ในฤดูใบไม้ผลิ ปราสาทนาโงย่าก็เป็นสถานที่ชมดอกซากุระยอดนิยม ที่นี่มีต้นซากุระกว่า 1,600 ต้น ตอนกลางคืนก็มีการประดับไฟสร้างบรรยากาศการชมซากุระยามค่ำคืนให้น่าสนใจเพิ่มขึ้น น่าไปชมมากๆ
ปราสาทญี่ปุ่นซึ่งมีความเป็นเอกลักษณ์เป็นของตนเองนั้น สมัยก่อนถูกสร้างขึ้นมากมาย ปัจจุบันเราจึงเห็นว่ามีปราสาทเก่าแก่แสดงความเจริญรุ่งเรืองในอดีตของญี่ปุ่นอยู่ทั่วไป เกือบจะทุกจังหวัด ที่จะกล่าวถึงในครั้งนี้ก็คือ ปราสาทนาโงย่า ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองนาโงย่า จังหวัดไอจิ ทางตอนกลาง (Central Japan) ของเกาะฮอนชู เกาะใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Travel/Nagoya%20Castle/NagayaCastle1.jpg)
ปราสาทแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นในสมัยเอโดะ (ค.ศ. 1603 – 1867) โดยตระกูล Tokugawa สมัยโชกุน Tokugawa Ieyasu ให้เป็นที่พำนักของ Owari Tokugawa เริ่มสร้างตั้งแต่ค.ศ. 1610 สร้างเสร็จสิ้นในค.ศ. 1612 เป็นปราสาท 7 ชั้น ไม่รวมชั้นฐาน ซึ่งปัจจุบันตัวปราสาทถูกจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้ความรู้เกี่ยวกับปราสาทเกือบทั้งหมด สามารถเข้าชมได้ตั้งแต่ชั้น B, 1F, 2F, 3F, 4F, 5F และ 7F (ชั้นของฝากและจุดชมวิว) แต่ไม่สามารถเข้าชมที่ชั้น 6F ได้นะ บางโซนห้ามถ่ายรูป บางโซนห้ามใช้แฟรซเวลาถ่ายรูป ต้องคอยสังเกตกันให้ดีๆ
ลักษณะเด่นของปราสาทนาโงย่าก็คือที่บริเวณป้อมปราการของปราสาทมีปลาคาร์ฟทองคำ ซึ่งมีหัวเป็นสิงโตประดับอยู่ ถือว่าเป็นปลาคาร์ฟทองคำประดับปราสาทซึ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นเลยทีเดียว โดยหากวัดที่ความสูงแล้ว แต่ละตัวสูงถึง 2.7 เมตร ชุบทองคำ 18K มากถึงประมาณ 90 กิโลกรัม!!
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Travel/Nagoya%20Castle/NagayaCastle2.jpg)
เจ้าปลาคาร์ฟหัวสิงห์ที่ทำด้วยทองคำนี้ เรียกว่า “kinshachi” ซึ่งก็หมายถึง “shachihoko” สัตว์ในตำนานญี่ปุ่นชนิดหนึ่งที่ทำด้วยทองคำนั่นเอง โดย shachihoko นั้นมีตัวเป็นปลาคาร์ฟ มีหัวเป็นสิงห์ ตามความเชื่อโบราณ shachihoko มีอำนาจเรียกฝนได้ สถาปัตยกรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมจึงนิยมประดับ shachihoko ไว้ตามหน้าจั่ว เพื่อช่วยคุ้มครองยามเกิดไฟไหม้ นัยว่าจะช่วยดับไฟได้ (มั้ง) สำหรับที่ปราสาทนาโงย่าจะมี shachihoko หรือ kinshachi (shachi ทองคำ) 2 ตัว (1 คู่) ซึ่งแสดงถึงความมีอำนาจแล้วก็ความมั่งคั่งของตระกูล Tokugawa ในสมัยก่อนได้อย่างชัดเจนทีเดียว โดยเจ้า shachi ตัวทางทิศใต้เป็นตัวเมีย ส่วน shachi ตัวทางทิศเหนือเป็นตัวผู้ ใครไปเที่ยวก็หาทิศกันเอาเองนะจ้ะ ^^
*kin แปลว่า ทองคำ
ถ้าใครได้มีโอกาสไปเยือนปราสาทแห่งนี้ จะได้เห็นว่าภายในมีพื้นที่จัดแสดง (พิพิธภัณฑ์) ให้ความรู้เกี่ยวกับปลาคาร์ฟทองคำ หัวสิงโตนี้ด้วย เจ้านี่ถูกจัดเป็นสมบัติทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองนาโงย่า ซึ่งบางส่วนของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็สามารถถ่ายรูปได้ด้วยนะ … ดีชะมัดเลย
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Travel/Nagoya%20Castle/NagayaCastle3.jpg)
นอกจากนี้ในฤดูใบไม้ผลิ ปราสาทนาโงย่าก็ยังเป็นสถานที่ชมดอกซากุระยอดนิยมอีกด้วย ที่นี่มีต้นซากุระกว่า 1,600 ต้น ตอนกลางคืนก็มีการประดับไฟสร้างบรรยากาศการชมซากุระยามค่ำคืนให้น่าสนใจเพิ่มขึ้น น่าไปชมมากๆ
ตอนนี้ที่ปราสาทนาโงย่าก็มีการบูรณะส่วนที่เรียกว่า “Hommaru Palace” ที่นี่ถูกจัดเป็นสมบัติของชาติ ที่ถูกทำลายเพราะเพลิงไหม้ไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง (พฤษภาคม 1945) โดยการบูรณะนี้จะใช้สถาปัตยกรรมและวัสดุในการก่อสร้างให้เหมือนของเดิมให้มากที่สุด ทุ่มทุนสร้างกันอย่างเต็มที่ ซึ่งคาดว่าน่าจะบูรณะเสร็จสิ้นในราวปี 2018
ปราสาทนาโงย่า (Nagoya Castle, Nagoya-jo) นั้นอยู่ไม่ไกลจากใจกลางเมืองนาโงย่าเลย จะเดินทางไปด้วยรถบัส (Me-guru) หรือ Subway ก็สะดวกทั้งนั้น
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Travel/Nagoya%20Castle/NagayaCastle4.jpg)
ปราสาทนาโงย่าถือเป็นปราสาทที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ติดอันดับปราสาทที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก เพื่อนๆ ที่มีโอกาสไปท่องเที่ยวในแถบภาคกลางของญี่ปุ่น ก็แวะไปเที่ยวชมกันได้นะจ้ะ
ปราสาทนาโงย่า
ที่ตั้ง | : 1-1 Hommaru, Naka-ku, Nagoya City, Aichi Prefecture |
เปิดบริการ | : ทุกวัน (29 ธันวาคม – 1 มกราคม) |
เวลาทำการ | : 09.00 – 16.30 น. |
ค่าเข้าชม | : 500 เยน (ผู้ใหญ่) |
โปรชัวร์ | : http://www.nagoyajo.city.nagoya.jp/13_english/pdf/eigo.pdf |
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ :
http://www.nagoyajo.city.nagoya.jp
http://www.nagoyajo.jp
http://goingtodig2012.wordpress.com/category/uncategorized/
http://viptravelsgroups.com/tours.asp?country=Japan