สวัสดีขอรับ หมายเลขสิบเก้า มีประสบการณ์ทั้งตรงและฟังเค้าเล่ามา…มาแชร์ให้อ่านกัน เกี่ยวกับการเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง แล้ว ลืม!! หรือ พลาด!! บางทีก็มองข้ามเรื่องพวกนี้ไป จนเหตุการณ์เกิดขึ้นแบบ ณ ตอนนั้น อยากจะแก้ไขก็เกือบไม่ทัน หรือไม่ทันแล้ว
สวัสดีขอรับ หมายเลขสิบเก้า มีประสบการณ์ทั้งตรงและฟังเค้าเล่ามา…มาแชร์ให้อ่านกัน เกี่ยวกับการเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง แล้ว ลืม!! หรือ พลาด!! บางทีก็มองข้ามเรื่องพวกนี้ไป จนเหตุการณ์เกิดขึ้นแบบ ณ ตอนนั้น อยากจะแก้ไขก็เกือบไม่ทัน หรือไม่ทันแล้ว
1. ควรเช็กวันหมดอายุพาสปอร์ตก่อนเดินทางเนิ่น ๆ
ถ้ารู้ตัวว่ากำลังจะเดินทางไปเที่ยวประเทศไหนก็แล้วแต่ ควรศึกษาว่าพาสปอร์ตต้องมีอายุไม่น้อยกว่ากี่เดือนนับจากวันที่เดินทางไปเที่ยว ไม่งั้นถึงแม้จะผ่าน ต.ม. ไทยเราแล้ว แต่ประเทศปลายทางไม่ให้ผ่าน ก็ จบ โดนส่งตัวกลับ อดเที่ยวเลย สำหรับไปเที่ยวญี่ปุ่น ยืนพื้นสบายๆ ก็ 6 เดือนไปเลย เสียเวลาเปิดพาสปอร์ตเช็กวันหมดอายุดูซักนิด แล้วไปทำเล่มใหม่ ทำเนิ่น ๆ เสีย พันเดียว ทำเร่งด่วน เสีย สองสามพัน เลือกเรทราคาได้ตามใจชอบเลยขอรับ
แต่ถ้าอยากลองเสี่ยง
– ตอนเช็กอิน สายการบินจะเตือนว่าพาสปอร์ตคุณเหลือเวลาไม่ถึง 6 เดือนนะ
– ต.ม.ที่สนามบินไทยก็จะเตือนอีกรอบ แล้วกำชับให้ใจเสียว่า ต.ม. ญี่ปุ่นอาจจะไม่ให้ผ่าน
– ต.ม. ที่ญี่ปุ่นอาจจะมีคำถามเยอะเป็นพิเศษ อาจจะให้ผ่าน ไม่ผ่าน ก็แล้วพิจารณา
หมายเหตุ ต.ม. คือ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
หลายคนอาจจะไม่เห็นด้วยที่พาสปอร์ตยังไม่หมดอายุแล้วทำไมจะไปไม่ได้ เรื่องนี้หมายเลขสิบเก้าแค่มาเตือน ๆ กันก่อน เพราะมันเสียเวลาไปยืนลุ้น ยืนแก้ตัวกันหน้างาน กลัวคนอื่นที่ไปเที่ยวด้วยเค้าจะกังวลไปกับเราด้วยไง
ก็…อย่าลืมเช็กว่าจะไปเที่ยวญี่ปุ่น พาสปอร์ตควรมีอายุไม่น้อยกว่า 6 เดือนนับจากวันที่เดินทางไป เช็กของตัวเองแล้วอย่าลืมเตือนเพื่อนร่วมทริปด้วยนะขอรับ
2. เผื่อเวลาถึงสนามบินก่อนเดินทางอย่างน้อย 3 ช.ม.
