ไม่รู้จากรีวิวที่ผ่านๆ มาใครได้ลองไปแล้วมีอุปสรรคยังไงกันบ้าง ก็มาบอกเล่ากันบ้างนะคะ สำหรับรีวิวนี้เป็นรีวิวต่อเนื่อง เป็นจุดเที่ยวในปูซาน แล้วก็การกลับมาญี่ปุ่น (Fukuoka) ต้องเตรียมอะไรบ้าง
อันยองฮาเซโย!! หลังจากที่ห่างหายกันไปนาน ความเดิมคืออีฮันได้ไปถึงปูซานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผ่านการตรวจของตม. จากนี้ไปจะไปจัดที่เที่ยวให้เพื่อนๆ ได้ชมน้าาาาา
ไม่รู้จากรีวิวที่ผ่านๆ มาใครได้ลองไปแล้วมีอุปสรรคยังไงกันบ้าง ก็มาบอกเล่ากันบ้างนะคะ สำหรับรีวิวนี้เป็นรีวิวต่อเนื่อง เป็นจุดเที่ยวในปูซาน แล้วก็การกลับมาญี่ปุ่น (Fukuoka) ต้องเตรียมอะไรบ้าง
สำหรับสาวๆ เนี่ยขอบอกเลยว่าให้เตรียมกระเป๋าเปล่าๆ ไปเหอะ เพราะการขึ้นเรือเค้าจะไม่ให้สิทธิเราหิ้วได้เยอะ เสื้อผ้าราคาถูกพอๆ กับที่ไทย แต่ดีไซน์แบบเกาหลีแท้ๆ เนี่ยมันจะทำเอาเรารูดปรื๊ด รูดปรี๊ดบัตรได้สติแตกเลยนะจะบอกให้
พอเช็คอินที่โรงแรมได้ก็รีบขึ้นไปโยนกระเป๋าในห้องของโรงแรมก็แอบรีบ กลัวค่ะ กลัวว่าตลาดจะวาย 5555
ห้องพักของเราอยู่ที่สถานี Jungang เดินนิดเดียวก็ลงเมโทรได้เลย ดูไปดูมาก็บ้านเมืองไม่ได้ต่างกับญี่ปุ่นอ่ะค่ะ สะอาดน่าเที่ยว
ทีนี้ก็แย่ละ เพราะเราไม่รู้จะหยอดเงินรถไฟยังไง 555 มันแอบยากนิดหน่อยตรงต้องแลกเงินค่ะ แล้วเอาเหรียญไปหยอดที่ตู้ ซึ่งตู้แลกเหรียญ กับตู้หยอดตั๋วคือคนละตู้กันนะ เจ้าหน้าที่เห็นจากกล้องวงจรปิดว่ามีคนแปลกๆ งมๆ อะไรสักอย่างจึงรีบวิ่งมาช่วยเหลือเลย นี่แหล่ะคือเสน่ห์ของคนต่างจังหวัด ใจดีมากๆ ค่ะ ก็คือเลือกภาษา มีภาษาญี่ปุ่น อังกฤษ จีน จากนั้นก็เอามือแตะชื่อสถานีที่หน้าจอทัชสกรีน
เราไปเดินงมๆ ที่ตลาด ตามคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่หน่วยงานการท่องเที่ยวปูซานที่ท่าเรือเลยค่ะ มีตลาดที่มีสารพัตของให้เราเลือกช้อปปิ้ง คือมันกว้างมาก บอกตรงๆ ว่าเดินเป็นวันก็ไม่หมด เราเริ่มนั่งรถไฟมาลงที่สถานี Nampu แล้วเดินไปเรื่อยๆ ถึงสถานี Jagalchi คือมันอยู่ไม่ไกลกันและมันต้องเดินทั้งวัน และทั้งคืน 555



เดินไปเจอตลาดสดค่ะ หลงไป ไม่ใช่อะไรหรอกนะ 555 แล้วพอไปตลาดสด ก็จะมีทางเชื่อมต่อเป็นตลาดของมือสอง เรียกได้ว่าเวิ้งนั้นทั้งเวิ้งอ่ะ เป็นของสารพัด ตั้งแต่สากกะเบือยังเรือรบ ขนม ของฝาก มีทุกสิ่งค่ะ

แล้วเราก็เจอแล้ว ดงเสื้อผ้า ถูกมากๆ คือเนื้อผ้าดีมาก คล้ายๆ ญี่ปุ่นเลย แต่ว่าตัวละห้าพันวอนบ้าง หมื่นวอน (ประมาณ 150 – 300 กว่าบาท) ราคานี้จะมีเยอะ เลยจัดไปเบาๆ ก่อน
เดินทะลุไปเรื่อยๆ จะเจอศาลเจ้าค่ะ แล้วก็ขอพักร้านกาแฟสักหน่อย ถ้ามาเนี่ยจะเห็นได้ว่าที่นี่มีคาเฟ่เยอะมากๆ เยอะกว่าญี่ปุ่นซะอีกอ่ะ ร้านนี้เลย อร่อยทุกเมนู ร้านก็ตกแต่งได้แนวมากๆ ด้านในสวยมากค่ะ



