วิชายุทธ วิถีเซน by Lordofwar Nick
มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (56) คัมภีร์แห่งเตโช (ไฟ): แปด สิ่งที่เรียกว่า รู้การพังทลาย
สวัสดีครับท่านผู้อ่าน ในปีนี้ 2023 สิ่งที่ผมครุ่นคิดเยอะสุดก็คงเป็นเรื่องที่ว่า ทำยังไงจะผลักดันตัวเองให้ก้าวหน้าทั้ง กาย ใจ เทคนิค ได้เร็วกว่าที่เป็นอยู่ ให้มันแบบว่า ทุกชั่วโมง ทุกนาที ที่เราได้ฝึกได้เรียน มันมีความก้าวหน้าได้รู้อะไรใหม่ๆ มากที่สุดที่จะมากได้ เพราะผมคิดว่าหนทางจากน้ำเงินไปม่วงนี่ต้องได้เจอได้ประสบกับอะไรที่ “อู้หูอ้าหา” แน่ๆ เพราะช่วงนี้ทุกชั่วโมงทุกคลาสที่เรียนนี่ก็แบบว่า ความรู้สึกผมน่ะ มันแบบ หื้มมมม จริงๆ รู้สึกเลยวาโลกนี้มีอะไรที่ต้องเรียนอีกเยอะมากกกกกกกกก (กอไก่ล้านตัว)
แล้วพอดี ผมได้ไปอ่าน e-book ฟรี เรื่อง “15 Ways to Learn Jiu-Jitsu Faster” ของ Chris Wojcik ซึ่งมันเป็นอะไรที่แบบ ห๊า ตกใจมาก เพราะบางอย่างก็บังเอิญตรงกับผมอย่างเหลือเชื่อ เช่นข้อสาม Writing About Jiu-Jitsu คือแกก็เป็นนักเขียนเหมือนกัน และแกก็บอกว่าการที่เราเขียนถึงเรื่องสิ่งที่เราได้พบได้เจอในการฝึกบีเจเจเนี่ย…
Apart from technical writing about Jiu-Jitsu, I also think that there’s a benefit in writing about your experience in Jiu-Jitsu. Whether that looks like becoming a blogger on the internet who writes about Jiu-Jitsu, contributing to Jiu-Jitsu news outlets like Jiu-Jitsu Times, or just keeping a diary about training and competing, the point is that you write down the things that are happening to you as you progress through this martial art.
I also have a document in my Google drive that has a list of every single strength and conditioning workout I’ve done for the past 4 years and another document that has a list of every match I’ve ever competed in since my first tournament as a white belt college freshman living in Oregon. Writing everything down is how I stay organized, focused, and motivated.
เพราะฉะนั้นผมคิดว่า การที่ผมมาเขียนถึงเรื่องของชีวิตการเรียนยูยิตสูมาตลอดตั้งแต่เป็นสายขาวมาถึงตอนนี้ (สายน้ำเงิน) นี่แหละ ผมมาถูกทางแล้ว ผมบอกเลยตรงนี้ว่าอยากให้คนทุกเพศทุกวัยหันมาเปิดใจเล่น BJJ กันให้เยอะๆ เมืองไทยทัศนคติที่มีต่อวิชาต่อสู้ กีฬาต่อสู้ยังแคบอยู่มากๆ (ว่าเป็นเรื่องของคนหนุ่มสาว เอาไปต่อยตี เท่านั้น) ในขณะที่เมืองนอกนี่ คนทุกเพศวัยสาขาอาชีพก็เล่นได้หมด และเขาก็เอาความรู้จากวิชาอาชีพเขามามีส่วนร่วมในวิชา BJJ ด้วย อย่างบางคนเป็นหมอ แล้วก็เป็น BJJ สายดำ เขาก็มาเขียนบทความที่ใช้ความรู้ทางการแพทย์ เช่นเรื่อง “คาเฟอีนกับยูยิตสู” คือผมว่ามันดีมากๆ เลยนะการที่ BJJ เป็นวิชาที่มีความเปิดกว้าง ไม่ยึดติดกับกรอบประเพณีเหมือนอย่างวิชาต่อสู้อื่นๆ ที่เป็น traditional เพราะมันทำให้เกิดการคิดว่าเราจะทำไงที่จะพัฒนาตัวเองทั้งในด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม แล้วผู้คนที่เข้ามาตรงนี้มาเรียนรู้อะไรจากตรงนี้แล้วก็เอาความรู้ของตัวเองมาแชร์กัน ให้มันเกิดการพัฒนายิ่งๆ ขึ้นไปอีก
