วันนี้ผมจะพาทุกคนไปรู้จักกับ “Yuzuki Aikawa” อดีตไอดอลลำดับต้นๆของวงการ ที่เปลี่ยนผันตัวเองมาเป็นนักมวยปล้ำอาชีพ และกลายเป็นตำนานในเวลาอย่างรวดเร็ว หลายคนที่ฟังบทสัมภาษณ์ของเธอก็ถึงกับน้ำตาไหลในความพยายาม แม้กระทั่ง ชิมาซากิ ฮารุกะ (พารุรุ) แห่ง AKB48 ก็ต้องเสียน้ำตาให้กับเรื่องราวของเธอมาแล้ว
ถ้าพูดถึงวงการไอดอลแล้ว เชื่อว่าทุกคนคงจะคิดถึงความสวยงาม ความน่ารักสดใส หรือความเซ็กซี่เป็นหลัก แต่ใครจะเชื่อว่ามีไอดอลหลายคนที่สนใจในเรื่องกีฬา โดยเฉพาะกีฬาต่อสู้ที่ดูจะเป็นภาพตรงข้ามกับการเป็นไอดอลอย่างชัดเจน
แต่วันนี้ผมจะพาทุกคนไปรู้จักกับ “Yuzuki Aikawa” อดีตไอดอลลำดับต้นๆของวงการ ที่เปลี่ยนผันตัวเองมาเป็นนักมวยปล้ำอาชีพ และกลายเป็นตำนานในเวลาอย่างรวดเร็ว การันตีด้วยตำแหน่งนักมวยปล้ำหญิงยอดเยี่ยมแห่งปีของประเทศญี่ปุ่น ถึงแม้ปัจจุบันเธอจะรีไทร์จากวงการไปแล้ว แต่สิ่งที่เธอฝากเอาไว้กับวงการก็ถือว่าเป็นสิ่งที่มีค่าเหลือเกินครับ
ถ้าพูดถึงชื่อของ Yuzuki Aikawa แล้ว ผมเชื่อว่าไม่มีผู้ชายญี่ปุ่นคนไหนที่ไม่รู้จักเธอ เพราะเธอถือว่าเป็นไอดอลสาย “กราเวียร์” (เน้นเซ็กซี่เป็นหลัก) ที่ได้รับรางวัลหลายต่อหลายอย่าง กระทั่งกลายมาเป็นตัวละครในวีดีโอเกมส์มาแล้ว จุดเด่นของเธอคือหน้าอกขนาด 102 เซนติเมตรที่ส่งผลให้เธอได้ขึ้นปกนิตยสารมากมายนับไม่ถ้วน จนได้รับฉายาว่า “Gravure Queen of the Next Generation” หรือ “ราชินีแห่งวงการกราเวียร์ไอดอล”
แต่ถ้าหลายคนสงสัยว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้เธอหันเข้าหาวงการมวยปล้ำอาชีพ? แน่นอนว่าโดยส่วนตัวเธอก็เป็นแฟนมวยปล้ำอยู่แล้ว ก่อนหน้าที่เธอจะผันตัวเองมาเป็นนักมวยปล้ำอย่างจริงจัง เธอก็เคยทำหน้าที่เป็นทีมงานภาคภาษาญี่ปุ่นของสมาคม WWE ซึ่งเป็นสมาคมมวยปล้ำอันดับหนึ่งของโลกจากอเมริกา แต่จากบทสัมภาษณ์หรือบทความต่างๆ ของเธอ เธอกล่าวว่าสาเหตุที่ทำให้เธอต้องหันมาเป็นนักมวยปล้ำเพราะว่าอายุอานามที่มากขึ้น นอกจากนี้ไอดอลในปัจจุบัน ก็ไม่ได้ทำเฉพาะสายทางของตัวเองอย่างเดียวแล้ว ปัจจุบันนักร้อง นักแสดง นักดนตรี ก็หันมาถ่ายแบบเซ็กซี่กันมากขึ้น ซึ่งคนเหล่านั้นดูน่าค้นหากว่ากราเวียร์ไอดอลที่ทำอะไรอย่างอื่นไม่ได้เลย นอกจากอวดเนื้อหนังมังสาของตนเอง
ครั้งหนึ่งเธอเคยไปออกรายการของ AKB48 และเธอบอกว่า AKB48 ก็คืออีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้วงการกราเวียร์ไอดอลสั่นสะเทือน เพราะ AKB48 สามารถมีอิมเมจได้ทั้งน่ารักและเซ็กซี่ไปพร้อมๆ กัน ซึ่งเป็นสิ่งที่กราเวียร์โดยทั่วไปทำไม่ได้ เนื่องจากพวกเธอขายความเซ็กซี่เพียงอย่างเดียวมาตั้งแต่ต้น อย่างไรก็ตามสุดท้ายเธอก็ไม่เลือกที่จะทิ้งตัวเองหายไปกับคลื่นลูกใหม่ที่ กำลังไล่ซัดเธอไปตามกาลเวลา แต่เธอตัดสินใจเปลี่ยนตัวเองไปสู่อีกเส้นทางหนึ่ง และใช้ความสามารถและชื่อเสียงเก่าๆ ของเธอคอยผลักดันอยู่เบื้องหลัง นั่นคือจุดเริ่มต้นในการเข้าสู่วงการมวยปล้ำของเธอ
