เค้กมองต์บลังก์ เค้กสัญชาติยุโรปยอดนิยมในญี่ปุ่น (2)

เค้กมองต์บลังก์ … ใครที่เป็นแฟนคลับร้านขนมหรือร้านเบเกอรี่ญี่ปุ่นจะต้องเคยสะดุดตากับคัพ เค้กที่มียอดเป็นรูปทรงคล้ายโดมเป็นเส้นๆ ด้านบนสุดของยอดตกแต่งด้วยวิปครีม น้ำตาลไอซิ่งและเสี้ยวเม็ดเกาลัดอย่างแน่นอนค่ะ เจ้าเค้กหน้าตาน่ารัก (หรือหน้าตาประหลาด) ที่ว่านี้มีชื่อเรียกว่า เค้กมงต์บลังก์ ค่ะ

คราวที่แล้วผู้เขียนเคยนำเสนอบทความเรื่องขนม Baumkuchen ของยุโรปที่เป็นที่นิยมในญี่ปุ่นไปแล้ว วันนี้เรามาดูขนมจากยุโรปอีกชนิดหนึ่งได้ได้รับความนิยมเช่นเดียวกันค่ะ ใครที่เป็นแฟนคลับร้านขนมหรือร้านเบเกอรี่ญี่ปุ่นจะต้องเคยสะดุดตากับคัพเค้กที่มียอดเป็นรูปทรงคล้ายโดมเป็นเส้นๆ ด้านบนสุดของยอดตกแต่งด้วยวิปครีม น้ำตาลไอซิ่งและเสี้ยวเม็ดเกาลัดอย่างแน่นอนค่ะ เจ้าเค้กหน้าตาน่ารัก (หรือหน้าตาประหลาด) ที่ว่านี้มีชื่อเรียกว่า เค้กมงต์บลังก์ ค่ะ

เค้กมองต์บลังก์ หรือมงบล็อง (ภาษาญี่ปุ่นเรียก モンブランケーキ) เป็นของหวานชนิดหนึ่ง มีที่มาดั้งเดิมจากแถบยุโรป คาดว่าถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่ช่วงประมาณศตวรรษที่ 15 ซึ่งเป็นขนมพื้นบ้านในแคว้นปิเอมอนเต ประเทศอิตาลี สูตรของเค้กมองต์บลังก์ปรากฏอยู่ในหนังสือทำอาหารภาษาอิตาเลียนซึ่งตีพิมพ์ ในปีค.ศ. 1475 และเริ่มได้รับความนิยมในประเทศฝรั่งเศสช่วงศตวรรษ 17 ประมาณปีค.ศ. 1620 หลังจากนั้นในปีค.ศ. 1970 ร้านกาแฟชื่อ “Angelina” ในปารีสก็ได้เริ่มจำหน่ายเค้กมองต์บลังก์เป็นร้านแรก ชื่อภาษาอิตาเลียนคือ Monte Bianco และภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า Mont-Blanc aux marrons ค่ะ ซึ่งที่มาของชื่อเรียกนั้นมาจากยอดเขา Mont Blanc (แปลตรงตัวได้ว่า “ภูเขาสีขาว”) ของเทือกเขาแอลป์ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างประเทศอิตาลีกับฝรั่งเศสลักษณะของตัว เค้กที่มียอดเค้กเป็นรูปทรงคล้ายโดมและตกแต่งส่วนบนด้วยวิปครีมและน้ำตาล ไอซ์ซิ่งก็คือยอดเขา Mont Blanc ที่มีหิมะสีขาวปกคลุมอยู่นั่นเองค่ะ

ปัจจุบันเค้กมองต์บลังก์ได้รับความนิยมในหลายประเทศ ไม่เฉพาะในแถบยุโรปซึ่งเป็นต้นตำรับอย่างประเทศอิตาลีและฝรั่งเศสเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงประเทศฮังการี บริเวณตอนเหนือของประเทศโรมาเนีย และประเทศในเอเชียอย่างประเทศจีนและประเทศญี่ปุ่นด้วยค่ะ ในประเทศญี่ปุ่นนั้น ร้านแรกที่มีการทำเค้กมงต์บลังก์ออกจำหน่ายเป็นหลักคือ ร้าน “Tokyo Jiyugaoka Mont-Blanc”（「東京自由が丘モンブラン」）ตั้ง อยู่บริเวณย่านจิยูงะโอกะ เขตเมกุโระในโตเกียวค่ะ ในปีค.ศ. 1933 ซะโกะตะ จิมะโอะ （迫田千万億）ผู้ก่อตั้งร้านได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่เมือง Chamonix Mont-Blanc (นิยม เรียกกันสั้นๆ ว่า Chamonix) ในประเทศฝรั่งเศสและได้ไปพบเห็นเค้กมงต์บลังก์ที่ว่านี้เข้า จึงได้ทำการขอซื้อสิทธิ์ในการจำหน่ายและกลับมาก่อตั้งร้านที่ประเทศญี่ปุ่นค่ะ

