กระเป๋านักเรียนประถมญี่ปุ่น (Randoseru)

ผู้เขียนรู้จักกระเป๋านักเรียนญี่ปุ่นทางละครทีวีเรื่องหนึ่งซึ่งจำไม่ได้เหมือนกันว่าเรื่องไหน สิ่งที่สงสัยคือ ทำไมมันอ้วนๆ จัง… ดูแข็งๆ นะ… หนักไหมเนี่ย…  และอีกมากมายเกี่ยวกับกระเป๋านักเรียนประถมของญี่ปุ่น  ซึ่งผู้เขียนก็เพิ่งรู้ว่ามันเรียกว่า รันโดะเซะรุ (Randoseru) เมื่อไม่นานมานี้

เมื่อนานมาแล้ว ผู้เขียนรู้จักกระเป๋านักเรียนญี่ปุ่นทางละครทีวีเรื่องหนึ่งซึ่งจำไม่ได้เหมือนกันว่าเรื่องไหน สิ่งที่สงสัยคือ ทำไมมันอ้วนๆ จัง… ดูแข็งๆ นะ… หนักไหมเนี่ย…  และอีกมากมายเกี่ยวกับกระเป๋านักเรียนประถมของญี่ปุ่น  ซึ่งผู้เขียนก็เพิ่งรู้ว่ามันเรียกว่า รันโดะเซะรุ (Randoseru) เมื่อไม่นานมานี้

เอาล่ะค่ะ… มาดูกันดีกว่าว่าเจ้ารันโดะเซะรุที่ว่านี้ มีดีอะไรบ้าง

รันโดะเซะรุ (Randoseru, ランドセル) ก็คือกระเป๋านักเรียน หรือเป้สะพายหลัง ที่เอาไว้ใส่พวกอุปกรณ์การเรียนสำหรับนักเรียนประถม คำว่า รันโดะเซะรุ มาจากภาษาดัชท์* Ransel ตัวกระเป๋าสูงประมาณ 30 ซ.ม. กว้างประมาณ 18 ซ.ม. ทำจากหนังเทียม (บางยี่ห้อก็ทำจากหนังแท้) ที่ค่อนข้างมีความแข็งพอสมควร แต่ก็บุด้วยหนังนุ่มๆ ในส่วนที่ต้องสัมผัสโดนตัว สำหรับกระเป๋าเปล่าๆ นั้น หนักประมาณ 1.2 กิโลกรัม

รันโดะเซะรุเข้ามาในญี่ปุ่นราวสมัยเอโดะ (Edo) พร้อมๆ กับชาวฮอลันดาที่นำเข้ามา โดยในสมัยนั้นใช้เพื่อบรรจุสิ่งของทั่วๆ ไป แล้วจึงเริ่มนำมาใช้เป็นกระเป๋านักเรียนในสมัยเมจิ (Meiji)

โดยทั่วไปแล้ว กระเป๋านักเรียนญี่ปุ่นของเด็กผู้หญิงจะเป็นสีแดง ส่วนกระเป๋าสีดำก็เป็นของเด็กผู้ชาย แต่ในสมัยนี้รันโดะเซะรุก็มีผลิตออกมาหลากหลายสีมากขึ้น ทั้งสีชมพู สีฟ้า สีเขียว เป็นต้น บางโรงเรียนที่ไม่มีกฎเคร่งครัดมาก เด็กๆ ก็จะสามารถเลือกใช้สีได้ตามใจชอบ

จุดเด่นของกระเป๋านี้ก็คือ ความทนทาน ค่ะ เด็กๆ ส่วนใหญ่จะใช้ใบเดียวจนจบ ป.6 เลย ถ้าจะเปลี่ยนก็คงเป็นความชอบส่วนตัวมากกว่า และจุดเด่นอีกอย่างของกระเป๋ารันโดะเซะรุก็คือ การออกแบบ ค่ะ กระเป๋านักเรียน Randoseru นั้น ออกแบบมาเพื่อให้เด็กๆ ใช้ โดยลดน้ำหนักของตัวกระเป๋าลง และออกแบบให้พอดีกับแผ่นหลังเวลาสะพาย เพื่อที่จะไม่ทำให้ปวดไหล่หรือปวดสะโพก นอกจากนี้ด้านในกระเป๋าก็มีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง จุของได้เยอะ แล้วยังแบ่งเป็นช่องๆ หาของได้ง่ายอีกด้วย

สำหรับราคานั้นก็ต่างกันไปตามวัสดุที่ใช้ และกรรมวิธีการผลิตค่ะ  โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 20,000 เยน คิดเป็นเงินไทยก็อยู่ที่ประมาณ 8,000 บาทค่ะ O.O (แพงเหมือนกันนะเนี่ย)

หากใครสนใจจะซื้อมาใช้ก็ไม่ขัดศรัทธาค่ะ ไม่แน่อาจกลายเป็นแฟชั่นฮิตในเมืองไทยก็ได้นะ : )
*ภาษาดัชท์ (Dutch) เป็นภาษาของชาวฮอลแลนด์ หรือชาวฮอลันดา ส่วนประเทศนั้นจะเรียกว่าประเทศฮอลแลนด์ (Holland) หรือเนเธอร์แลนด์ (The Netherlands)