สำหรับคนไปเที่ยวตปท. หรือญี่ปุ่นครั้งแรก ควรเผื่อเวลาไปถึงที่สนามบินก่อนเดินทางอย่างน้อย 3 ช.ม. หรือมากกว่าก็ดี เผื่อลืมของจำเป็น ลืมพาสปอร์ต หยิบพาสปอร์ตมาผิดเล่ม ลืมเอกสารรับรองต่างๆ หรือมีเรื่องต้องจัดการก่อนไปเช็กอิน ซื้อซิมเนต แลกเงิน จะได้มีเวลาจัดการกับสถานการณ์เหล่านี้ได้ ทางที่ดีก่อนเดินทางวันสองวันควรเช็กทุกอย่างให้เรียบร้อย จะได้ไม่ลุ้นระทึกจนวินาทีสุดท้าย
3. พาบุตรหลานไปเที่ยว ควรมีใบเกิด หรือใบรับรองไปด้วย
เรื่องนี้มองข้ามไม่ได้เลย ต.ม. ไทยเข้มงวดมาก ถ้าจะพาลูกหลานที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะไปเที่ยวด้วย และใช้คนละนามสกุล หรือไม่ได้เป็นพ่อแม่ของเด็กที่เราจะพาไป ควรทำหนังสือรับรองพกไปด้วย ไปติดต่ออำเภอหรือเขต เพื่อทำหนังสือยินยอมให้คนที่พาไปด้วยเป็นผู้ดูแลตลอดทริปนี้
เตรียมเอกสารตามนี้ https://bit.ly/2FYOoa5
ตอนเข้าเช็กเอกสารที่ ต.ม.ไทย อย่าลืมพาบุตรหลานเดินไปช่องเดียวกัน เพราะต้องยื่นเอกสารพร้อมกัน ถ่ายรูปด้วยกัน ตอนไป ต.ม. ญี่ปุ่นก็ให้เดินไปพร้อมกันเช่นกัน พกเอกสารติดตัวไว้อย่าทำหาย เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น ส่วนพ่อแม่พาลูกที่ยังไม่มีบัตรประชาชนไปด้วยให้พกใบเกิดตัวจริงติดไปด้วยขอรับ
4. ไม่ได้ทำประกันเดินทาง
ประกันเดินทางมีหลายแพคเกจให้เลือก หลักๆ ควรเน้นไปที่เรื่องสุขภาพกับอุบัติเหตุไว้ก่อนเป็นดี แล้วสิ่งครอบคลุมอื่น ๆ ก็แล้วแต่จะเลือกกันเลย สมัยนี้มีประกันที่มีล่ามและไม่ต้องสำรองจ่ายไปก่อนแล้วด้วย
เรื่องนี้ จำเป็นมั้ย บางคนก็ว่า ไม่จำเป็น เพราะร่างกายแข็งแรงอยู่แล้ว ดูแลตัวเองดีอยู่แล้ว แต่เกิดเจ็บปวด เกิดอุบัติเหตุ เครื่องบินดีเลย์ กระเป๋าพัง กระเป๋ามาไม่พร้อม เล่นสกีแล้วลื่น แพ้อาหารรุนแรง ท้องเสียฉับพลัน คุณจะนึกถึงประกันเดินทางขึ้นมาในหัวทันที เสียหลักร้อยทำประกัน ดีกว่าไปเสียหลักพันหลักหมื่นตอนไปเที่ยวนะขอรับ
5. ขากลับ น้ำหนักกระเป๋าเกินจนต้องเสียค่าปรับ
สมัยนี้สายการบินโลวคอร์สที่ไทยเรานิยมใช้บริการไปเที่ยวญี่ปุ่น พนักงานเคาเตอร์ที่โน้นเริ่มเข้มงวดการชั่งน้ำหนักมาพักใหญ่แล้ว เกินมานิดหน่อยก็จัดการปรับทันที ราคาก็ทำเอาหลายคนเข็ดจนจำขึ้นใจมาไม่น้อย ถ้ามีเวลาเดินออกจากแถวไปรื้อของทิ้งก็ดี แต่ถ้าวันนั้นคนเยอะ แล้วของที่ซื้อมาทิ้งไม่ได้ซักชิ้นจะทำกันยังไง ก็ต้องทำตามระเบียบเค้าไป แนะนำให้ซื้อเครื่องช่างน้ำหนักกระเป๋าเดินทางอันเล็ก ๆ พกไปด้วย ราคาหลักร้อยใช้ได้หลายทริปเลย ช่วยให้เราจัดกระเป๋าได้แบบไม่ต้องกังวล
6. ตกเครื่องขากลับ เข้าใจผิดเรื่องไฟลท์หลังเที่ยงคืน
หลายคนตกเครื่องขากลับเพราะเข้าใจผิดเรื่องวันและเวลา เช่น
ตั๋วระบุว่า กลับวันที่ 13 เวลา 00.10 นาที (เลยเที่ยงคืนจะนับเป็นวันที่ใหม่ แต่มันคือเที่ยงคืนสิบนาทีของวันที่สิบสองนั่นเอง) คือเราต้องไปเช็กอินที่สนามบินในคืนวันที่ 12 ก่อนขึ้นเครื่องซัก 3 ช.ม. ประมาณ 21.00 น. ควรถึงสนามบินและไปต่อคิวเช็กอินได้แล้ว ถ้าตกเครื่องแบบเปลี่ยนไฟท์ไม่ได้ล่ะก็ ได้ซื้อตั๋วใหม่ราคาแพงหูฉี่แน่ ๆ ขอรับ
เกือบทุกเรื่องที่เขียนมาแนะนำ หมายเลขสิบเก้าเจอกับตัวมาก็หลายข้อ และคนรอบข้างอีกหลายข้อ ยังไงก็อยากให้เที่ยวญี่ปุ่นกันด้วยความราบรื่น อย่ามาเจอเรื่องตื่นเต้นแบบนี้เลย มีประสบการณ์อะไรที่น่าสนใจมาแชร์กันที่เพจเฟสบุ๊ก marumura ได้นะขอรับ จุ๊บ ๆ
เรื่องแนะนำ :
– เตรียมตัวเที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อนยังไงดี
– รีวิวร้านอาหารโทโทโร่ May’s Garden House Restaurant สุขุมวิท 29
– Kabosu Shochu ค็อกเทลสไตล์ญี่ปุ่น ของดีเมืองโออิตะ
– รวมเรื่องราว April Fool’s Day 2018 ที่ญี่ปุ่น
– เที่ยวตลาดสดญี่ปุ่นแถบคันไซ