แน่นอนว่า การแนะนำตัวนั้นเป็นสิ่งจำเป็น เพราะไม่ว่าเราจะพบปะกับใคร ชาติไหน เราก็ต้องแบบว่า… “สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อ… นู่น… นี่… นั่น…” คลาสเรียนภาษาญี่ปุ่น แรกๆ จึงมีการสอนให้แนะนำตัวกันง่ายๆ ตั้งแต่เริ่ม
เว้ยยยยย เรียนประโยคการแนะนำตัวเป็นภาษาญี่ปุ่นมาตั้งแต่เริ่มเรียนแรกๆ ใครจะไปตรัสรู้ล่ะ ว่าเราจะต้องมาเรียนซ้ำแล้ว ซ้ำอี๊กกกกกก \(><)/
แน่นอนว่า การแนะนำตัวนั้นเป็นสิ่งจำเป็น เพราะไม่ว่าเราจะพบปะกับใคร ชาติไหน เราก็ต้องแบบว่า… “สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อ… นู่น… นี่… นั่น…”
คลาสเรียนภาษาญี่ปุ่นแรกๆ จึงมีหลักสูตรเร่งรัด สอนให้แนะนำตัวกันแบบง่ายๆ พอให้ทำความรู้จักครูและเพื่อนร่วมชั้นเรียนกันได้ ใช้ภาษาแบบสบายๆ ซึ่งก็จะประมาณนี้…
สวัสดี
はじめまして。
Hajimematshite
ฉันชื่อ…
私は…です。
Watashi wa…desu
พักอยู่ที่กรุงเทพฯ
バンコクに住んでいます。
Bankoku ni sunde imasu
ทำงานที่…
…ではたらいています。
… de hataraite imasu
ฝากตัวด้วย
よろしくおねがいします。
Yoroshiku onegai shimasu
แต่เมื่อเรียนภาษาญี่ปุ่นไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ มันก็จะมีวิธีการแนะนำตัวที่ดูเป็นทางการมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตัวอย่างด้านล่างนี้ เห็นได้ชัดเลยล่ะ เพราะใช้ภาษาสุภาพแบบถ่อมตน (เคงโจโกะ) ในการแนะนำตัว ซึ่งเหมาะกับการใช้แนะนำตัวอย่างเป็นทางการ แบบสุภาพ แบบว่าแนะนำตัวกับผู้หลักผู้ใหญ่ อาทิ ท่านอาจารย์ในมหาวิทยาลัย หรือท่านผู้จัดการบริษัท อะไรประมาณนั้น
ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ
はじめまして。
Hajimematshite
ดิฉันชื่อ…
わたくしは…ともうします。
Watakushiwa… to moshimasu
พักอยู่ที่กรุงเทพฯ
バンコクに住んでおります。
Bankoku ni sunde orimasu
ทำงานอยู่ที่…
…ではたらいております。
…Hataraite orimasu
ขอความกรุณา ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ
よろしくおねがいいたします。
Yoroshiku onegai itashimasu
แต่… แต่… แต่… ยังไม่จบ!! สถาบันอื่นว่ายังไงไม่รู้ แต่ที่ J-center (โรงเรียนสอนภาษาของเจเอ็ดดูเคชั่น) ที่ผู้เขียนกำลังพยายามตะเกียกตะกายเรียนภาษาญี่ปุ่นอยู่นั้น เมื่อเรียนคลาสสูงเข้าไปอีก คุณจะต้องหัดแนะนำตัวประมาณว่า แนะนำตัวยังไงให้โลกจำ!!!