แล้วก็ไปเห็นป้ายเป็นรูปหัวใจซึ่ง แปลกค่ะ เค้าเขียนเหมือนว่าไม่ให้เขียน ไม่ให้เอากุญแจมาล็อก อ่านไม่ออกค่ะ แต่คนมาเขียนกันเพียบเลย 555




จากนั้นก็เข้าไปเดินที่อาคารล็อตเต้ค่ะ ก่อนจะเข้าไปในอาคาร เราก็เจอดงช้อปปิ้งอีกที่ โหยยยย มีแหล่งช้อปปิ้งเยอะมาก อั่นแน่ะ แอบมีนิคอนขายด้วยน้าาา



เริ่มเพลียแล้วก็เลยเดินกลับโรงแรม สถานีรถไฟที่นี่ จะไม่ได้ไกลกันมาก เราอยู่ญี่ปุ่นเรื่องการเดินเป็นอะไรที่ชิลมาก
จากนั้นก็เข้าไปพักผ่อนในห้องสักชั่วโมง แล้วออกมาหาข้าวกิน แต่ปรากฎว่าเราเองก็คิดว่าเราจะไปลองดูสถานีปูซานสักหน่อย ก็ไปหาร้านกิน แต่เลือกไม่ถูก อยากกินอะไรที่เป็นอาหารท้องถิ่น แต่เหมือนจะมีอาหารจีนค่อนข้างจะเยอะ

ก็พบว่ารอบๆ มีโตโยโกะอินน์หลายสาขาเลยค่ะ ราคาก็พอๆ กับที่ญี่ปุ่น หรือจะถูกกว่าสักพันสองพันเยนต่อห้องนะ แล้วก็ที่นี่บรรยากาศเหมือนญี่ปุ่นเลย มีตู้หยอดน้ำเรียงกันเพียบ จะไม่เหมือนก็ตรงหลังสถานีจะมีร้านข้างทางเป็นร้านเหมือนในซีรีย์เกาหลีแป๊ะ

ที่นี่มีไชน่าทาวน์ด้วยอ่ะสิ เราเองเลยต้องนั่งใต้ดินไปที่เดิมเพราะมานี่ไม่อยากกินอาหารจีน 555 และที่สถานีนัมปุเค้ามีตลาดนัดกลางคืน ของกินเงี้ยเพียบเลย


ในที่สุดก็ได้กินข้าวซะที เอาจริงๆ คุยกับเค้าไม่เค่ยอรู้เรื่องหรอกแต่ไปเจออปป้า ใจดีมากๆ พยายามคุยกับเราสุดๆ ได้กินนี่เลยค่ะ นาเบะ อร่อยเว่อร์ อีกแล้วอ่ะ

สุดท้ายก็กลับโรงแรม ไปนอนเอาแรงเพราะพรุ่งนี้คิดว่าจะต้องไปตลาดปลาให้ได้ ปลั๊กโรงแรมนี้ดีค่ะ มีให้ทุกแบบเลย ปกติที่นี่ใช้ปลั๊กกลม คิดว่าถ้าใครมาจากไทยจะไม่มีปัญหา แต่คนญี่ปุ่นเป็นปลั๊กแบน บางโรงแรมจะมีแต่แบบกลมเท่านั้น


ตลาดปลาที่นี่เดินทางลงที่สถานี Jagalchi เดินออกจากสถานีแล้วถึงเลยนะ เราจะกินมื้อกลางวันกันที่นี่แหล่ะ คือเป็นตลาดสด ขายปู ปลา และอาหารทะเลที่ใหญ่มากๆ แล้วก็ฝั่งตรงข้าม เสื้อผ้าก็เพียบ ถ้าใครนั่งใต้ดินมาก็ให้ลงที่ Jagalchi แล้วใช้ออกหมายเลข 3 นะคะ



