จากจดหมายของเรียวมะ เป็นหลักฐานบันทึกการเดินทางที่ทั้งคู่ใช้เวลาท่องเที่ยวอยู่ในแถบ Kirishima นี้ ซึ่งญี่ปุ่นไม่เคยมีวัฒนธรรมการฮันนีมูนมาก่อน การเดินทางของทั้งคู่จึงถือเป็นการฮันนีมูนของคู่แต่งงานครั้งแรกในญี่ปุ่นค่ะ
Kirishima (霧島) เป็นเมืองหนึ่งในจังหวัดคาโกชิมา ภูมิภาคคิวชู มีเทือกเขาคิริชิม่าซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของญี่ปุ่น เป็นสถานที่ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น Power spot จากความเชื่อที่ว่าเป็นที่สถิตย์ของเทพเจ้าในตำนานเทพเจ้าที่สร้างเกาะญี่ปุ่นขึ้นมา ในยามที่มีทะเลหมอกปกคลุมเหลือแต่เพียงยอดเขา ดูราวกับเป็นสรวงสวรรค์จริงๆ

ด้วยความที่เทือกเขาคิริชิม่าประกอบไปด้วยภูเขาไฟไม่ต่ำกว่า 23 ลูก รวมถึงทะเลสาบและสระน้ำอีก 8 แห่ง คิริชิม่าจึงเป็นแหล่งออนเซนที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่โบราณ โดยเฉพาะเมื่อปีค.ศ.1866 ซาคาโมโต้ เรียวมะ (นักปฏิรูปการเมืองที่มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงการปกครองระบบโชกุนของญี่ปุ่น สู่การปกครองแบบใหม่ที่มีความทันสมัยเท่าทันโลกตะวันตก) ได้เดินทางมารักษาอาการบาดเจ็บจากการถูกลอบทำร้าย การเดินทางมาที่แคว้นซัทสึมะหรือคิริชิม่าในครั้งนี้ ซาคาโมโต้ เรียวมะเดินทางมาพร้อมกับโอะริว ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยาก จากจดหมายที่เรียวมะเขียนถึงพี่สาวภรรยา เป็นหลักฐานบันทึกการเดินทางที่ทั้งคู่ใช้เวลาท่องเที่ยวอยู่ในแถบนี้ ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อน แช่ออนเซน ปีนเขา ยิงนก ตกปลาในแม่น้ำ ฯลฯ ซึ่งตั้งแต่อดีตมา ญี่ปุ่นไม่เคยมีวัฒนธรรมการฮันนีมูนมาก่อน การเดินทางของทั้งคู่จึงถือเป็นการฮันนีมูนของคู่แต่งงานครั้งแรกในญี่ปุ่นค่ะ

แต่เป็นเรื่องที่น่าเศร้าอย่างมาก เวลาที่มีความสุขคู่กันสองต่อสองที่คิริชิม่าแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ในปีต่อมา เรียวมะก็ถูกลอบสังหารจนเสียชีวิตในวัยเพียง 33 ปี
เรื่องตำนานความรักแบบนี้ เป็นจุดขายที่ญี่ปุ่นไม่พลาดค่ะ สามารถนำมาทำเป็นเส้นทางท่องเที่ยว Ryoma Honeymoon Walk in Kirishima ชักชวนนักท่องเที่ยวและคู่แต่งงานมาย้อนรอยเส้นทางแห่งความรักนี้ และในปีหน้า 2016 ครบรอบ 150 ปีของการฮันนีมูนครั้งแรกในญี่ปุ่น ทางเมืองคิริชิมาก็ไม่พลาดที่จะจัดงานใหญ่ ในวันที่ 19-20 มีนาคม 2016

