ปีนี้ ดิฉันเลยจัดเสวนาโต๊ะ (จีน) กลมกับคนญี่ปุ่นแก่หนุ่มหญิงชาย เพื่อรวบรวมเทคนิคการอยู่ในเมืองไทยโดยรอดปลอดภัยของชาวญี่ปุ่นทั้งหลาย เอาแบบที่คนไทยอย่างเราๆ อาจคิดไม่ได้ ดังรายละเอียดต่อไปนี้ค่ะ
ปีที่แล้ว ดิฉันเคยเล่าเรื่องสิ่งที่ไม่ควรทำในประเทศญี่ปุ่นไปแล้วนะคะ เช่น อย่าเปิดประตูสุ่มสี่สุ่มห้า เพราะเดี๋ยวเจอพนักงาน NHK มาเก็บค่าทีวี อย่าทิ้งของกินที่หมดอายุแล้วทันที เพราะมันยังกินได้อีกนาน
ปีนี้ ดิฉันเลยจัดเสวนาโต๊ะ (จีน) กลมกับคนญี่ปุ่นแก่หนุ่มหญิงชาย เพื่อรวบรวมเทคนิคการอยู่ในเมืองไทยโดยรอดปลอดภัยของชาวญี่ปุ่นทั้งหลาย เอาแบบที่คนไทยอย่างเราๆ อาจคิดไม่ได้ ดังรายละเอียดต่อไปนี้ค่ะ
1. เทคนิคการข้ามถนนใหญ่
ผู้ให้ข้อมูล : H. ซัง
อายุ : 35 ปี
ระยะเวลาที่อยู่เมืองไทย : 1 ปี 3 เดือน
ตามกฎจราจรของประเทศญี่ปุ่น คนขับรถยนต์ต้องให้ทางแก่คนข้ามถนนก่อน ไม่ว่าตอนนั้นไฟจะเขียว หรือกำลังเลี้ยว หรืออะไรก็ตาม สมมติว่ารถแล่นมาเร็วๆ แล้วเราเอาขาแหย่พื้นลงไปปุ๊บ เขาจะแตะเบรกให้เราปั๊บเลยค่ะ น่าประทับใจมาก
แต่ความปลอดภัยและความเคยชินกับกฎจราจรของคนญี่ปุ่นข้างต้น อาจเป็นภัยย้อนศรกลับมาทำอันตรายต่อคนญี่ปุ่นที่จะข้ามถนนในไทยค่ะ หากพี่แกจะแหย่ขาเดินข้ามถนนชิลๆ แบบญี่ปุ่นเมื่อไร อาจกลายเป็นโศกนาฏกรรมขึ้น การข้ามถนนบ้านเรานั้น เป็นกิจกรรมที่ Exciting มาก คุณจะรู้สึกประหนึ่งเป็นดาราหนังบู๊ฮ่องกง อารมณ์ “วิ่งสู้ฟัด” การข้ามถนนไทยต้องอาศัยทักษะหลายด้าน ใจต้องกล้า ตาต้องดู หูต้องฟัง ระวังจังหวะก้าวเดิน
![เทคนิคการใช้ชีวิต](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Katewadee/Expat%20Technic/ExpatTechnic1.png)
พอดีที่ทำงานของ H. ซังอยู่อโศก เวลากลับบ้าน แกต้องเดินข้ามถนนอโศกมาขึ้นรถไฟใต้ดิน ตอนแรกๆ แกก็กะจังหวะไม่ถูก จะหาคนไทยที่จะเดินข้ามถนนไปด้วยกันก็ไม่มี ชักเท้าเข้าๆ ออกๆ อยู่นาน จนแกเกิดปัญญา…
“ผมเลยยกมือไหว้ขอทางรถครับ ไหว้ แล้วก็เดินข้าม ไหว้ แล้วก็เดินข้าม ไปทีละเลน รถทุกคันหยุดให้ด้วยครับ โล่งใจมากเลย”
ณ วันนี้ พี่แกก็ยังพยายามสรรหาเทคนิคใหม่ๆ ในการข้ามถนนตลอดเวลา
“ผมเห็นคนไทยชอบลุกให้คนแก่ คนพิการนั่งบนรถไฟฟ้า คราวหน้าเวลาข้ามถนน ผมจะลองเดินลากขาเป๋ๆ ดู เผื่อคนขับเขาจะสงสารผม และยอมให้ผมข้ามมั่ง”
ก็ฝากมาทางนี้ว่า…ใครเห็นหนุ่มตี๋ๆ ขาวๆ มีเคราแพะที่คาง กำลังพยายามเดินลากขาข้ามถนนแถวอโศก ก็ช่วยให้ๆ ทางพี่แกหน่อยนะคะ
2. เทคนิคการเอาชนะภัยหนาว
ผู้ให้ข้อมูล : N ซัง
อายุ : 21 ปี
ระยะเวลาที่อยู่เมืองไทย : 5 วัน
N ซัง เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน มาเรียนที่มหาลัยเมืองไทย 1 ปีค่ะ ผิวขาว หน้าใสกิ๊ง ตาสีน้ำตาล (เพราะใส่คอนแทคเลนส์สี) เซ็ทผมทรงโฮสท์ผสมหงอคง … เอาเป็นว่าหน้าตาและรูปพรรณสัณฐานดีถึงดีมากก็แล้วกัน