คือเดินมาตลาดปลาแล้วก็หาอาหารทะเลกิน ไปเจอร้านนึงที่อยู่ออกห่างจากตลาด เพราะเราได้ขึ้นไปบนตลาดที่เค้ามีจุดปรุงอาหารแล้วแต่ดูแล้วน่าจะไม่รอดเพราะคนจะเยอะ แล้วเราก็พูดเกาหลีไม่ได้เลยเอาร้านเงียบๆ จะดีกว่า
คนให้ดูเลย นี่กินกันสองคนนะคะ ราคาสามหมื่นวอน ก็ประมาณพันบาทเห็นจะได้ แต่คุณภาพนี่คับจอเลยนะคะ นี่ราคานี้ถ้าเป็นญี่ปุ่นคงราวๆ หมื่นเยน จริงๆ แล้วออนนีบอกเราตอนแรกว่าเค้าจะไม่ให้เรากินไซส์นี้ค่ะ ไซส์นี่เป็นไซส์ S สำหรับทานคนเดียว (แอบงง หา! อะไรนะ คนเดียวเนี่ยนะ!) เค้าบอกว่าคนเกาหลีกินแบบนี้แหล่ะ แต่เราบอกเค้าว่าเราอ่ะไม่ได้หิวอะไรขนาดนั้น แค่อยากลองทานเลยสั่งไซส์เอสมา เอาจริงๆ แล้วกินไม่หมดด้วยคือเยอะมาก รวมทุกสรรพสิ่ง กุ้ง หอย ปู ปลา สุดยอดแห่งความอร่อย …มีแต่ของดีๆ ให้กินทั้งนั้นเลยนะปูซานเนี่ย
ก่อนขึ้นเรือเราต้องซื้อหนม ซื้อของที่ติดใจก่อน สี่อย่างนี้ ใครไป ซื้อทานดูนะคะ ชากระปุกส้ม ซื้อมาห้ากระปุกเลย อร่อยมากๆ เลยค่ะ แต่เป็นชาที่ผลิตในไต้หวัน 555
ยังไม่อยากกลับญี่ปุ่นเลยอ่ะ รู้สึกว่าเดินไม่พออยากช้อปปิ้ง อยากสนุกต่อ แต่แล้วเราก็ต้องกลับค่ะ นั่งรถไปเอากระเป๋า และไปที่ท่าเรือ อย่าลืมต้องเตรียมค่าขึ้นเรือด้วย 7,300 วอนนะคะ



การเดินทางกลับก็จะไม่ได้ต่างจากเราขึ้นเครื่องบินเลยค่ะ ขั้นตอนมากมายในการตรวจสอบ
ลาก่อนปูซาน ฉันจะคิดถึงเธอ เมืองที่มีอาหารทะเลอร่อย ของถูก ผู้คนใจดี ใส่ชุมวอร์มสีสดๆ อาจุ่มมะ ชอบมองด้วยสายตาอยากรู้ว่าฉันคือชาติอะไร 555 น่ารักดีนะ สัญญาเลยค้าาา ว่าจะมาอีกให้ได้
แต่ตื่นมาพระอาทิตย์ตกดินพอดีเลย กว่าจะตรวจเข้าเมืองอีก ออกมารอบัส การเดินทางเพียง 3 ชั่วโมง ก็ถือว่าไม่เหนื่อยนะ แล้วขาออกมาก็มีรถบัสทั้งสาย ฮาคาตะ และสายเทนจินด้วย สะดวกมากๆ ถ้าเทียบกับความคุ้มค่า ก็คุ้มดีค่ะ นั่งเครื่องบินอาจจะไวกว่าก็จริง แต่ว่านั่งเรือก็ทำให้ได้ประสบการณ์เพียบเลยค่ะ แล้วก็คิดว่ามันไม่ไกลกัน จะไปอีกเมื่อไหร่ก็ได้ สนุกมากๆ ทริปนี้ อยากให้เพื่อนไปลองเที่ยวบ้างนะคะ
เดินทางถึงสถานีฮาคาตะโดยสวัสดิภาพแล้วก็นอนที่นี่อีก 1 คืนที่โรงแรม Sutton Hotel Hakata City ที่นี่ทั้งราคาถูก สะดวก และเป็นโรงแรมที่เรียกว่าดีเลิศเลยหล่ะ
คลิ๊กดูรายละเอียดโรงแรมได้ที่นี่ >> http://goo.gl/0MUS3s
สำหรับทริปนี้ก็คงจะจบลง และหวังว่าเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ บ้างนะคะ สวัสดีค้าาาาา
อ่านรีวิวเก่าทิปสำหรับการเตรียมเดินทางเข้าปูซานได้ที่นี่ >> https://www.marumura.com/?p=3618
ทักทายพูดคุยกับ Nat Nana ได้ที่>>> Facebook ไม่ใช่กรูรู แต่กรูรู้ ของถูกในโตเกียว
เรื่องแนะนำ :
– ไอศกรีมควบคุมแคลลอรี่ กับไอศกรีมธรรมดา เป็นคุณจะเลือกจัดอันไหน?!
– เซ็ตบำรุงที่ทำให้เครื่องสำอางแพงๆ ต้องหลบ!
– รวมของน่ารักฟรุ้งฟริ้ง ของใช้เพียง 300 เยน ที่สถานีโตเกียว
– ฟูจิคิว ที่นี่ไม่ได้มีแค่สวนสนุก
– ช้อปปิ้งขนมสนุกสุดๆ เมื่อสายกินตะลุยพิพิธภัณฑ์กูลิโกะที่ไซตามะ