ศาลเจ้าคิริชิม่า
เป็นศาลเจ้านิกายชินโต ตั้งอยู่บนเทือกเขาคิริชิม่า ท่ามกลางธรรมชาติที่เขียวชอุ่มมากๆ เป็นศาลเจ้าเก่าแก่หลายร้อยปี แต่ต่อมาถูกทำลายจากการระเบิดของภูเขาไฟ อาคารของศาลเจ้าได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ในปีค.ศ. 1715 หรือเมื่อ 300 ปีที่แล้ว และได้รับการอนุรักษ์เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ ว่ากันว่าเป็นที่สถิตย์ของเทพเจ้าซึ่งเป็นหลานของสุริยะเทพ หรือพระอาทิตย์ซึ่งเป็นเทพสูงสุดของญี่ปุ่น
เรียวมะและภรรยาได้มาสักการะศาลเจ้าคิริขิม่านี้เช่นกัน ที่เห็นไกลๆ ด้านหลังป้ายของทั้งคู่ เป็นจุดชมวิว ที่ว่ากันว่า ทั้งคู่มานั่งชมวิวพาโนรามาของเทือกเขาคิริชิม่าที่จุดนี้ด้วย
Shiohitashi onsen 塩浸温泉
เรียวมะได้รับการแนะนำจากไซโก ทาคาโมริ (ที่รู้จักกันในนามของซามุไรคนสุดท้ายของญี่ปุ่น ที่มีรูปปั้นท่านยืนจูงสุนัขอยู่ที่หน้าสวนอุเอโนะในโตเกียว) ให้มารักษาอาการบาดเจ็บ ด้วยการแช่ออนเซนที่ชิโอะฮิตาชิออนเซนนี้ และใช้เวลาพักอยู่ที่นี่นานที่สุด ที่ออนเซนห้องผู้ชายจึงใช้ชื่อว่า Ryoma no yu ส่วนห้องสำหรับผู้หญิงใช้ชื่อว่า O ryu no yu ตามชื่อของคู่สามีภรรยา
ที่นี่ยังมีสวนสาธารณะชื่อว่า Shiohitashi onsen ryoma park มีรูปปั้นที่ระลึกของทั้งสองคน และออนเซนสำหรับแช่เท้า ซึ่งตั้งชื่อไว้ซะโรแมนติกเชียวว่า ออนเซ็นแช่เท้าผูกดวงสมพงษ์ของเรียวมะและโอะริว ให้ผู้มาเยือนจินตนาการกันไปเองนะคะ ว่าคู่ฮันนีมูนเมื่อ 150 ปีที่แล้วเค้านั่งแช่เท้าหนุงหนิงกันขนาดไหน
ปิดท้ายทริปนี้ ไม่แช่ออนเซน แต่จะพาไปพอกโคลนกันแทนค่ะที่ Sakura sakura onsen เรียวมะซังไม่ได้ไปเยือนหรอกค่ะ สมัยนั้นคงยังไม่เปิดบริการ แต่เจ๊อยากไปเอง ^^ เนื่องจากที่ซากุระ ซากุระ ออนเซนแห่งนี้มีจุดเด่นคือ การพอกโคลน ที่ว่ากันว่าเป็นโคลนในบ่อน้ำแร่จากภูเขาไฟ ที่อุดมด้วยแร่ธาตุอันจะช่วยให้ผิวสวยเปล่งปลั่ง หน้าใสกิ๊ง อ่านคำโฆษณาแล้ว ทำให้เจ๊ต้องพุ่งไปในทันที
หลังจากหยอดเหรียญจ่ายค่าบริการไป 700 เยน เดินมาเจอป้าย 美人湯 “ออนเซนคนงาม” ก็แหวกม่านเข้าไปได้เลย อย่าเพิ่งคิดว่าจะมีแต่ผู้หญิงนะคะ ห้องสำหรับผู้ชายก็มีค่ะ
ด้านในก็เป็นเหมือนออนเซนโดยทั่วไป ที่มีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า มีบ่อน้ำแร่ทั้งที่อยู่ข้างใน และบ่อกลางแจ้ง 露天風呂 (rotenburo)
แต่จุดที่ต่างคือ จะมีกะบะหินใส่โคลนวางอยู่ พร้อมป้ายอธิบายกรรมวิธีพอก โดยการเอามือควักโคลนในกะบะหินนั้นมาพอกหน้า พอกตัวแบบบางๆ รวมไปถึงจะพอกผมก็ได้เช่นกัน เป็นโคลนที่นำมาพักจนเย็นแล้วค่ะ ไม่ใช่โคลนร้อน หลังจากนั้นก็นั่งรอมันแห้งใช้เวลาประมาณ 5 นาที แล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำอุ่น จากนั้นจึงค่อยลงไปแช่ในบ่อน้ำแร่บำรุงผิวอีกรอบ
ถ้าถามว่ารู้สึกยังไง เมื่อมาถึงจุดที่ทั้งตัวเต็มไปด้วยโคลน เอ่อ… คิดว่าไม่ต่างจาก เจ้าทุยที่แช่อยู่ในปลักค่ะ ออนเซนโคลนคนงามในยามนี้ รู้สึกราวกับเป็นอีเรียมที่ทั้งตัวมีแต่กลิ่นโคลน (ที่ปราศจากสาบควาย) ล่ะค่ะ ว่าแล้วเจ๊เรียมขอไปอาบน้ำล้างตัวก่อนละนะคะ จะได้ไปตามหาไอ้ขวัญเพื่อตามรอยคู่ฮันนีมูนคู่แรกของญี่ปุ่นต่อค่ะ
พบปะ “เจ๊เอ๊ด” และ #ทีมเจ๊เอ๊ด ได้ที่ >>> www.facebook.com/jeducationfan
ข้อมูลเรียนต่อญี่ปุ่น-เรียนภาษาญี่ปุ่น >>> www.jeducation.com
เรื่องแนะนำ :
– สาขาวิชาแปลกๆ ในญี่ปุ่น
– ในวันที่ก๊งเหล้ากับพระ….ญี่ปุ่น
– เกาะกระแสกีฬาสีญี่ปุ่น สามัคคีชุมนุม
– บริจาคเลือดที่ญี่ปุ่น
– 5 ข้อแนะนำ ก่อนไปงานแนะแนวญี่ปุ่น
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ :
http://ryoma-honeymoonwalk.com/
http://blog.goo.ne.jp/anco-suki/e/6079da2f2ffba7d8fc43e62f9164432c