไขโดยเร่งด่วน ไม่เช่นนั้นเราจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการทำงานได้
เมื่อเข้าใจแก่นของมันแล้ว จะเอาไปประยุกต์ทำอะไรต่อก็ได้
#Visualization
#พลังของการมองเห็น
#SenseiLEK
#JapanMind
#LeanovativeThinking
ติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ Facebook: Leanovative Thinking By Sensei Lek & Sensei Pae
เรื่องแนะนำ :
– Respect ยิ่งโตยิ่งโค้ง
– Reflection กระจกย้อนอดีต
– ลดความสูญเสีย แม้แต่ในสำนักงาน
– ความคุ้มค่าในภาพรวม
– ชนะแค่วันละคืบ