Tomorrow I will date with yesterday’s you ถึงแม้พล็อตธรรมดา ๆ แต่ก็สร้างความประทับใจได้แง่คิดซึ้ง ๆ หลายอย่างจากหนังเรื่องนี้เช่น…
วันอังคารที่ผ่านมามีโอกาสได้ไปดูเรื่อง Tomorrow I will date with yesterday’s you รอบสื่อมวลชนมาค่ะ ขอชื่นชมในความเนียนของเนื้อเรื่องและภาพที่สวยงามของสถานที่ต่างๆในเกียวโต เช่น สวนสัตว์เกียวโต ถนนยานิงิโคจิ สะพานซันโจ โรงภาพยนตร์เกียวโต มินามิไคคัง สวนพฤกษศาสตร์เกียวโต ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ ฯลฯ
จะว่าไปแล้วพล็อตเรื่องก็ไม่ใช่เป็นเรื่องใหม่แต่อย่างใด และคนดูก็สามารถเดาเนื้อเรื่องได้ทั้งหมดตั้งแต่ดูช่วงแรก ๆ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับพระเอกและนางเอกที่มีชีวิตอยู่บนโลกคู่ขนาน เวลาของพระเอกนั้นเดินไปข้างหน้าแต่เวลาของนางเอกกลับเดินถอยหลัง และทั้งสองจะได้พบกันเพียง 30 วันในทุก ๆ 5 ปีในวัยที่ต่างกัน (เพราะเวลาของทั้งสองสวนทางกัน) แม้จะเป็นพล็อตธรรมดา ๆ แต่ดิฉันก็มีความประทับใจได้แง่คิดซึ้ง ๆ หลายประการจากหนังเรื่องนี้โดยการวิเคราะห์ของดิฉันค่ะ
1) ความรักคือสิ่งสวยงาม
พระเอกบอกว่า “เราต้องการที่จะแบ่งปันทุกอย่างร่วมกับคนที่เรารัก” ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ที่เราชอบไป อาหารที่เราชอบกิน คนในครอบครัวที่เรารัก เพื่อนที่เราคบ กิจกรรมที่เราชอบทำ ประโยคนี้จิกหมอนค่ะ ฟินมาก ๆ ความรักที่ดียังทำให้เราสามารถแสดงตัวตนที่ดีที่สุดออกมา ในช่วงแรกพระเอกในเรื่องดูเป็นคนเนิร์ดๆที่ไม่มีเสน่ห์เลยแม้แต่น้อย แต่พอได้คบกับนางเอกแล้วพระเอกของเรากลับดูหล่อขึ้น น่ารักขึ้นเรื่อยๆค่ะ นั่นเป็นเพราะนางเอกเห็นข้อดีและยอมรับในตัวตนของเขา อีกทั้งยังสร้างความมั่นใจให้เขาอีกด้วย นี่สินะคะที่เรียกว่าความรัก อิๆ
2) รักษาความสัมพันธ์กับคนที่เรารักให้ดีที่สุดตราบเท่าที่เรายังมีเวลา
หนังเรื่องนี้ดูเหมือนจะเศร้าเพราะทั้งพระเอกนางเอกรู้ตัวดีว่าความทรงจำอันแสนประทับใจนั้นจะอยู่กับเขาทั้งสองเพียงไม่นานและมันก็จะไม่มีวันหวนกลับมาอีก แต่จะว่าไปแล้วชีวิตของคนทุกคนที่เกิดมาก็ไม่ต่างกัน เราเกิดมาเพื่อได้พบกับคนที่เรารักและก็ต้องจากกันไปไม่วันใดก็วันหนึ่ง การไม่เข้าใจกัน ถือทิฐิ สร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้แก่กันมีแต่จะทำให้ทรมานใจและเสียเวลาเปล่า ๆ การใช้ช่วงเวลาที่มีอยู่ให้ดีที่สุดต่างหากที่จะเป็นความทรงจำที่ประทับใจไปนานแสนนานถึงแม้ว่าในวันข้างหน้าเราจะยังได้เจอคนที่เรารักอยู่หรือไม่ก็ตาม
3) ความรักของพ่อแม่นั้นยิ่งใหญ่เสมอ
ในหนังมีฉากที่พระเอกพานางเอกไปเยี่ยมพ่อแม่ที่บ้านเกิด ถึงแม้พ่อพระเอกจะเก็กหน้าดุตามสไตล์พ่อชาวญี่ปุ่นที่ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกต่อลูกมากนัก เพราะโดยปรกติครอบครัวชาวญี่ปุ่นจะมอบหมายให้แม่เป็นคนดูและอบรมเลี้ยงลูกมากกว่า ส่วนพ่อก็จะมีหน้าที่ทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพ่อจะไม่รักไม่ห่วงลูก ดิฉันคิดว่าหลาย ๆ ครอบครัวก็เป็นแบบนี้เช่นกัน การไม่แสดงออกไม่ได้แปลว่าไม่รัก ไม่ห่วง พ่อแม่ทุกคนย่อมรักและห่วงใยลูกเสมอค่ะ
4) การค้นพบความถนัดของตัวเอง
พระเอกในเรื่องชอบวาดรูปมาตั้งแต่เด็ก จนเขาได้เรียนศิลปะและก็ใฝ่ฝันที่จะได้ทำงานในด้านนี้ ดิฉันคิดว่าการค้นพบความถนัดของตัวเองเป็นปัจจัยแห่งความสุขและความสำเร็จของคนเราเพราะเมื่อเราค้นพบว่าเราเกิดมาเพื่ออะไร เราจะมีความชัดเจนในทุกเรื่องว่าจะพัฒนาตัวเองอย่างไร ทำงานกับใคร งานจะเป็นแบบไหน และจะมีความสุขมากขึ้นชนิดที่ว่ามิอาจทดแทนด้วยเงินทอง เกียรติยศ ชื่อเสียงใด ๆ
ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้ก่อนที่จะเป็นการสปอยจนเกินไป แนะนำว่าให้ไปดูกันค่ะ
สามารถติดต่อพูดคุยกับพิชชารัศมิ์ได้ที่ FB: Life Inspired by พิชชารัศมิ์
ทักทายพูดคุยกับพิชชารัศมิ์ ได้ที่ >>> Life Inspired by พิชชารัศมิ์
เรื่องแนะนำ :
– หรือหุ่นยนต์จะทำงานแทนคน
– ความใส่ใจในการบริการของโรงแรมญี่ปุ่น
– ฝึกให้ไม่คิด 2
– กัมบัตเตะเนะ สู้ ๆ ในปีใหม่ 2560 นะคะ
– บริษัท Jeplan กับ Delorean จากภาพยนตร์ Back to the Future ที่ขับเคลื่อนจากขยะรีไซเคิล
– ตกหลุมรักในงาน