ดิฉันมีเรื่องที่เครซี่มากเกี่ยวกับญี่ปุ่นเรื่องหนึ่ง คือ ตัวคนญี่ปุ่น เขาปฏิบัติต่อกันอย่างไร มีวิธีพูดอย่างไร วางตัวอย่างไร มารยาทเป็นไง ทำงานกันยังไง บทความ Japan Gossip ที่ผ่านมาก็เลยแตะประเด็นเหล่านี้เยอะ
สารภาพ…
ดิฉันไม่รู้ว่าตัวเองเป็นบล๊อกเกอร์ญี่ปุ่นประเภทไหน
เกตุวดี marumura….
ไม่ใช่คนรู้เรื่องท่องเที่ยวญี่ปุ่นละเอียด สถานที่ที่คนไทยฮิตๆ อย่าง ทะเลสาบ Kawaguchiko หรือเจแปนแอลป์ก็ไม่เคยไป จึงไม่สามารถเขียนรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวได้
ไม่ใช่คนดูละครหรือฟังเพลงญี่ปุ่น จึงไม่สามารถเขียนพรรณนาถึงศิลปินดาราต่างๆ ได้ (อย่างมาก รู้จักแค่ SMAP กับ Arashi แต่ก็จำชื่อสมาชิกไม่ได้อยู่ดี)
ไม่ใช่คนบ้ากินอาหารญี่ปุ่น เดินผ่านที่ไหนก็แวะกินที่นั่น ซูชิหรือราเม็งที่ไหนอร่อย ไม่รู้ บอกได้แต่ร้านเค้กอร่อยในเมืองที่ตัวเองอยู่ แต่ก็จำชื่อร้านไม่ได้อีก จึงไม่สามารถให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่คนที่จะไปเที่ยวได้สักเท่าไร
ยิ่งเสื้อผ้า แฟชั่น แต่งหน้า เทรนด์ฮิตในญี่ปุ่นนี่ยิ่งไม่รู้เรื่องเลย อย่างมาสก์เต้าหู้ก็รู้จักตอนมีคนฝากซื้อเยอะๆ นั่นแหละค่ะ
เห็นน้องๆ หลายคน ไม่เคยไปญี่ปุ่น แต่รู้เกี่ยวกับญี่ปุ่นเยอะมาก! ดิฉันก็เริ่มเกิดหิริโอตตัปปะ คิดว่าต้องหาดินแดนอะไรสักอย่างที่เราเชี่ยวชาญเสียแล้ว คิดไปคิดมา ดิฉันคิดว่า ดิฉันมีเรื่องที่เครซี่มากเกี่ยวกับญี่ปุ่นเรื่องหนึ่ง คือ ตัวคนญี่ปุ่น เขาปฏิบัติต่อกันอย่างไร มีวิธีพูดอย่างไร วางตัวอย่างไร มารยาทเป็นไง ทำงานกันยังไง บทความ Japan Gossip ที่ผ่านมาก็เลยแตะประเด็นเหล่านี้เยอะ
แต่คิดไปคิดมา ดิฉันยังไม่เคยเขียนเกี่ยวกับ “ตัวคนญี่ปุ่น” ตรงๆ เลยนี่นา บทความนี้ เลยขอรวมจุดเล็กๆ น้อยๆ ที่ดิฉันคอยเฝ้าสังเกตเกี่ยวกับคนญี่ปุ่นมาเล่าให้คุณผู้อ่านฟังกันนะคะ เจ็ดสิ่งที่คุณ (อาจยัง) ไม่รู้เกี่ยวกับคนญี่ปุ่น
1. เข้าใจความหมายของตัวเลขได้ดีมาก
ถ้าดิฉันบอกคุณผู้อ่านว่า
“โห… วันนี้ร้อนเหมือนกันนะ เช้าๆ อย่างนี้ยังอุณหภูมิตั้ง 39 องศาแน่ะ เมื่อเช้าเดินเข้าซอยไป 560 เมตร เจอเด็กคนหนึ่งอมปรอทอยู่ ไข้ขึ้นตั้ง 38.6 องศา”
คุณผู้อ่านจะเข้าใจหรืออินไปกับดิฉันไหมคะ … บทสนทนาข้างต้น เป็นเรื่องปกติธรรมดาสำหรับคนญี่ปุ่นมาก แต่สำหรับคนไทยอย่างเราๆ ฟังแล้วไม่เห็นภาพอะไรเลย เราต้องใช้คำพูดอธิบายค่ะ