โดยทางร้านได้ประยุกต์สูตรจากดั้งเดิมโดยเปลี่ยนจากฐานเค้ก ที่ทำจากเมอแรงก์เป็นคัสเตลลา（カステラ）แทน และแทนที่จะใช้ครีมเกาลัดซึ่งมีสีน้ำตาลแบบของยุโรป ก็เปลี่ยนมาใช้เกาลัดที่ผ่านกรรมวิธีการดองจนมีรสหวาน （甘露に）ซึ่งมีอยู่ดั้งเดิมในญี่ปุ่น และเกิดเป็นเค้กมองต์บลังก์แบบใหม่ที่มีสีเหลืองจากสีของเกาลัดดองนี้ แต่เนื่องจากซะโกะตะไม่ได้จดทะเบียนเครื่องหมายทางการค้าของเค้กมองต์บลังก์ ที่ประยุกต์ขึ้นมาใหม่นี้เอาไว้ ในภายหลังจึงมีร้านอื่นนำไปผลิตออกจำหน่ายและได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่ว ประเทศญี่ปุ่น และในปีค.ศ. 1984 ร้านกาแฟ Angelina จากประเทศฝรั่งเศสซึ่งได้เข้ามาเปิดสาขาในประเทศญี่ปุ่นก็ได้จำหน่ายเค้กมอง ต์บลังก์สีเหลืองนี้เช่นกัน

สำหรับส่วนประกอบของตัวเค้กมงต์บลังก์ประกอบไปด้วยฐานเค้กส่วนล่างซึ่งโดยทั่วไป แล้วนิยมทำจากเค้กฟองน้ำหรือสปันจ์เค้ก (Sponge Cake), เมอแรงก์, หรือทำจากทาร์ต ตรงส่วนที่เป็นโดมหรือภูเขาที่เป็นเส้นๆ คือ ครีมที่ทำจากเกาลัดบดละเอียดและนำไปบีบให้เป็นรูปทรงโดม ข้างในเป็นไส้วิปครีมหวาน จากนั้นตกแต่งด้านบนด้วยวิปครีม เสี้ยวเกาลัดเชื่อม (Marron Glacé) และโรยด้วยน้ำตาลไอซิ่ง ในบางประเทศยังมีการประยุกต์ดัดแปลงวัตถุดิบที่ใช้ในการทำ เช่น ในประเทศญี่ปุ่น นอกจากเกาลัดแล้วยังมีมองต์บลังก์ทำจากมันเทศ ฟักทอง หรือผสมผงโกโก้หรือผงชาเขียวมัตฉะลงไปในครีมเกาลัดด้วยก็มีค่ะ นอกจากนี้การตกแต่งยอดเค้กก็มีการทำเป็นรูปทรงอื่นๆ หลากหลายกันไป เช่น ทรงกรวยคว่ำยอดแหลม หรือบางครั้งก็ไม่ได้ทำเป็นยอดสูงขึ้นไปแต่บีบครีมเกาลัดให้คลุมหน้าฐานเค้ก และอื่นๆ อีกมากมายค่ะ

ปัจจุบันนี้ในประเทศไทยอาจจะหารับประทานยากสักเล็กน้อยเนื่องจากวัตถุดิบที่ใช้นั้น อาจจะค่อนข้างมีราคา แต่ก็มีร้านเบเกอรี่ญี่ปุ่นบางร้านจำหน่ายอยู่ค่ะ เช่น ร้าน Custard Nakamura ซอยสุขุมวิท 33/1 ใกล้กับสถานีบีทีเอสพร้อมพงษ์ (ผู้เขียนกับทางร้านไม่มีความเกี่ยวข้องกันนะคะ :P) หรือถ้าหากผู้อ่านท่านใดมีเวลาว่างหรือชอบทำขนมก็น่าลองไปเหมาเกาลัดญี่ปุ่น จากเยาวราชมาลองทำดูเองก็สนุกดีเหมือนกันนะคะ ผู้เขียนเคยลองมาแล้วค่ะ 😛