ขั้นตอนหาซื้อน้องหมา น้องแมว มาเลี้ยงในญี่ปุ่น .. วันนี้จะพามาดูสัตว์เลี้ยงตามร้านขายสัตว์เลี้ยง หรือตามโฮมเซ็นเตอร์ ในห้างสรรพสินค้ากันนะคะ แหม! มาแนวใหม่วันนี้พามาดูการหารับน้องหมา น้องแมวกลับมาเลี้ยงที่บ้านกันค่ะ
วันนี้จะพามาดูสัตว์เลี้ยงตามร้านขายสัตว์เลี้ยง หรือตามโฮมเซ็นเตอร์ ในห้างสรรพสินค้ากันนะคะ แหม! มาแนวใหม่วันนี้พามาดูการหารับน้องหมา น้องแมวกลับมาเลี้ยงที่บ้านกันค่ะ
แต่ใช่ว่าจะมาซื้อแล้วเอากลับไปได้เลยบางครั้งอาจจะต้องเตรียมตัวนิดนึงนะคะ
มาดูกันค่ะว่าขั้นตอนจะเยอะแยะขนาดไหน กว่าจะได้สัตว์เลี้ยงมาเลี้ยงในบ้านคนญี่ปุ่นเนี่ย ขั้นตอนค่อนข้างจะเยอะไปไหนเนอะ จะมี 3 วิธีด้วยกันค่ะ
1. ขอคนรู้จัก หรือเพื่อนแนะนำ ซึ่งวิธีนี้จะไม่ยุ่งยาก แค่เรารับน้องแมว น้องหมาไปแล้วก็ถ่ายรูปความเป็นอยู่ให้เจ้าของเก่าดูบ้างเป็นระยะๆ ก็จะทำให้เจ้าของเก่าสบายใจว่าน้องแมว หมา ไม่ได้ไปอยู่บ้านที่ไม่พร้อมเลี้ยง เป็นอันจบขั้นตอน คนเลี้ยงใหม่ก็นำไปฉีดวัคซีน นำไปตอนตามขั้นตอน
2. การดูจากเว็บไซด์ที่ประกาศหาบ้านให้น้องแมว น้องหมา ซึ่งจะมีทั้งการเปิดเป็นบูธ เล็กๆ ตามสวนสาธารณะ เพื่อให้คนสนใจเข้ามาเจอตัวจริงกับน้องหมา แมว ซึ่งจะมีหลายครอบครัวมารวมตัวกัน แล้วน้องหมา แมว ก็จะไปโชว์ตัว เจ้าของใหม่ เจ้าของเก่าพูดคุยกันแล้วก็ทำการตรวจดูบ้านซึ่งวิธีการ ขั้นตอนตรวจบ้านจะเหมือนกับการดูจากเว็บไซด์แล้วสมัครจองเลือกน้องหมา แมว เพื่อนสามารถดูน้องหมา แมว ประกาศหาบ้านได้จากที่นี่นะคะ >>http://www.pet-home.jp/cats/tokyo/
ในเว็บนี้มีทั้งแบบเป็นบูธพูดคุยกันตามจุดต่างๆ ในแต่ละจังหวัด และรูปถ่ายของน้องหมา แมวที่ประกาศหาบ้าน น่ารักๆ เต็มไปหมดเลยค่ะ
เมื่อเราจองแล้ว ก็ใช่ว่าจะได้เลยนะคะ เพราะว่าเค้าก็เปิดให้คนจองหลายคนอยู่ เจ้าของที่ประกาศจะเข้าไปเลือกคนที่น่าเชื่อถือสุด แล้วไปดูบ้าน
ก่อนอื่นเรามาดูขั้นตอนที่ไม่เสียทรัพย์กันก่อนนะคะ ก็คือใครที่ทรัพย์น้อย แล้วไม่อยากจะเสียเงินไปกับการซื้อสัตว์เลี้ยงก็เหมาะกับวิธีนี้มากๆ เพราะบางตัวหน้าตาหน้ารักมากๆ ค่ะ ไม่เสียเงินด้วย แต่ที่เค้าแจกเพราะว่าก็ไม่รู้จะเลี้ยงยังไงหมด เวลาน้องเหมียวคลอดแล้วก็เลยต้องแจกค่ะ
(1) ลงทะเบียนแจ้งความต้องการ