“โห … วันนี้ร้อนโคตรๆ เดินเข้าซอยไปถึงเซเว่นตรงกลางซอยนี่เหงื่อซกเลย เออ เผอิญเจอเด็กคนหนึ่ง ดูหน้ามึนๆ ไม่สบาย เข้าไปจับหน้าผากดู โห ตัวร้อนจี๋เลยเธอ”
เป็นไงกันบ้างคะ ☺
คนญี่ปุ่นเขาจะเข้าใจความหมายและเห็นภาพของตัวเลขนั้นได้เป็นอย่างดี เขาจะสามารถนำข้อมูลนั้นมาเปรียบเทียบกับคลังข้อมูลในหัว เปรีบเทียบ และวิเคราะห์ออกมาได้ว่า สิ่งที่คุณพูดถึงนั้น สั้นกว่า ยาวกว่า ลำบากกว่า ร้อนกว่า หนาวกว่าอย่างไร เช่น …
ระยะทาง 130 กิโลเมตร -> วิเคราะห์ได้ว่าใกล้หรือไกล
อุณหภูมิวันนี้ 24.6 องศา -> รู้ว่าต้องใส่เสื้อผ้าอย่างไร
แผ่นดินไหว 4.7 ริคเตอร์ -> รู้ว่าแรงหรือไม่ ต้องเตรียมเผ่นหรือยัง
ตัวเลขดังกล่าวที่ว่ารวมถึงระดับความชื้นสัมพัทธ์ สายตาสั้น-ยาว จำนวนหนังสือที่ถูกตีพิมพ์ ความสูงของภูเขาหรือตึก ฯลฯ ด้วย ใครทำงานอยู่บริษัทญี่ปุ่น อย่าแปลกใจที่นายญี่ปุ่นเอาแต่ถามถึงตัวเลขค่ะ มันคือชีวิตของคนญี่ปุ่นเค้า
2. ท่องสูตรคูณได้ถึงแม่ 9 เท่านั้น
แม้ว่าจะเก่งตัวเลขอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่เราชาวไทยเอาชนะเขาได้ คือ การท่องสูตรคูณค่ะ เด็กไทยท่องได้ถึงแม่ 12 สมุดไทยบางเล่มมีตารางสูตรคูณให้ท่องไปได้ถึงแม่ 25
เด็กญี่ปุ่นจะถูกฝึกให้ท่องถึงแค่แม่ 9 เท่านั้น ภาษาญี่ปุ่นอ่านว่า คุคุ (9×9 คุ แปลว่า เก้า ค่ะ) ถ้าเลยแม่ 10 ก็เอากระดาษปากกามาคูณกันเอง ถ้าอยากให้ตัวเองดูฉลาดในสายตาคนญี่ปุ่น ลองไปท้าเขาคิดเลขคูณหารกันค่ะ ถามไปเลย 11×11 ได้เท่าไร 12×5 คิดออกไหม อันนี้เราชนะเขาชัวร์ค่ะ
3. พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่รู้ศัพท์อังกฤษหรือคำต่างประเทศยาวๆ ยากๆ
เรื่องภาษาอังกฤษของคนญี่ปุ่นนี่ หลายๆ คนที่เคยไปญี่ปุ่นคงซาบซึ้งดี ถามอะไรไป จะได้ซ้อหลี่กลับมาตลอด “Sorry sorry. I do not speak English” แล้วรีบเดินงุดๆ หายไปจากชีวิตคุณ
แต่เชื่อไหมคะ คนญี่ปุ่น รวมถึงสื่อญี่ปุ่นใช้ศัพท์ต่างประเทศยากๆ ในชีวิตประจำวันเยอะมาก เช่น …
ศัพท์อังกฤษระดับแม่บ้าน อาอึ้มก็เข้าใจ:
Reform = เปลี่ยนใหม่/ปรับปรุง .. เวลาซ่อมบ้าน คนญี่ปุ่นชอบใช้คำนี้