วันนี้โม้เยอะไปหน่อยละ (ฮา) เข้าเรื่องเลยดีกว่าครับ
คำแปลข้อความต้นฉบับ
火の巻
คัมภีร์แห่งเตโช
八 一 くづれを知ると云事
แปด สิ่งที่เรียกว่า รู้การพังทลาย
`崩 `と云事は物毎ある物也 `其家のくづるる身のくづるる敵のくづるる事も時のあたりて拍子ちがひになりてくづるる所也 `大分の兵法にしても敵のくづるる拍子を得て其間をぬかさぬ様に追たつる事肝要也 `崩るる所のいきをぬかしてはたてかへす所有べし `又一分の兵法にも戦内に敵の拍子ちがひてくづれ目の付もの也 `其ほどを油断すれば又たちかへり新敷なりてはかゆかざる所也 `其くづれめに付敵のかほたてなほさざる様に慥に追かくる所肝要也
สิ่งที่เรียกว่า “พังทลาย” นั้นเป็นสิ่งที่สิ่งทั้งหลายมี แม้การที่บ้านนั้นพังทลาย กายพังทลาย ศัตรูพังทลาย เมื่อถูกเวลา จังหวะผิดไปก็พังทลาย แม้ในพิชัยสงครามของส่วนใหญ่ การไล่ต้อนให้ได้จังหวะที่ศัตรูจะพังทลาย ไม่ปล่อยให้ขณะนี้หลุดไปนั้น เป็นเรื่องใหญ่ใจสำคัญ หากปล่อยให้ลมหายใจของที่ที่พังทลายหลุดไปแล้ว (ศัตรู) อาจจักตั้งตัวกลับมาได้ใหม่ อนึ่ง แม้ในพิชัยสงครามส่วนเดียว ในการศึก ต้องจับตาดูศัตรูจังหวะผิดพังทลาย หากประมาท (คลาดจาก) ขณะนั้้น (ศัตรู) จะกลับมาตั้งได้อีก จะปูขึ้นใหม่ ไม่อาจไปข้างหน้าได้ การจับตาดูการพังทลายนั้น ไม่ให้ศัตรูตั้งหน้าได้ใหม่ เร่งไล่ตามให้ได้โดยแน่แท้นั้น เป็นเรื่องใหญ่ใจสำคัญ
`追かくるは直に強き心也 `敵たてかへさざる様に打はなすもの也 `打はなすと云事能々分別有べし `はなれざればしだるき心有 `工夫すべきもの也
การไล่ตามนั้น ใจต้องตรงเข้มแข็ง ตีปล่อยไม่ให้ศัตรูตั้งตัวกลับมาได้อีก สิ่งที่เรียกว่าการตีปล่อย ควรแยกแยะให้ดีๆ หากผละออกมิได้จะมีจิตระย่อ ควรคิดให้แยบคาย
การตีความและอภิปราย
…ยิ่งอ่าน ยิ่งเข้มข้น ขึ้นทุกทีนะครับ คัมภีร์แห่งเตโช
ผมจะไม่อภิปรายเยอะ แต่จะขออธิบายเรื่องถ้อยคำสำนวนเล็กน้อย
คำว่า “ตีปล่อย” (อุจิฮานาสุ 打はなす=打ち放つ) ภาษาญี่ปุ่นแปลความได้ว่า “ยิงออกไป” “ชักดาบฟันใส่” คือกริยาที่กระสุนถูกปล่อยจากกระบอกปืน ดาบถูกปล่อยจากฝัก ในบริบทนี้ หมายความว่า เมื่อศัตรูเปิดให้เห็นช่องที่จะตีให้ทลายแล้ว ให้พุ่งการโจมตีเข้าไปเลย อย่าให้ศัตรูตั้งหลักได้ ซึ่งเนื้อหานี้จะไปโยงกับประโยคต่อไปที่ว่า…
“หากผละออกมิได้จะมีจิตระย่อ”
はなれざればしだるき心有(離れさればし怠き心有り)
ฮานะเระซาเระบะ ชิดะรุกิ โคโคโระ อะริ
โห ประโยคนี้ กว่าผมจะแกะได้ (ในการแกะอ่านผมพยายามอ่านจากคำโบราณจริงๆ ไม่พึ่งฉบับแปลงเป็นคำสมัยใหม่ที่แบบ “ญี่ปุ่นแปลญี่ปุ่น” ด้วยซ้ำ) การไม่เขียนคันจิบางทีสำหรับผมก็ลำบากเหมือนกันนะครับ (ฮา)
ทีนี้ประโยคนี้สื่ออะไร? ผมตีความว่า สื่อถึงปฏิกิริยาของศัตรู หากเราสามารถตีไปเรื่อยๆ ไม่ให้ศัตรูตั้งหลักตั้งตัวได้ มันเป็นเรื่องของการใช้กลยุทธ์หวังผลทางจิตวิทยาครับ เพื่อให้เห็นภาพผมจะเล่าสิ่งที่ผมได้เจอได้ลองในการสแปริ่งกับน้องคนนึงที่ยิมครับ
…พอผมชู้ต closed guard ปั๊บ..