เธอเริ่มเข้ามาฝึกในสมาคมมวยปล้ำหญิง STARDOM ซึ่งเป็นสมาคมมวยปล้ำเปิดใหม่และยอมรับการเข้าร่วมของเธอ อย่างไรก็ตามเส้นทางสายนี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะเธอต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ทั้งหมด และการเปลี่ยนแปลงก็เห็นได้อย่างชัดเจน จากวงการกราเวียร์ที่เธออยู่บนจุดสูงสุด มีแต่คนเอาอกเอาใจ เธอกลับต้องเปลี่ยนมาอยู่ในวงการมวยปล้ำที่ทุกคนพร้อมจะเล่นงานเธอตลอดเวลา ในการฝึกซ้อมแต่ละครั้ง เธอเล่าว่าเธอต้องผ่านการตบตี การทุบ การจับฟาดนับครั้งไม่ถ้วน และมันก็ยากลำบากมาก เพราะระหว่างที่เธอยังไม่ได้เปิดตัวเป็นนักมวยปล้ำอาชีพ เธอไม่สามารถทำงานอย่างอื่นเลี้ยงตัวเองได้ เพราะหน้าตาที่ปูดบวม บางครั้งตาก็ปิดมองอะไรไม่เห็นไปสองสามวัน หรือมีเนื้อตัวที่เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเศร้าสำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง แต่สุดท้ายแล้วเธอก็สามารถผ่านมันไปได้สำเร็จ และขึ้นปล้ำแมตช์แรกของตัวเองในวันที่ 23 มกราคม ปี 2011 และนั่นคือจุดเริ่มต้นของตำนานในเวลาต่อมา
ในวงการมวยปล้ำ เธอคว้าแชมป์มากมายและได้รับความสนใจจากสื่อ และที่สำคัญยังช่วยให้สมาคม STARDOM ของเธอ ก้าวขึ้นมาจากฐานะของ “สมาคมน้องใหม่” กลายมาเป็นสมาคมมวยปล้ำหญิงที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น เธอทำงานหนักมาก ทั้งด้วยเป็นการสร้างชื่อเสียงให้ตัวเธอเอง และให้กับสมาคมไปพร้อมๆกัน ไม่ว่าจะเป็นการออกทีวี หรือเขียนบทความ ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างๆ เธอเสียสละทั้งความเหนื่อยล้าและเวลามากมายเพื่อโอกาสในการสร้างอนาคตของเธอ กับเส้นทางใหม่เส้นนี้ หลายคนที่ฟังบทสัมภาษณ์ของเธอก็ถึงกับน้ำตาไหลในความพยายาม แม้กระทั่ง ชิมาซากิ ฮารุกะ (พารุรุ) แห่ง AKB48 ก็ต้องเสียน้ำตาให้กับเรื่องราวของเธอมาแล้ว (หากใครรู้จัก AKB จะรู้ว่าพารุรุค่อนข้างเย็นชา หรือเอ๋อๆ มาก ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกเท่าไหร่)
แต่สิ่งที่เธอช่วยเหลือวงการมวยปล้ำหญิงอย่างมากที่สุดก็คือ เธอใช้ชื่อเสียงของเธอ ดึงดูดแฟนๆ มาได้มากอย่างไม่น่าเชื่อ จนทำให้วงการมวยปล้ำหญิงญี่ปุ่น สามารถกลับมาจัดรายการที่ Sumo Hall กรุงโตเกียว ได้อีกครั้งในรอบหลายสิบปี หลังจากที่วงการมวยปล้ำหญิงซบเซาอย่างน่าเศร้าใจ แน่นอนว่าถึงแม้คนดูจะไม่มากเท่ากับมวยปล้ำชาย แต่มันก็แสดงให้เห็นว่าหากมีความพยายาม หนทางใหม่ๆ ย่อมเกิดขึ้นเสมอ ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ อย่างเช่นสิ่งที่ Yuzuki Aikawa ทำ เธอเปลี่ยนจากไอดอลที่รอวันตกกระป๋อง กลายมาเป็นตำนานในวงการมวยปล้ำที่จะมีคนจดจำเธอไปตลอดกาล
ปัจจุบันเธอรีไทร์จากวงการมวยปล้ำแล้วหลังจากโลดแล่นมากว่า 3 ปี และหันมารับงานในวงการบันเทิงตลอดจนทำงานด้านอื่นๆ ในวงการมวยปล้ำ โดยนอกจากเธอแล้วก็ยังมีไอดอลคนอื่นๆ ที่หันเข้าสู่วงการมวยปล้ำ อย่างเช่นที่ดังที่สุด ณ เวลานี้ก็คือ Mika Komori อดีตไอดอลของ AKB48 ที่มาทำงานค่อนข้างบ่อยให้กับ New Japan Pro Wrestliing สมาคมมวยปล้ำอันดับหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น
เราก็หวังว่าจะได้เห็น Mika Komori ที่ได้รับฉายาจากแฟนๆ AKB ว่า “ไอ้เฉื่อย” ขึ้นปล้ำบนเวทีผ้าใบในเร็วๆ นี้ และถ้ามันเกิดขึ้นจริง ก็ฝากให้กำลังใจเธอด้วยนะครับ
ติดต่อพูดคุยกับผมได้โดยตรงทางทวิตเตอร์ @pumiiiiiiiiii ครับ และพบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ
เรื่องที่เกี่ยวข้อง >>
– “J-SPY” ตำนานนิตยสารบันเทิงญี่ปุ่นของไทยในความทรงจำ
– บทสัมภาษณ์ ฟุคุยามะ มาซาฮารุ นักแสดงนำหนังรางวัล LIKE FATHER, LIKE SON
– รีวิวภาพยนตร์ญี่ปุ่น “โอชิน”
– อุเอโนะ จูริ เล่าถึงมัตสึจุน และหนังรักสุดประทับใจเรื่อง Hidamari no Kanojo
– สงสัยกันมั้ย “ไคจู” คือตัวอะไรในหนังญี่ปุ่น
#yuzuki aikawa