Harassment = การรังควาน ซึ่งสามารถแตกหน่อไปได้เป็น Power Harassment (การข่มเหงรังแกในที่ทำงาน) Sexual Harassment (การคุกคามทางเพศ) ซึ่งทั้ง 2 คำ คนญี่ปุ่นทั่วไปรู้จักเป็นอย่างดีค่ะ
Veteran = ผู้มีประสบการณ์ ผู้เชี่ยวชาญ บ้านเราใช้คำว่า มือโปร โปรเฟสชั่นแนล คำนี้คนไทยส่วนใหญ่ไม่รู้ แต่ดิฉันขอท้าค่ะ ลองไปถามคนญี่ปุ่นดู รู้ทุกคน
ยิ่งเวลาไปทานข้าวกับคุณป้าญี่ปุ่นแล้วแกสั่งแบบ “ขอพาสต้าคาร์โบนาล่า เส้นเพนเน่ กับปลาแองโชวี่มารีเนท ส่วนดอลเช่ ขอเป็นพานาคอตต้ากับกีวีเจลาโตค่ะ” ดิฉันจะรู้สึกว่าป้ามีออร่ามาก คือ … แกก็อ่านตามที่เมนูเขียนแหละ แต่อย่างน้อย แกก็รู้ไงว่า ซอสคาร์โบนาล่าคืออะไร พานาคอตต้าคืออะไร เท่ห์มาก (แต่ถ้าเจอคนต่างชาติ ป้าก็เจแปนนีส only นะจ๊ะ พูดอังกฤษไม่ได้อยู่ดี)
4. มีใบประกาศนียบัตรหรือใบแสดงความสามารถอะไรสักอย่าง
คนญี่ปุ่นบ้าสอบใบประกาศนียบัตร (資格)หรือการสอบวัดระดับมากๆ คนญี่ปุ่นจะสอบๆ พวกนี้ไว้ เหมือนเล่นเกมเก็บ level แต่พอถามว่ามีประโยชน์ไหม เกินครึ่งตอบว่า แทบไม่มีเลย เวลาสมัครงาน ตรงช่อง Skill คนไทยจะเขียนแค่ว่า ทำอะไรได้บ้าง เช่น เขียนภาษา C ได้ ใช้ Excel เป็น แต่ญี่ปุ่น เขาจะบอกเลยค่ะว่า มีใบประกาศนียบัตรดีดลูกคิดขั้น 8 ใบประกาศฯ สะกดคันจิได้ระดับ 2 (ซึ่งบางครั้ง ก็ไม่ค่อยเกี่ยวกับงานเท่าไร)
เวลาไปสมัครงาน โดยเฉพาะงานพาร์ทไทม์ หากมีใบประกาศฯ เหล่านี้ ก็จะหางานง่ายขึ้น เช่น ใบประกาศฯ ด้านการใช้โปรแกรม Microsoft Office ด้านการทำอาหาร ด้านสุขอนามัย (เวลาเปิดร้านอาหาร เจ้าของร้านและหุ้นส่วนต้องมีใบนี้ เพื่อให้แน่ใจว่า อาหารที่คุณจะทำหรือดูแล ไม่ทำให้ลูกค้าท้องเสีย)
ใบประกาศฯ ยอดฮิตประจำปีค.ศ. 2013-2014 ได้แก่ ใบประกาศด้านการใช้ปากกาลูกลื่นค่ะ มันมีจริงๆ และอย่างที่บอก ฮิตด้วย ใครอยากสอบ ก็ลงทะเบียนเรียนคอร์สสั้นๆ ทางออนไลน์ก็ได้ เขาจะมีหลักสูตรอบรมในการเขียนตัวหนังสือให้สวยขึ้นด้วยปากกาลูกลื่น คนญี่ปุ่น (โดยเฉพาะสาวๆ) เห็นว่าสำคัญ เพราะเวลาเขียนชื่อหรือเซ็นเอกสารราชการต่างๆ หรือเซ็นยินยอมจดทะเบียนสมรส ถ้าลายมืออุบาทว์ อาจเสียภาพพจน์ได้
นอกจากนี้ การสอบวัดระดับภาษาไทยก็ยังมีเลย มี 5 ระดับด้วย ระดับสูงสุดคือระดับ 1 หากใครจะสอบระดับ 1 หรือระดับ 2 นอกจากสอบข้อเขียนแล้ว ต้องสัมภาษณ์กับกรรมการเป็นภาษาไทยด้วยเป็นเวลา 40 นาที โหดดีค่ะ