อันที่จริงก็ไม่มีอะไรมาก ไม่ได้เน้นหนักไปทางเรื่องไวยากรณ์หรือคำศัพท์อะไรอย่างนั้นด้วย แต่ส่วนตัวแล้วผู้เขียนคิดว่า เป็นเรื่องของศิลปะและวัฒนธรรมในการใช้ภาษาญี่ปุ่นมากกว่า คือการแนะนำตัวแบบนี้ เป็นการบรรยายถึงตัวตนของเรา บรรยายถึงตัวชื่อ-สกุล หรือตัวตนของเราอย่างมีเอกลักษณ์ ทำให้คนฟังสามารถจดจำเราได้ในทันที ยกตัวอย่างเช่น “ฉันชื่อฟูจิ แต่ชื่อฉันไม่ได้มาจากคำว่าภูเขาไฟฟูจิหรอกนะ แต่มาจากดอกฟูจิ เพราะคุณพ่อขอคุณแม่ฉันแต่งงานตอนไปชมเทศกาลดอกฟูจิน่ะ”
เป็นไงล่ะ! ภาษาญี่ปุ่น พอเรียนไปเรื่อยๆ รู้สึกเหมือนว่าแนวทางในการเรียนภาษา ทำให้เราได้เห็นมุมสะท้อนวัฒนธรรมการใช้ภาษาของชาวญี่ปุ่นเค้า รู้สึกเหมือนได้เห็นตัวตนคนญี่ปุ่นมากขึ้นแบบอ้อมๆ แต่ลึกซึ้ง อย่าง topic ในวันนี้ ก็เหมือนกับสอนว่า ในสังคมชาวญี่ปุ่น คุณไม่ใช่แค่สักจะแนะนำตัวทิ้งๆ ขว้างๆ ไม่สนไม่แคร์ใครก็ได้ แต่บางครั้งเราก็อยากจะทำความรู้จักกับคนที่เราแนะนำตัวด้วยจริงๆ อยากให้เค้ารู้จักเราจริงๆ อยากให้เค้าจำเราได้จริงๆ มันก็ต้องผ่านการกระบวนการทางความคิด ต้องฝึกฝน ให้เค้าจำเราได้ เริ่มตั้งแต่การแนะนำตัวกันเลยทีเดียว ลึกจริงๆ ชนชาติญี่ปุ่นนั้นช่างที่ล้ำลึกจริงๆ
(สมัยนี้ หากอยากให้ใครจำเราได้ด้วยการแนะนำตัว คงต้องเข้าคอร์สด้านการสื่อสารเสียตังค์มากมายหรือไม่ก็ฝึกฝนด้วยตัวเองจนชำนาญ แต่นี่แค่จะเรียนภาษาเองนะ แต่รู้สึกเหมือนได้เรียนทักษะการเข้าสังคมแถมมาด้วยเลยอ่ะ)
เป็นยังไงบ้าง การเรียนภาษาญี่ปุ่นแสนสนุกของผู้เขียน พบเจอเรื่องให้คร่ำครวญอยู่เนืองๆ … ช้านจะรอดไปเป็นผู้ใช้ภาษาญี่ปุ่นในชีวิตประจำวันกับชาวบ้านเค้าได้อย่างสงบสุขไหมล่ะเนี่ย โปรดติดตามดูตอนต่อๆ ไปจ้า (><)/
ใครที่กำลังสนใจจะเรียนภาษาญี่ปุ่นเหมือนกัน ก็มาเรียนเป็นเพื่อนกับผู้เขียนได้ที่ J-Center นะจ้ะ สนุกมากกกก เซนเซใจดี สต๊าฟก็น่ารัก ^^
เรื่องแนะนำ :
– นิฮงโกะ ไดอารี่… ยกย่องก็ไม่ได้ ถ่อมตนก็ไม่เป็น
– นิฮงโกะ ไดอารี่… เรียนภาษากรุบกริบในอาหารญี่ปุ่น
– นิฮงโกะ ไดอารี่… ภาษาญี่ปุ่นเรียนออนไลน์ก็ได้ เรียนออฟไลน์ก็ดี
– นิฮงโกะ ไดอารี่… ตัวอักษรญี่ปุ่นวุ่นวายนัก
– นิฮงโกะ ไดอารี่… สอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น
ขอบคุณภาพประกอบ: https://heart-school.jp/en/
#ภาษาญี่ปุ่น #เรียนภาษาญี่ปุ่นออนไลน์ #นิฮงโกะ ไดอารี่… การแนะนำตัวนั้นสำคัญไฉน