ตามรอยการ์ตูนครั้งแรก Going Merry…สวัสดีค่า กลับมาถึงการตามรอยบทหลักกันอีกแล้ว รอบนี้จะขอเล่าถึงจุดเริ่มต้นของจุดเริ่มต้นในการอยากไปตามรอยการ์ตูน (จริงๆ ต้องเล่าก่อนตอนที่ 1 แต่มันพ่วงกับทริปที่ไปกับพี่จีระนันท์ แฟนพันธ์แท้การ์ตูนญี่ปุ่นด้วย)
สวัสดีค่า กลับมาถึงการตามรอยบทหลักกันอีกแล้ว รอบนี้จะขอเล่าถึงจุดเริ่มต้นของจุดเริ่มต้นในการอยากไปตามรอยการ์ตูน (จริงๆ ต้องเล่าก่อนตอนที่ 1 แต่มันพ่วงกับทริปที่ไปกับพี่จีระนันท์ แฟนพันธ์แท้การ์ตูนญี่ปุ่นด้วย)
เริ่มมาจากวันนึงประมาณปี 2004 อิชั้นไปเจอภาพเรือโกอิ้งแมรี่ในวันพีซ ว่ามีการสร้างจริงๆ ที่ญี่ปุ่น และคนขึ้นไปดูได้ และแล่นออกทะเลได้จริงๆ ที่ญี่ปุ่น

ตอนแรกที่เห็นภาพนี่ใจสั่น อยากไปมากๆๆๆ แถมตอนนั้นกำลังบ้าวันพีชเต็มขั้น จึงพยายามศึกษาหาข้อมูลมาให้ได้มากที่สุด ซึ่งก็ได้ภาพได้รายละเอียดเข้างานมาแต่การไปญี่ปุ่น ณ ตอนนั้นประมาณช่วงปี 2004-2005 การไปญี่ปุ่นมันไม่ง่ายเหมือนตอนนี้ ตอนนั้นตั๋วราคาประหยัดๆ แบบโลวคอสไม่มีจ้า ถ้าจำราคาตั๋วไม่ผิด การบินไทยไปกลับประมาณ 6-70,000 บาท สายการบิน ANA ราคาประมาณเดียวกัน และต้องขอวีซ่าเท่านั้น ซึ่งตอนนั้นต้องมีใบรับรองเงินเดือนจากบริษัท ในบัญชีต้องมีเงินในบัญชี มีเงินหมุนเวียน บลาๆๆๆ และค่าใช้จ่ายด้านโรงแรมก็ยังไม่ถูกหรือมีตัวเลือกเยอะอย่างทุกวันนี้
สรุปดื้อๆ คือถ้าจะไปญี่ปุ่น 5-7 วัน ต้องมีงบประมาณ 100,000 บาท เป็นอย่างต่ำที่สุดในการเดินทางและใช้จ่าย ทำให้ฝันค้างไปเลย และแล้วความฝันของเราก็มีคนหยิบยื่นถึงมือ เมื่อเจ้านายต้องไปติดต่องานที่ญี่ปุ่น เจ้านายเลือกอิชั้นให้ไปด้วย (กราบขอบพระคุณเจ้านายอีกที) โดยต้องไปประชุมงานกับเจ้านาย 3 วัน ที่เหลือ 4 วัน อิสระจะไปไหนก็ไป เจ้านายอธิบายยังไม่ทันจบตอบกลับทันที “ไปค่า”

ซึ่งจากข้อมูลอันน้อยนิดเท่าที่มีและความรู้ด้านภาษาญี่ปุ่นเกือบ 0% ก่อนไปจึงได้รบกวนท่าน “ก้านกฤษณา” 1 ในสมาชิกพันทิป ซึ่งตอนนั้นอาศัยอยู่ที่นั่นช่วยหาข้อมูลการเดินทางให้ซึ่งก็ได้มาบ้าง แต่ก็ไม่มากพอสำหรับคนไปครั้งแรก แต่เอาเถอะถ้าอยากจริงๆ รักจริงๆ มันจะอยู่ที่ไหนก็ไปได้ ตอนนั้นคิดแบบนั้น
ก่อนเดินทางไปรู้เพียงอย่างเดียวว่าต้องหาโอไดบะให้เจอก่อน มันน่าจะอยู่ที่อ่าวโตเกียว วันแรกที่ไปถึงญี่ปุ่นยังไม่ได้ไปโตเกียว ยังวนเวียนที่จังหวัดอื่นก่อนจนวันที่สามของการเดินทางคิดว่าวันนี้แหละที่จะไปหาโกอิ้งแมรี่