ตัวอย่างข้อสอบภาษาไทย ระดับ 5 (ระดับง่ายสุด)
จงเติมคำลงในช่องว่าง
(……) สูบบุหรี่ที่นี่ครับ
ก. ห้า ข. ห้าม ค. หยุด ง. ไม่
ส่วนคนญี่ปุ่นคนไหน พูดภาษาไทยไม่ได้ ไม่เป็นไร มีการจัดสอบวัดระดับความรู้เกี่ยวกับเมืองไทย (タイ検定)แยกอีกเวทีค่ะ
เนื้อหาของการวัดระดับความรู้เกี่ยวกับเมืองไทยนี่ก็ค่อนข้างกว้าง เขาจะถามตั้งแต่สถานที่ท่องเที่ยว ประวัติศาสตร์ ขนบธรรมเนียม จนถึงอาหารการกิน การเดินทาง ชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย
ตัวอย่างข้อสอบ..
อยุธยา เมืองท่องเที่ยวชื่อดังของประเทศไทยอยู่ที่ไหน
ก. เป็นสถานที่ที่อยู่ห่างจากพระราชวังบางปะอินไป 80 กม.
ข. อยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร
ค. อยู่ขึ้นไปทางเหนือของกรุงเทพฯ ประมาณ 80 กม.
ง. เป็นหมู่เกาะแถบทะเลอันดามัน
อืม… ตัดข้อ ข. กับ ง. ทิ้ง แต่ไม่แน่ใจว่า ก. หรือ ค. นี่น่ะสิคะ (กลับไปประเด็นเดิมที่เกริ่นไว้ในข้อ 1. เรื่องคนญี่ปุ่นกับตัวเลข ข้าพเจ้าคนไทย ไม่ทราบว่า 80 กม. มันระยะประมาณไหน ใกล้หรือไกล ฮือๆๆ)
5. ทานถั่วเยอะมาก
อาหารประจำวันของคนญี่ปุ่นจะวนเวียนอยู่รอบๆ ถั่วเยอะมาก ตั้งแต่มิโสะที่ใส่ในซุป ซอสโชยุหรือซอสถั่วเหลืองที่ใช้ปรุงอาหาร เต้าหู้ ถั่วหมักนัตโตะ เวลาทานเหล้า กับแกล้มก็จะเป็นถั่วลิสงคั่ว ถ้าสั่งของหวานก็เป็นของจำพวกถั่วแดง
แต่ก็แปลกใจที่ไม่ค่อยเห็นคนญี่ปุ่นมีปัญหาเรื่องการผายลมในที่สาธารณะและเรื่องกลิ่น หรือมันเป็นความกลุ้มใจที่พวกเขาแอบซ่อนกันอยู่ไม่รู้ ไว้ต้องไปรีเสิร์ชเพิ่มค่ะ
6. สนใจประเทศอื่นๆ มากๆ
ด้วยความที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นเกาะ คนญี่ปุ่นจะสนใจโลกภายนอกตลอดเวลา รายการทีวีจะชอบไปสัมภาษณ์คนต่างชาติว่ามองญี่ปุ่นอย่างไร หรือไปถ่ายทำหลายๆ ประเทศแล้วนำมาออกอากาศ พวกรายการสารคดี วาไรตี้ พาเที่ยวพากิน จะพูดถึงชีวิตความเป็นอยู่ของคนประเทศนั้นประเทศโน้นเยอะมาก ดูแล้วสนุกดีมีสาระค่ะ
มีรายการหนึ่งที่ดิฉันเคยชอบดู คือ รายการชื่อ “อาหารเช้าจากทั่วโลก (世界の朝ごはん)”
เขาจะไปถ่ายทำคู่สามีภรรยาข้าวใหม่ปลามันที่อยู่ในต่างประเทศ พล็อทเรื่องก็จะเดิมๆ คือ เป็นภาพภรรยาทำอาหารอยู่ในครัว แต่ยังไม่ให้เห็นหน้า จนเธอปรุงอาหารทั้งหลายทั้งแหล่เสร็จ แล้วไปปลุกสามีที่นอนพังพาบอยู่บนเตียง (แขกรับเชิญบางคนอินเนอร์แรงมาก ลงทุนกรนเลยก็มี) จากนั้นทั้งคู่ก็นั่งทานข้าวที่โต๊ะแบบเลิฟๆ สุดท้าย ก็เปิดเผยโฉมหน้าภรรยา สามีก็จะกอด (บางทีก็จูบ) ภรรยา พร้อมกล่าวขอบคุณ จบแบบแฮ้ปปี้เอนดิ้ง