…ถ้าเขาพยายามเอามือยันท้องน้อยผม ผมเอาข้อมือคล้องดึงข้อมือเขาออก
…ถ้าแขนเขาเผลอพับเป็นปีกไก่ ผมเอาข้อพับแขนตัวเองช้อนมุมศอกเขา อีกมือสอดเตรียมเข้า kimura from closed guard
Kimura from closed guard ที่มา YouTube
…ถ้าอีกฝ่ายพยายามขืนแขน หนี มักจะเผลอเชิดหัว ถ้าเผลอเปิดหัว เอาแขนโอบหัว guillotine
…ถ้าจังหวะไม่ได้ ยังเชิดหัวดิ้นหนี ก็ให้เขาหนี เราก็เปลี่ยนผ่านไปเล่น arm triangle ทั้งๆ closed guard
Arm triangle from closed guard ที่มา YouTube
…แล้วถ้าจังหวะยังไม่ได้ คู่ต่อสู้แข็งขืนอยู่จนเราซับมิชชั่นไม่ได้ เราก็ sweep พลิกให้เราอยู่บน (ขึ้นคร่อม แล้วออกจากการคร่อม) แล้วยังเล่นท่าเดิม arm triangle ต่อไปอีก คราวนี้ แน่นๆ ไปเลย ถ้าแขนเรากำลังไม่พอก็ต้องอาศัยการอยู่ข้างบน ให้แรงดึงดูดโลกกับน้ำหนักตัวเรามาเป็นตัวช่วย…
ที่มา wikimedia commons
ในที่สุดผมก็ได้ประจักษ์ว่า คำสอนของมูซาชินั้นเป็นความจริงไม่เกินเลย กับตัวเอง แน่นอนว่าการไล่ต้อนไล่จี้ไปเรื่อยๆ อีกฝ่ายหนึ่งที่ต้องคอยหนีคอยกันกำลังของจิตใจจะถูกบั่นทอนไปเรื่อยๆ ผมถึงแปลไทยคำว่า “ดะรุกิ” 怠き ว่า “ระย่อ” คือ หมดแรงใจ (ในที่นี้คือเพราะเหนื่อยล้า แบบมันท้อใจ)
บางทีผมก็โดนทำเข้ากับตัวเองนี่แหละเวลาโรลกับสายสูงกว่า เช่นสายม่วง สายน้ำตาล ที่บางทีผมแบบ เหนื่อยมาก เหมือนโดนต้อนให้เคลื่อนไหวตามที่เขาบังคับ (เขากลายเป็นคนบังคับคุมเกมไป)
…นี่แหละ เราถึงยังต้องฝึกฝน เรียนรู้กันต่อไป นี่หละครับ…
บทความนี้ก็คงจะได้ลงเว็บวันที่ 25 กุมภาพันธ์เนาะ ก็เป็นเดือนเกิดของผม (แล้วก็เป็นวันครบรอบแต่งงานด้วย) ผมก็หวังว่าในปี 2023 นี้ ผมจะมีความก้าวหน้าในวิชา BJJ ได้ดีเหมือนกับปีที่ผ่านมา นะครับ
พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ สวัสดีครับ
เรื่องแนะนำ :
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (55) คัมภีร์แห่งเตโช (ไฟ): เจ็ด สิ่งที่เรียกว่าการย่ำดาบ
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (54) คัมภีร์แห่งเตโช (ไฟ): หก สิ่งที่เรียกว่า การรู้สภาวการณ์
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (53) คัมภีร์แห่งเตโช (ไฟ): ห้า สิ่งที่เรียกว่าการข้ามฟาก
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (52) คัมภีร์แห่งเตโช (ไฟ): สี่ สิ่งที่เรียกว่ากดหัวนอน
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (51) คัมภีร์แห่งเตโช (ไฟ): สาม สิ่งที่เรียกว่าลงมือก่อนทั้งสาม
#มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (56) คัมภีร์แห่งเตโช (ไฟ): แปด สิ่งที่เรียกว่า รู้การพังทลาย