เด็กหล่ออย่าง N ซังมีปัญหาอยู่หนึ่งอย่างที่ไม่กล้าบอกเพื่อนร่วมคลาส คือ แอร์ในห้องเรียนหนาวมาก ที่มหาลัยนั้น วิชาหนึ่งเรียนคาบละ 3 ชั่วโมง อุณหภูมิห้อง 20 องศา แม้ N ซังจะเป็นผู้ชายอกสามศอก แต่ก็แพ้ภัยแอร์มหาลัยจนหนาวสั่นอยู่ดี จะเอาเสื้อหนาวมาใส่รึก็ใช่ที่ เดี๋ยวดูไม่เท่ห์ (อันนี้ดิฉันวิเคราะห์เอาเอง…555) ช่วงพักเบรก ขณะที่เพื่อนๆ ทุกคนออกไปเข้าห้องน้ำหรือซื้อขนมนั้น N ซังเลยแอบปรับอุณหภูมิ จาก 20 ให้เป็น 26 องศา
ที่เล่ามา ยังไม่ใช่เทคนิคค่ะ เป็นแค่ทักษะการเอาตัวรอด (Survival Skill) เฉยๆ
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Katewadee/Expat%20Technic/ExpatTechnic3.png)
หลังจากพักเบรก เพื่อนๆ และอาจารย์ก็เข้ามาในห้อง มีเพื่อนในห้องคนหนึ่งตะโกนขึ้นมาว่า “ร้อนจัง”N ซังก็ตกใจว่า งานเข้าตูแล้ว 26 องศามันร้อนตรงไหน บ้านฉัน (ญี่ปุ่น) เปิดกัน 28 องศา เท่านั้นไม่พอ อาจารย์ก็เสริมขึ้นมาอีกว่า “ร้อนจริงๆด้วย ใครดันมาปรับแอร์เนี่ย!” แล้วก็คว้ารีโมทปรับแอร์ไปที่ 18 องศา
หัวใจ N ซังหล่นไปถึงตาตุ่ม แต่เขาต้องใช้เทคนิคตีหน้าตายและสะกดจิตตัวเอง ตูไม่รู้ไม่เห็นเกี่ยวกับการปรับแอร์ … ตูไม่หนาว … ตูอยู่ในทะเลทราย
ทุกวันนี้ N ซัง ยังต้องหลบๆ ซ่อนๆ แอบขโมยรีโมทมายึดครอง แอบหามุมกดรีโมทเพื่อปรับอุณหภูมิ และตีหน้าตายเวลาคนอื่นบ่นว่าร้อนต่อไป เอาใจช่วยน้อง N กันค่ะ
3. เทคนิคการแยกสาวแท้กับสาวเทียม
ผู้ให้ข้อมูล : พี่นิฯ
อายุ : 49 ปี
ระยะเวลาที่อยู่เมืองไทย : 5 เดือน
พี่นิฯ เป็นชื่อที่คนในบริษัทนี้เรียกแก (ชื่อจริงขอไม่บอกนะคะ เดี๋ยวแกให้ล่ามแปล แล้วจะรู้ว่าดิฉันเอาแกมานินทา) พี่นิฯ ติดต่อทำธุรกิจกับบริษัทไทยมานานกว่า 10 ปี บินไปๆ มาๆ ไทย-ญี่ปุ่นกว่า 100 รอบ แต่เพิ่งมาประจำที่เมืองไทยได้ 5 เดือนค่ะ
ท่านสามารถพบพี่นิฯได้ย่านธนิยะ สีลม โดยเฉพาะคืนวันศุกร์ และตามสนามกอล์ฟทั่วไปในวันเสาร์-อาทิตย์ แกบอกว่า แกรู้ร้านเหล้าทะลุปรุโปร่ง และรู้ด้วยว่า ร้านไหนอะไรอร่อย ร้านไหนมาม่าซังสวย และที่เด็ดกว่านั้น แกบอกว่าแกสามารถแยกสาวแท้กับสาวเทียมออก
คติพี่นิฯ คือ ดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดู “เท้า” ค่ะ ☺
สาวประเภทสอง อาจหน้าสวยเป๊ะ อาจมีเนินอกอวบอิ่ม อาจผ่าตัดลูกกระเดือกออก อาจผ่าตัดเปลี่ยนเสียงเหมือนผู้หญิงได้ แขนขาเรียวงามได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ปิดไม่ได้ คือ ขนาดเท้าค่ะ แกบอกว่า ให้ลองมองเท้าดู ถ้าเท้าใหญ่ผิดปกติ ก็ทำนายได้เลยว่า สาวงามที่นั่งหน้าคุณไม่ใช่สาวแท้แน่นอน กรณีที่มองไม่ค่อยถนัด พี่นิฯ เองจะแกล้งไปนั่งข้างๆ หรือยืนข้างๆ แล้วเทียบดูว่าเท้าสาวข้างๆ ใหญ่พอๆ กับตัวเองหรือเปล่าค่ะ… สาวไทยอย่างดิฉันยังคิดวิธีนี้ไม่ได้เลย ร้ายมาก พี่นิฯ
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Katewadee/Expat%20Technic/ExpatTechnic2.png)
ใครมีเพื่อนร่วมงานหรือคนรู้จักเป็นคนญี่ปุ่น เอาสามเทคนิคเหล่านี้ไปแบ่งปันกันได้นะคะ ถือว่าเป็นวิทยาทาน ให้คนญี่ปุ่นสามารถอยู่รอดในสังคมไทยได้อย่างสันติสุขต่อไป
ทักทายพูดคุยกับเกตุวดี ได้ที่ >>> Japan Gossip by เกตุวดี Marumura