ไม่รู้เขาไปหาคู่ข้าวใหม่ปลามันที่ไหน และมีวิธีการเจรจาต่อรองอย่างไรให้แต่ละคู่เล่นกันสมบทบาทขนาดนี้ คุณผู้ชมคนไหนสนใจวิธีทำอาหารชาตินั้นๆ ก็เข้าไปในเว็บไซต์แล้วคลิกดูส่วนผสมและวิธีทำได้เลย เป็นรายการที่ทุ่มทุนมาก และสนุกมาก
แต่หลังจากดิฉันดูตอนที่รายการนี้ไปถ่ายทำคู่สามีภรรยาชาวไทยที่ภูเก็ต ดิฉันก็เลิกดูรายการนี้ไปเลย คุณภรรยาตื่นเช้าลุกจากเตียงมาทำต้มยำทะเล กับเนื้อผัดพริกไทดำให้คุณสามีเป็นอาหารเช้า คนบ้าอะไรจะกินต้มยำเป็นอาหารเช้า โจ๊ก ข้าวต้มอะไรงี้ไปไหน รู้สึกเหมือนถูกหลอก หลังจากนั้นก็ไม่ดูอีกเลย
7. สนใจประเทศตัวเองมากๆ ด้วย
นอกจากจะสนใจประเทศอื่นๆ ทั่วโลกแล้ว คนญี่ปุ่นยังสนใจประเทศตัวเองมากๆ ด้วย เห็นได้ชัดจากการถ่ายทอดการแข่งขันกีฬาต่างๆ ทั้งเบสบอล โอลิมปิค เอเชียนเกมส์ บอลโลก ไม่ว่าในช่วงเวลานั้น จะมีทีมดังแข่งกันอย่างไรก็ตาม แต่ถ้าเวลาไปชนกับคู่ที่ญี่ปุ่นแข่ง ทางสถานีโทรทัศน์ก็จะเลือกถ่ายทอดแต่นักกีฬาญี่ปุ่น
อย่างตอนบอลโลก ญี่ปุ่นแข่งกับโคลัมเบีย สื่อแต่ละช่องก็ส่งนักข่าวไปโคลัมเบีย ไปถ่ายทอดบรรยากาศการเชียร์ เท่านั้นไม่พอนักข่าวสาว (ผู้น่าสงสาร) ก็จำใจต้องเดินถือไมค์ไปถามคนโคลัมเบียหลายๆ คนด้วยว่า คิดเห็นยังไงกับแมทช์การแข่งกับญี่ปุ่นครั้งนี้
ไม่ว่าคนโคลัมเบียที่เจ๊ไปสัมภาษณ์เป็นอย่างไร สุดท้าย สื่อญี่ปุ่นก็จะถ่ายทอดคำสัมภาษณได้เป็นความรู้สึกคนโคลัมเบียว่า “ญี่ปุ่นเป็นทีมที่แข็งแกร่งมากเลย โคลัมเบียก็ลำบากใจ แต่ยังไงเราไม่ยอมแพ้หรอก!” เห็นสัมภาษณ์ทีไร ไม่ว่าชาติไหนๆ ก็ได้คอมเม้นท์ประมาณนี้ทุกที
สารภาพว่า ตอนแรกว่าจะเขียนคอลัมน์ประมาณว่า “ร้อยสิ่งที่คุณไม่เคยรู้เกี่ยวกับคนญี่ปุ่น” แล้วก็เขียนเป็นบรรทัดสั้นๆ แบบที่เขาฮิตๆ กัน แต่เขียนไปเขียนมาแล้วมันเผลอจิกกัด ติดลมบน กะจะอธิบายสัก 1-2 ประโยค ก็เผลอเม้าท์เป็นย่อหน้า บทความนี้เลยตัดแค่ 7 สิ่งที่คุณไม่น่าจะรู้เกี่ยวกับคนญี่ปุ่นก็แล้วกันค่ะ ใครคิดว่าคนอื่นไม่น่าจะรู้เรื่องแบบนี้เกี่ยวกับคนญี่ปุ่นหรอก ก็มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ!