(2) นัดหมายกับเจ้าของน้องหมา-แมว ว่าให้มาดูบ้านใหม่นะ ถ้าชอบใจก็พูดคุยกันตกลงสัญญาต่อกันว่าถ้าฉันเลือกเธอๆ ต้องทำแบบนี้ แบบนี้ เช่น พาไปทำหมัน พาไปฉีดยา และส่งรูปให้ฉันดูบ้างนะ
(3) เจ้าของบ้านตัดสินใจเลือกสัก 1 คนแล้วส่งมอบน้องหมา-แมวกัน แล้วแต่จะนัดหมาย
(4) ติดตามผลการเลี้ยงดู
3. ส่วนวิธีที่อีฮั้นเลือกรอบนี้เป็นวิธีซื้อ ครั้งนี้จะเลี้ยงน้องแมว ต้องการตกเป็นทาสอีกครั้งหลังจากเลี้ยงแต่แมวจรจัดแล้วมีคนจับแมวจรจัดไปเลี้ยง เกิดเหงาขึ้นมา ก็เลยลองขอคนที่บ้านดู แต่เนื่องจากคนที่บ้านไม่อยากรบกวนทางเจ้าของน้องแมวให้เดินทางไปมา (พูดง่ายๆ ไม่อยากยุ่งยาก) เลือกที่จะเสียเงินเลือกเอาที่เราชอบ เลยเอามาเป็นข้อมูลเผื่อๆ เพื่อนๆ กันสักหน่อยค่ะ
ขั้นตอนแรกก็คือไปเลือกทูนหัวได้ตามโฮมเซ็นเตอร์ หรือร้าน Pet Shop แล้วจากนั้นก็ตัดสินใจเอาแบบว่าเราชอบจริงๆ จังๆ (ตัดสินใจยากมาก เนื่องจากน่ารักทุกตัว) 555
ตอนนั้นสับสนมากๆ เค้าให้อุ้มเล่น ก็ต้องล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ก่อนนะคะ จะเอายังไงดี เพราะเหมียวมันออดอ้อนทุกๆ ที่เลยค่ะ แอบเลือกยาก

ตัวนี้เป็นแมวพันธุ์ที่ชอบพอดีเลย สก็อตทิช โฟลด์ (Scottish Fold) จริงๆ แล้วการซื้อแมวที่ตัวใหญ่นี่ราคาจะถูกลงนะคะ เหมียวตัวนี้เกือบสี่เดือนแล้วราคาก็จะถูกลงไปเรื่อยๆ
แต่ก็มีไปดูที่อื่นอีกก็เจอตัวที่ชอบกว่าแต่เห็นว่ามันเล็กเกินไป แถมแพงอีก ไอ้ครั้นจะไม่เอาตัวนี้เลยก็กลัวจะมีคนแย่งไปอีก ตัดสินใจยากมากๆ จุดนั้น
แล้วก็พาคนที่บ้านไปดูหน้าตาเจ้าเหมียวค่ะ รู้สึกเหมือนชะตาจะเข้ากันได้ดีเลยเผลอตัวชำระเงินไป
แต่เราไม่ต้องเอากลับเลยก็ได้นะคะ เราสามารถฝากเค้าเลี้ยงได้สักระยะนึงเพราะบางคนไม่พร้อม
แล้วระหว่างฝากเค้าเราก็ไปหาซื้อข้าวของเตรียมไว้ ราคาที่เราเห็นให้บวกไปอีก 40,000 เยนค่าวัคซีนนะคะ ส่วนประกันเนี่ยขึ้นอยู่กับเราจะทำหรือไม่ทำก็ได้


เค้ามีอธิบายเยอะมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการประกันเหมียว จะทำประกันมั๊ย ซึ่งการประกันก็จะมีประกันการรักษาพยาบาล ซึ่งจะเสียราวๆ 4 พันเยนต่อเดือน แต่รักษาได้โดยทางบริษัทประกันออกให้เรา 70% กับจ่ายสามพันเยน แต่ถ้าเหมียวป่วยเค้าจะออกให้เรา 50% ตอนเค้าอธิบาย ข้อมูลจะอัดใส่เราเยอะมากๆ ค่ะ แล้วให้เลือกคลีนิคใกล้บ้านได้ 3 แห่ง
