แน่ใจไหมคะว่า วิธีการบำรุงผิวในตอนนี้ เป็นวิธีที่ถูกแล้วจริงๆ
อีกหนึ่งปัญหาผิวที่หลายคนมักเจอบ่อย ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเลยก็คือ ปัญหาใต้ตาหมองคล้ำค่ะ บางคนอาจเจอปัญหาตาบวม ตาดูอิดโรย ทำให้โดนทักบ่อยๆ ว่าดูไม่สดใส หรือดูป่วย ทั้งๆ ที่ข้างในเราก็สบายดี แค่นอนน้อยไปหน่อย (แต่นอนนะ)
วันนี้เลยขอมาแนะนำเคล็ดลับง่ายๆ ที่จะช่วยลดเลือนรอยคล้ำใต้ตาแบบเบื้องต้น ที่ไม่ใช่แค่การทาครีมอย่างเดียว จะมีเคล็ดลับอะไรบ้างนั้น ตามมาดูกันเลยค่ะ
5 วิธีจัดการรอยคล้ำใต้ตา ให้ดูเฟรชสดใส แม้นอนน้อย
1. เพิ่มความชุ่มชื้น ด้วยน้ำมันมะพร้าว
ปัญหาผิวรอบดวงตาดำคล้ำนั้นก็มีส่วนมาจากผิวขาดความชุ่มชื้นค่ะ และถ้ายิ่งเราปล่อยให้ผิวแห้งหนักเข้าไปอีก รอยดำคล้ำนั้นจะยิ่งชัดเจนขึ้น แต่สาวญี่ปุ่นหลายๆ คน ก็ไม่ได้ทุ่มซื้อเซรั่มแพงๆ อย่างที่คิดนะคะ แต่เธอใช้วิธีนี้ค่ะ ดื่มน้ำเยอะๆ แล้วหาน้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันมะกอก ทาบางๆ บริเวณผิวรอบดวงตา ก็จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้แล้วค่ะ
2. ลดอาหารเค็ม หรือมีโซเดียมสูง
เชื่อไหมว่า สิ่งที่เรากินก็ส่งผลต่อผิวเราเช่นกัน อย่างเช่น อาหารที่มีรสเค็มจัดค่ะ ที่ทั้งส่งผลให้ตาบวมมากขึ้น แล้วยังทำให้อาหารผิวรอบดวงตาดำคล้ำมันรุนแรงมากยิ่งขึ้นด้วย เอาเป็นว่า หากช่วงนี้รู้สึกว่า ผิวรอบดวงตา โดยเฉพาะบริเวณใต้ดวงตามันดำคล้ำเสียเหลือเกิน อาจจะเริ่มต้นด้วยวิธีง่ายๆ อย่างการงดทานของเค็มจัดค่ะ
3. ถุงชาประกบผิวรอบดวงตา
หากช่วงนี้รู้สึกว่าดวงตาอิดโรย ใต้ตาคล้ำยิ่งกว่าหมีแพนด้า เราขอแนะนำอีกวิธีคือ ให้รีบวิ่งซื้อชาที่เป็นแบบถุงผงชาที่ต้องนำมาแช่น้ำให้ละลายก่อนดื่มค่ะ แต่เราไม่ต้องเอามาดื่มนะคะ แต่เอามาโป๊ะไว้เลยค่ะ เพียงแค่น้ำถึงชามาแช่ในน้ำร้อนสักพัก ให้ชาเกิดการละลายตัวเล็กน้อย แล้วนำถุงชานั้นไปแช่เย็นไว้สักพัก หลังจากนั้นก็เอามาประกอบดวงตาทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาทีค่ะ สารคาเฟอีน รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆ ในชา จะช่วยลดเลือนรอยคล้ำได้ และช่วยให้ดวงตาเราดูเฟรชมากยิ่งขึ้น
4. ใช้อายครีม ที่มีส่วนผสมของวิตามินซี
