ชวนอ่าน : กัปตันธันเดอร์โบลต์
เรื่องราวของมิตรภาพ ขบวนการ 5 สี และเบสบอล ที่อยู่ในความทรงจำวัยเด็ก
เรื่องย่อ
สองหนุ่มอดีตเพื่อนรักสมัยประถมถูกภาวะทางการเงินบีบบังคับจำต้องร่วมกันออกตามหาน้ำพิเศษที่องค์กรก่อการร้ายข้ามชาติต้องการ แต่น้ำพิเศษนั้นอยู่ในบริเวณที่ทางการระบุว่าเป็นแหล่งเชื้อโรคร้ายเก่าแก่ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 (ชื่อว่า เชื้อมูราคามิ) ชายธรรมดาสามัญมือเปล่าสองคนจะทำอย่างไร คุณสมบัติ (รวมทั้งข้อเสีย) อันแตกต่าง มิตรภาพและความคลั่งไคล้ขบวนการยอดมนุษย์ 5 สีจะช่วยพวกเค้าได้หรือไม่
เมื่ออ่านไปก็เกิดความสนุก เสมือนกำลังรับชมภาพยนตร์สักเรื่องหนึ่ง
อ่านจบแล้วยิ่งเกิดความประทับใจ จนอยากจะมาแนะนำให้เพื่อนๆ ได้ลองอ่านกันดูค่ะ
กัปตันธันเดอร์โบลต์ หรือ キャプテンサンダーボルト
เป็นหนังสือที่มีเรื่องราวของการผจญภัย ร่วมค้นหาความจริงและต่อสู้กับเหล่าร้าย แฝงไปด้วยความกล้าหาญและเรื่องราวของมิตรภาพระหว่างเพื่อน ผลงานการเขียนร่วมกันของสองนักเขียนมีชื่ออย่าง คาซึชิเงะ อาเบะ และโคทาโร อิซากะ ซึ่งหากเป็นแฟนของนักเขียนสองคนนี้แล้วก็คงจะแยกได้ไม่ยากว่าส่วนไหนที่ ‘ใคร’ เป็นคนเขียน ด้วยสไตล์เฉพาะของสองนักเขียนทำให้หนังสือเล่มนี้มีความสนุกสนานระหว่างเรื่องราวผจญภัยที่ออกแนวแฟนตาซีผสมผสานกับการเสียดสีสังคมเล็กๆ และความสมจริงของจิตใจผู้คนได้อย่างลงตัว
เมื่อเนื้อเรื่องในหนังสือแฝงไปด้วยความเป็นญี่ปุ่นและกระตุ้นความทรงจำในวัยเด็ก
“ความทรงจำสมัยนั้นแม้จะเลือนราง แต่ก็ผุดขึ้นมาจากช่วงเวลากว่าสิบปี ความทรงจำสมัยเด็กที่ลืมไปแล้ว ไม่เฉพาะความหวนหาอาลัย แต่คงเป็นเพราะความทุกข์ทรมาน เช่น ความรู้สึกขลาดอาย เสียหน้า สำนึกผิด เคืองแค้น ก็มีมาก”
หนังสือเล่มนี้ดำเนินเรื่องราวไปบนพื้นฐานของสิ่งที่อยู่ในความทรงจำวัยเด็กของตัวละครหลัก มีการเล่าเรื่องย้อนสลับไปในอดีตและปัจจุบัน เพื่อให้คนอ่านให้เข้าใจจิตใจและความรู้สึกนึกคิดของตัวละคร พร้อมดึงเอาเรื่องที่คนคุ้นเคยกันอย่าง ขบวนการฮีโร่และเบสบอลมาเชื่อมโยง ‘มิตรภาพ’ ของ โทคิยูขิ อาอิบะ กับ ยู อิโนะฮาระ
ขบวนการ 5 สี
รายการทีวีที่เรียกขานกันว่า ขบวนการฮีโร่ เป็นซีรีส์ทางทีวีชุดหนึ่งที่ฉายต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงกลางทศวรรษที่ 1970 โดยมีฮีโร่ 5 คนใส่ชุด 5 สี คือแดง น้ำเงิน เหลือ เขียว ชมพู รวมตัวเป็นทีมเข้าต่อสู่กับวายร้าย ทุกปีจะมีการปรับทีมใหม่ ทั้งชื่อเรื่อง ชื่อทีม ตัวร้าย และโครงเรื่องพื้นฐาน นั่นก็คือทุกอย่าง นอกจากแพตเทิร์นของเรื่องคร่าวๆ กับห้าสีจะเปลี่ยนใหม่หมด แต่ละซีรีส์จะมีธีมเฉพาะตัว เช่น นินจา หรือ เวทมนตร์ ที่ใช้จัดวางแรงขับในการดำเนินเรื่องเอาไว้ ‘ขบวนการเมจิน ธันเดอร์โบลต์’ นั้นใช้สายฟ้า ฟ้าร้อง ฟ้าแลบ เป็นภาพลักษณ์ตามชื่อเรื่อง