จากการสอบถามพนักงานโรงแรม YMCA ก็ได้ความว่าโอไดบะมันอยู่อ่าวโตเกียว (ตอนนั้นยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร) พนักงานของโรงแรมก็พยายามช่วยนะ ขึ้นรถไฟสายนี้นะไปลงนี่แล้วก็นั่งต่อไปจะเห็นสะพานนะแล้วก็……… เราก็จดยิกๆๆๆ เราก็ใจชื้นละ ที่เหลือก็แค่ไปเดินหาเท่านั้นเอง ยังไงก็ต้องเจอ เพราะเรือจอดในทะเล จอดที่ท่า เรือลำเบ้อเริ่มต้องเจอแน่นอน

หลังจากเตรียมตัวเสร็จก็เริ่มการเดินทางด้วยการเดินไปกินข้าวหน้าเนื้อวัวหน้าโรงแรม พร้อมร้องคำพูดคินนิกุแมนแบบเสียงน้าต๋อยในใจ “ข้าวหน้าเนื้อวัวเจ้าเก่าสามร้อยปี อะ โช๊ะ โชะ”

พออิ่มปั๊บ เตรียมพร้อมเดินทาง ตัวเริ่มสั่นด้วยความหนาวและสั่นตื่นเต้นจะได้ไปขึ้นเรือโกอิ้งแมรี่แล้วเฟ้ย ตอนนั้นขึ้นรถไฟไปสายอะไรจำไม่ได้เหมือนกัน นั่งไปเรื่อยๆ ตามโพยที่จดมา พอขึ้นรถไฟที่จะข้ามไปโอไดบะ ก็เอาแผนที่มากางเช็คอีกที พอถึงสถานีในโอไดบะตรงทางออก อิชั้นเช็คชัวร์อีกทีด้วยการถามคนญี่ปุ่นที่เดินผ่านมา อายุประมาณ 40 ปี ลุงแกเดินผ่านมาพอดีเลยถามทางเขาเป็นภาษาอังกฤษกระท่อนกระแท่น ซึ่งคำตอบทำลายฝันของผู้ใหญ่ใจเด็กไปในพริบตา
(ถามและยื่นแผนที่ให้ดู)
ลุง : ” โอเป่น โออออนลี ซัมมะ”
อิชั้น : พะ พาดอน พลีส ? (ซัมมะ ? อะไรหว่า กินข้าวมาแล้วลุง)
ลุง :” โอเป่น โออนลี ซัมมะ”
: เซย์ อะเกน พลีส ?
พูดจบอิชั้นก็เอาปากกาขีดบนข้อมูล “โกอิ้งแมรี่” ที่ปริ๊นท์มา ลุงดูอีกทีแล้วคุณลุงขอปากกาจากมือมาขีดที่ดอกจันท์ ภาษาญี่ปุ่นตัวเล็กๆ ด้านล่างที่อิชั้นก็ไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร?
: “ดิส รี มาร์ค เซดดด โอ เป่น ออน ลี ซัม มะ”
: : “ONLY SUMMER?”
: “YES … THIS REMARK SAID OPEN ONLY SUMMER”
: แปลว่า “มันเปิดเฉพาะช่วงหน้าร้อน”
: ช๊อค…………………………………….(มันเปิดแค่ช่วงหน้าร้อนนนนน รึนี่ ?)