รวมถึงที่รักษาพยาบาล แล้วที่น่ารักที่สุดคือการทำประกันแมวกัดคนอื่นๆ แล้วทางประกันออกค่าพยาบาลค่ะ ค่าประกันเดือนละ 147 เยนเท่านั้น 555
เมื่อคุยกันถึงเรื่องต่างๆ เรียบร้อยเค้าจะพาเราไปดูอาหารที่น้องหมา หรือเหมียวทานทุกวันค่ะให้เราซื้อกลับไปตามที่เหมียวทานตามจำนวนเกณฑ์อายุจะมีระบุข้างถุงนะคะ
และให้ทรายที่มีกลิ่นน้องเหมียวถ่ายไว้มาจำนวนหนึ่ง เพื่อไม่ให้เหมียวสับสนที่ขับถ่าย จากนั้นก็ช้อปปิ้งของเผื่อๆ ไว้กันสักหน่อยค่ะ





สัตว์เลี้ยงที่เค้าเอาออกมาขายยิ่งตัวใหญ่จะยิ่งราคาถูกถ้าเกิน 6 เดือนแล้วไม่มีคนซื้ออาจจะต้องนำไปรมยาเพื่อให้ลดประชากรสุนัข แมวจรจัด ตามเขตต่างๆ เค้าถึงรณรงค์หาบ้านให้สัตว์เลี้ยงไงคะ


ตอนอุ้มเหมียวออกมาจากร้านก็แอบตื่นเต้นนิดหน่อยค่ะ กลัวว่าเค้าจะตกใจ น้องเหมียวร้องตลอดทางแล้วเราก็โบกแท็กซี่ถามเค้าว่ามีสัตว์ด้วยนะ ขึ้นได้มั๊ย แท็กซี่บอกไม่มีปัญหา ก็เลยพากันถึงที่หมายแบบสบาย สบาย ถึงแล้ว ดูนางจะตื่นเต้นกับบ้านใหม่มากๆ
เราตั้งชื่อว่าลักกี้ ขอให้โชคดี ให้มาม๊า เฮงๆ เหมือนชื่อน้าาาาา
และทางร้านขอให้เราเลี้ยงไว้ในกรงประมาณ 1 สัปดาห์ค่ะ เนื่องจากเจ้าลักกี้จะไม่ชินกับการอยู่ในที่กว้างสักเท่าไหร่ เดี๋ยวมันจะซ่อนตัว ซึ่งตอนนี้เลี้ยงลักกี้ได้เกือบอาทิตย์แล้ว นางสดใสร่าเริงสุดๆ ถ้ามีโอกาสก็อยากจะให้ลักกี้มีเพื่อนอยู่สักตัวค่ะ เผื่อเวลาเราไม่อยู่บ้านหลายๆ ชั่วโมงเค้าจะได้ไม่เหงา
สุดท้ายแล้ว ความตั้งใจในการรับเลี้ยงสัตว์ของแต่ละคนนั้นจะต้องพร้อมด้วยนะคะ เพราะเค้าคือชีวิต เราต้องคิดถึงเวลาที่เราให้เค้าได้ มีเงินซื้ออาหารให้เค้า และพร้อมที่จะเช็ดสิ่งที่เค้าขับถ่าย เช็ดตัวทำความสะอาดเค้า สัตว์เลี้ยงก็เหมือนเด็กค่ะ เค้าเล่นกับเรา เราก็ต้องดูแลเค้าเป็นพิเศษหน่อย เพื่อนๆ ที่คิดจะเลี้ยงสัตว์ทั้งในญี่ปุ่น และในไทยอ่านแล้วลองตัดสินใจกันดูนะคะ วันนี้ขอตัวไปดูแลนายก่อนค่ะ เหมียวววว
ทักทายพูดคุยกับ Nat Nana ได้ที่>>> Facebook ไม่ใช่กรูรู แต่กรูรู้ ของถูกในโตเกียว
เรื่องแนะนำ :
– ประหยัดและสะดวกที่ Hotel Mystays Gotanda
– ไปฮอกไกโด เที่ยวซัปโปโร อย่าลืมแวะตลาดปลานิโจ
– ชีวิตมุสลิมไทยในญี่ปุ่น ยากไหม…ไปดูกัน!
– โรงแรมโรแมนติกสุดๆ ติดคลองโอตารุ ทำเลถูกใจ ราคาถูกต้อง!
– 10 ขนมของฝากจากฮอกไกโดที่คนญี่ปุ่นชอบ