วิธีการธรรมชาติมันอาจจะเกินการเยียวยาสำหรับเรา ดังนั้นเราเลยขอแนะนำอีกเคล็ดลับก็คือ ให้หาซื้ออายครีมมาบำรุงค่ะ อายครีมที่ดีที่สุด ไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคาที่ต้องสูงลิบลิ่วเสมอไป แต่อยู่ที่ส่วนผสมค่ะ เราเลยขอแนะนำว่า ให้เลือกอายครีมที่มีส่วนผสมที่สามารถช่วยบำรุงผิวใต้ดวงตาได้ เช่น คาเฟอีน ที่จะเข้าช่วยให้หลอดเลือดหดตัว และควบคุมอาการบวมของผิวตา อีกส่วนผสมที่มีส่วนช่วยปัญหานี้ก็คือ Retinol และวิตามินซี ที่จะเข้ามาช่วยปรับรอยคล้ำใต้ตาให้ดูกระจ่างใสขึ้นนั่นเออง
5. ไม่มีอะไรดีไปกว่านอนหลับให้เพียงพอ
สุดท้าย อยากฝากเคล็ดลับข้อนี้ไว้ค่ะ หากคุณคิดว่าปัญหารอยคล้ำใต้ตาหรือรอบดวงตามันเกิดขึ้นจากการนอนน้อย เราก็อยากให้คุณแก้ปัญหาตั้งแต่ท่ต้นเหตุด้วย นั่นก็คือ การนอนหลับให้เพียงพอนั่นเอง เพราะในช่วงที่เรานอนหลับนั้น จะมีโกรทฮอร์โมนหลั่งออกมาช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย รวมถึงผิวรอบดวงตาเราด้วย
ซึ่งรู้ไหมคะว่า การนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ คือ สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดรอยคล้ำใต้ตาเช่นกันค่ะ เพราะพอนอนน้อยด็จะทำให้เส้นเลือดบริเวณผิวหนังใต้ดวงตาขยายตัวขึ้น ส่งผลให้ผิวบริเวณนั้นดำคล้ำขึ้น บางครั้งก็อาจทำให้ใต้ตาเรามีอาการบวมได้ด้วย หากนอนดึกบ่อยๆ ก็จะทำให้รอยคล้ำนั้นเด่นชัดมากยิ่งขึ้น หากใครรู้ตัวว่านอนน้อยอยู่บ่อยๆ ก็ควรหันมานอนพักผ่อนให้เพียงพอ ควรนอนให้ถึง 7-8 ชั่วโมง จะดีทั้งต่อสุขภาพกาย และรอยคล้ำใต้ตาของเราค่ะ
นี่ก็คือเคล็ดลับง่ายๆ ที่ทำตามได้เลย สำหรับคนที่มีปัญหารรอยคล้ำบริเวณใต้ดวงตา หรือมีปัญหาอาการตาบวมและมีความอิดโรยค่ะ สิ่งสำคัญที่จะทำให้ผิวรอบดวงตากลับมาสดใสคือ การบำรุงและดูแลผิวตามเคล็ดลับเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ ดวงตาที่สดใส ไบรท์ขึ้นก็จะเกิดขึ้นในไม่ช้า แต่ถ้าลองแล้วอาการไม่ดีขึ้น เราขอแนะนำให้พบกับแพทย์ผิวหนัง เพื่อทำการรักษาที่ตรงจุดต่อไปค่ะ
เรื่องแนะนำ :
– 5 เรื่องเข้าใจผิด เกี่ยวกับการบำรุงผิว ที่ควรเลิกทำได้แล้ว
– 5 ไอเท็มกันแดดสไตล์ญี่ปุ่น ยืนกลางแดดทั้งวัน ผิวก็ไม่คล้ำเสีย
– 5 ปัญหาผิวหน้าฝน พร้อมวิธีดูแลผิวด้วยตัวเอง
– เทรนด์ Make Up Everyday look สไตล์ญี่ปุ่น ที่ยังแต่งได้ในปี 2020
– 5 เคล็ดลับความงามในตำนานของญี่ปุ่น
ขอขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก:
– https://www.wellnessbin.com
– https://www.allure.com
– https://www.beautynewstokyo.jp
#5 วิธีจัดการรอยคล้ำใต้ตา ให้ดูเฟรชสดใส แม้นอนน้อย