แถม…
เรื่องอื่นๆ ที่คุณไม่รู้เกี่ยวกับคนญี่ปุ่น
8. เวลาอาบน้ำ ต้องใช้ผ้าขัดตัว ไม่งั้นจะรู้สึกอึดอัดไม่สบายตัว
9. แม้เป็นสามีภรรยากัน แต่ก็จะนอนฟูกคนละผืน
10. กระอักกระอ่วนมาก ถ้าต้องนอนเตียงเดียวกันกับเพื่อน
11. คิดว่าการนอนเปิดแอร์ทั้งคืน เป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อสุขภาพ
12. เวลาเข้า-ออกบ้าน/โรงแรม/ลิฟท์/ห้องประชุม จะต้องมีประโยคที่เป็นแพทเทิร์นบอกทักทายหรือกล่าวลาทุกครั้ง เช่น Ittekimasu, Tadaima, O-sakini
13. ไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนเอเชีย และไม่ลำบากใจด้วยที่จะไม่สังกัดอยู่กับทวีปใดๆ ญี่ปุ่นคือญี่ปุ่น
14. ห้ามคุยโทรศัพท์ในรถไฟ แต่คุยกับเพื่อนได้ ถ้าป้าข้างๆ ชวนคุยก็ตอบได้ (แล้วจะห้ามคุยมือถือไปทำไม)
15. พกผ้าขนหนู เวลาเข้าห้องน้ำ จะเอาผ้านี้ใช้ซับมือ การเช็ดมือกับกางเกงเป็นเรื่องที่ดูไม่ค่อยดีเท่าไร
16. อ่อนไหวกับคำว่า Limited Edition มากๆ ไม่ว่าจะเป็นขนมหรือกระเป๋า
17. ติสท์… ซึมซาบกับความงามของดอกซากุระ ใบไม้ร่วง เสียงจั๊กจั่น
18. ไม่ถนัด selfie
19. ไม่ถนัดการโพสท์รูปต่างๆ บน Facebook
20. แต่ชอบแอบบ่นงึมงำใน Twitter
ทักทายพูดคุยกับเกตุวดี ได้ที่ >>> Facebook เกตุวดี
ผักกาด! ดิฉันเริ่มพอจะเล่นทวิตเตอร์เป็นแล้ว 555 ใครเล่นทวิตเตอร์ มาติดตามความเวิ่นเว้อของเกตุวดีกันได้ที่นี่เลยจร้า https://twitter.com/Gadewadee_Maru
เพื่อนๆ ทราบหรือยังว่า คอลัมน์ Japan Gossip ของพวกเราถูกรวมเล่มเป็นหนังสือแล้ว!!! ชื่อ “Japan Gossip: เม้าท์ญี่ปุ่นให้คุณยิ้ม” มีแทรกการ์ตูนและเกร็ดเรื่องเล่าญี่ปุ่นเพิ่มด้วย
การ์ตูนปกน่ารักมาก แต่ยืนยันว่า เกตุวดีตัวจริงสวยและเซ็กซี่กว่า
ใครสนใจ ลองหาไว้วางในห้องน้ำเพื่อนั่งอ่านให้ขำยามเช้าตอนประกอบภารกิจ หรือจะซื้อฝากคนที่จะไปเที่ยว/เรียนญี่ปุ่นก็ได้ เราไม่ว่ากัน หาซื้อได้ตามร้านหนังสือทั่วไป เช่น ซีเอ็ด นายอินทร์ เลยค่ะ เล่มละ 180 บาท