หลังจากขอบคุณคุณลุงด้วยหน้าสุดผิดหวัง แกก็ยิ้มๆ เดินจากไป “หมดกัน” แล้วตรูมาทำไมฟ่ะ แต่เอาน่ามาขนาดนี้ ถอยกลับก็บ้าแล้ว ใช่แล้ว…….. ลุงอาจจะฟั่นเฟือนก็ได้ 555 พอคิดได้ดังนั้นก็เดินทางต่อจนไปถึงมันเป็นอย่างที่ลุงว่าจริงๆ มันไม่มีจริงๆ ด้วย หลังจากเดินสำรวจแล้วว่าเรือมันไม่มีจริงๆ และมันไม่ได้กำลังวิ่งพาคนวนดูอยู่ เศร้าเลยอ่ะ พอทำใจได้เลยตั้งโปรแกรมใหม่ วันนั้นเลยไปเดินโตเกียวโดมแทน
หลังจากเล่าเรื่องความผิดพลาดในการตามรอยให้พี่จีฟังในระหว่างเดินทางไปทริป วันพีซ โตเกียวทาวเวอร์ พี่จีก็ยิ้มมุมปากแต่ไม่ได้บอกอะไร จากนั้นเรามีโปรแกรมไปตามรอยร้าน “BARATIE” ร้านอาหารของซันจิ และเชฟขาแดง ตั้งอยู่บนชั้น 7 ของตึก Fuji TV ย่าน Odaiba, Tokyo ซึ่งพี่จีก็ชวนคุยอะไรไปเรื่อยระหว่างที่เดินไปร้านอาหาร ขึ้นบันได้เลื่อยแสนยาวไปเรื่อยๆ
เริ่มสังเกตว่าพี่จีหน้ายิ้มมุมปากนิดๆ เรื่อยๆ ชักเริ่มสงสัย จนกระทั่งเดินถึงชั้นลอยพี่จีผายมือให้ดู ขวามือของเราคือ ร้านอาหารบาราติเอ ส่วนซ้ายมือคือ “อนุสรณ์เรือแม่รี่”

“แมรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรี่”
คุณพระคุณเจ้า ไม่รู้มาก่อนเลยว่า หลังจากรื้อเรือแล้ว เขาเอาส่วนหัวเรือหรือหน้าแมรี่ มาตั้งไว้เป็นที่ระลึกตรงนั้นพอดี น้ำตาไหลเลยตอนนั้น ก้มลงก็เห็นป้ายประวัติข้อมูลพอดี



ตอนนั้นแม้อากาศจะหนาว แต่ตอนนั้นไม่รู้สึกเลยความทรงจำเก่าๆ มันล้นออกมา พี่จีปล่อยให้อิชั้นอยู่กับช่วงเวลานั้นพอสมควร แล้วจึงเรียกให้ไปทานอาหารในร้านกัน ช่วงเวลานั้นมันดีมากเลยได้รับความรู้สึกหลายอย่างกลับมาในจิตใจ เหมือนได้เติมพลังใจเลยก็ว่าได้ เอาล่ะ มาชมรีวิวภัตตาคารบาราติเอ กัน !!!

บรรยากาศภายในร้านก็เหมือนร้านอาหารสวยๆ ข้างในโปร่ง กว้าง จัดร้านแบบร้านอาหาร ยกเว้นส่วนประกอบร้าน จากวันพีซอยู่เต็มไปหมด และมีซันจิผู้ช่วยของเชฟขาแดง ยืนรับออเดอร์หน้าร้าน


ต้องขออภัยเรื่องภาพอาจน้อยไปนิดนึง ตอนนั้นมัวแต่คุยกับพี่จีระนันท์ถึงเรื่องแมรี่ ภาพรวมในร้านอาจจะน้อยไปนิดนะ ที่ชอบมากอีกอันคือ เพดานเป็นแผนที่โลกวันพีซ แหงนดูเพลินๆ ดี
พอมองอีกที อ้าวมีคู่กัดซันจิ นายโซโล มายืนเฝ้าร้านด้วย
นั่งดูบรรยากาศรอบร้านได้แป๊บเดียว พนักงานก็เอาเมนูอาหารมาให้ อิชั้นคัดภาพมาให้ชมค่ะ ที่ถ่ายมาส่วนตัวมันไม่ชัด
สนนราคาก็ไม่ถือว่าแพงนะ ถือว่าค่าบรรยากาศ ภัตตาคารโหด !!!
พอเลือกได้ก็เลือกเมนูเจ้าปลากับเครื่องดื่มเป็นเบโปะเขาเรียกอะไรก็ไม่ได้ถาม สั่งเพราะตอนนั้นพี่แกกำลังบูม พี่จีสั่งชุดของทอดมหาสมบัติมา