“ทุกปี พอเรื่องซีรีส์ใหม่ ผมก็ดูได้สนุก แต่ธันเดอร์โบลต์นี่ถือว่าชอบมากครับ”
‘ขบวนการเมจิน ธันเดอร์โบลต์’ เรด บลู เยลโลว์ พิงค์ กรีน ขบวนการ 5 สีที่อยู่ในความทรงจำของตัวละคร กลับกลายมาเป็นเบาะแสหลักที่ทั้งสองคนต้องช่วยกันไข ว่ามีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับน้ำจากบึงห้าสีและองค์กรลึกลับ
การหยิบยกเอาประเด็นเรื่องขบวนการ 5 สีมาผสมผสานในเนื้อเรื่อง สะท้อนถึงตัวตนและความผูกพันของเด็กชาวญี่ปุ่นกับเรื่องราวของฮีโร่ในวัยเยาว์ได้เป็นอย่างดี
“ถ้าเปรียบเป็นขบวนการฮีโร่แบบนี้ก็คือ เรด สวมชุดแดง เป็นหัวหน้าหมายเลขหนึ่ง”
“ไม่ครับ ถ้าจะว่าเป็นสีไหนก็คงสีน้ำเงิน เท่ ช่างเสียดสี ขี้โกงเสมอ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ไม่ยอมตกเป็นเป้า อืม ก็คือเป็นแบดบอยน่ะครับ”
ซึ่งเรื่องราวของขบวนการ 5 สีนี้ได้นำมาสู่การพบเจอกันของเพื่อนเก่าแก่สองคนที่เคยมีความทรงจำในเรื่องขบวนการเมจิน ธันเดอร์โบลต์และเบสบอลร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง
“ไม่ใช่เพียงความคิดถึง แต่เมโลดี้นั้นยังทำให้ใจโลดเต้น เนื้อร้องเขาก็รู้ดี และจำได้ว่าช่วงหนึ่งเคยร้องบ่อยๆ…ความทรงจำในวัยเด็กที่เคยคลั่งไคล้ขบวนการฮีโร่ย้อนกลับคืนมาอย่างเข้มข้น”
เบสบอล
หนังสือได้หยิบยกประเด็นเรื่องเบสบอลมาเป็นตัวเชื่อมของมิตรภาพระหว่างเพื่อนเก่าสองคน นำมาสู่เรื่องราวของมิตรภาพและความทรงจำในวัยเด็กที่ได้หล่อหลอมตัวตนของสองตัวละครเอกขึ้นมา ซึ่งในเนื้อเรื่องได้มีการสอดแทรกประเด็นของเบสบอลมาเรื่อย ๆ (ตั้งแต่การที่ตัวละครเอกเคยอยู่ทีมเบสบอลเดียวกันสมัยเรียน)
“โทคิยูขิ อาอิบะ ใช้สองมือส่งสัญญาณบล็อก ‘ตีไปทางไรต์’และ ‘ขโมยเบสพร้อมกัน’ ไปยังอิโนะฮาระ”
“ลูกที่ขว้าง ทิศทางไม่เลวเลย”
รวมไปถึงการนึกย้อนความหลังไปสมัยเรียน และในตอนท้ายเรื่อง ‘เบสบอล’ ก็กลายมาเป็นตัวแทนแห่งความไว้เนื้อเชื่อใจ ความมั่นใจ ที่จะต่อสู้ให้ผ่านพ้นอุปสรรคที่กำลังเผชิญไปได้ และทำให้เพื่อนสองคนที่มีความทรงจำแสนเศร้าต่อกันกลับมาเป็นเพื่อนกันดังเดิม
ถือว่าเป็นหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่อ่านแล้วทำให้เราหวนคิดไปถึงความทรงจำในวัยเด็กที่มีทั้งสุขและเศร้าปะปนกันไป ซึ่งประสบการณ์ที่แต่คนได้พบเจอก็เป็นส่วนหนึ่งที่หล่อหลอมให้เราเป็นเราอย่างทุกวันนี้ เหมือนอย่างในหนังสือเล่มนี้ที่บอกว่า
“ทั้งหมดนี่ดีได้ก็เพราะความทรงจำวัยเด็ก ทุกสิ่งทุกอย่างที่เห็นที่ได้ยินในสมัยนั้นช่วงปกป้องพวกเราในตอนนี้”
เรื่องแนะนำ :
– ศิลปะจากเส้นไหมที่ทำให้คุณรักการเย็บปักถักร้อยมากยิ่งขึ้น
– เบื่อแล้วยางลบสีขาวธรรมดา ต้องนี่เลย…ยางลบใสโปร่งแสง
– MISOJYU ร้านที่เสิร์ฟแค่มิโซะและข้าวปั้น
– ชวนเที่ยว MASHIKO เมืองแห่งเครื่องปั้นดินเผา
– ชวนแวะ : ร้านซักผ้าแบบบริการตนเองที่ได้รางวัลการันตี