โดยรวมรสชาติก็ทานได้แหละ และในระหว่างทานพนักงานก็มาแจ้งว่าสักพัก “ออเนอร์เชฟ ขาแดง” จะออกมาหน้าร้านในอีกสักครู่

พอออเนอร์เชฟเดินออกมา ทางพนักงานก็จะประกาศว่าออเนอร์เชฟ ออกมาพบลูกค้าแล้ว ลูกค้าก็จะแห่กันไป เซลฟี่ กับออเนอร์เชฟ

โดยรวมสำหรับ “ภัตตาคารลอยทะเล บาราติเอ” ต้องบอกว่าคุ้มกับบรรยากาศวันพีซ อาหารไม่แพงไป (เรทที่นั่น) สำหรับแฟนวันพีซ ยังไงก็ต้องไปอ่ะ อ้อ นอกจากอาหารแล้วยังมีของที่ระลึกและของพิเศษขายในร้านด้วยนะ ไม่มีขายที่ไหน ถ้าอยากได้จัดเลยนะ ในส่วนของภัตตาคารบาราติเอ และอนุสรณ์แมรี่ จะยังอยู่ที่โอไดบะ อีกกี่ปีก็ไม่มีใครทราบได้ สำหรับแฟนๆ วันพีซ เราขอแนะนำให้รีบไป อย่าพลาดแบบอิชั้นนะ อย่าวางใจว่ามันจะเปิดไปอีกนาน มีโอกาสก็รีบไปดีที่สุดจ้า
สำหรับทริปย้อนอดีต กับโกอิ้งแมรี่ก็จบลงเท่านี้ก่อนจ้า เดี๋ยวเราจะพาไปตามรอยอะไรกันต่อ โปรดติดตามจ้า ก่อนใครที่นี่ที่เดียว MARUMURA
เส้นทางการตามรอยโกอิ้งแมรี่และภัตตาคาร บาราติเอ
Address: Fuji Television Building 7F, 2-4-8 Daiba Minato-ku, Tokyo
โทรศัพท์ : 03-5500-5843
สถานี : รถไฟสาย Yurikamome line –ลงสถานี Daiba station เดินไปที่ตึกสถานีฟูจิทีวี ประมาณ 3 นาที ขึ้นบันไดเลื่อนยาวไป
การชำระเงิน : Credit Card, เงินสด
รองรับได้ : 100 ที่นั่ง
เมนูแนะนำ : East Blue no Megmi wo Ukete (Seafood Pilaf), Tomo wo Tasukerutame Shanks tono Chikai (Sliced Elephant Tuna fish grill), Kaigun-shoko ni Naru Otokono Tanjo (Curry & rice with fried chicken on bone)
เวลาทำการ จ. – อา.: 10:30 – 20:00 น.
จ ญ น ห อ ด ม
ตามรอยและเรียบเรียง
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ FB: เจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน
เรื่องแนะนำ :
– เจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามันตามรอยการ์ตูนในญี่ปุ่น ตอนที่ 2 คนไทยอยากไปตามรอยการ์ตูนเรื่องอะไรกันนะ ?
– เจ้าหญิงน้อยฯ ตามรอยการ์ตูนในญี่ปุ่น ตอนที่ 1 : ตามรอยการ์ตูนครั้งแรกกับแฟนพันธ์แท้การ์ตูนญี่ปุ่น
– รายงานพิเศษ : เสียงสะอื้นจากป่าไผ่ Arashiyama
– I HAVE A………….. PPAP CAFÉ ณ ฟุกุโอกะ
– ต้นการบูรยักษ์แห่งสถานี Kayashima ความลงตัวของชุมชนและการพัฒนาเมือง