มาสคอตของ Tokyo Olympic จะใช้ชื่อว่า มิไรโตะวะ (MIRAITOWA) ส่วน Paralympic จะใช้ชื่อว่า โซเมตี้ (SOMEITY) เรามาทำความรู้จักกับมาสคอตทั้งสองตัวนี้กันดีกว่าค่ะ
ในปีหน้าหรือปี 2020 ที่กำลังจะมาถึงจะมีการจัด Tokyo Olympic และ Paralympic 2020 ที่กรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น
โดยมีชื่ออย่างเป็นทางการว่ากีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 32 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 กรกฎาคม – 9 สิงหาคม 2020 และกีฬาพาราลิมปิกโตเกียว 2020 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม – 6 กันยายน 2020 ซึ่งมาสคอตของกีฬาโอลิมปิกจะใช้ชื่อว่า มิไรโตะวะ (MIRAITOWA) ส่วนพาราลิมปิกจะใช้ชื่อว่า โซเมตี้ (SOMEITY) เรามาทำความรู้จักกับมาสคอตทั้งสองตัวนี้กันดีกว่าค่ะ
• มิไรโตะวะ (MIRAITOWA) มาสคอตประจำโตเกียวโอลิมปิก 2020 สัญลักษณ์แห่งอนาคต
มาสคอตประจำกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 32 หรือโตเกียวโอลิมปิก มาในรูปแบบของลายตารางหมากรุกสีน้ำเงินคราม ปกคลุมทั้งส่วนศีรษะและลำตัว ซึ่งลายตารางหมากรุกนี้ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า อิชิมัตสึ มาโย (Ichimatsu Moyo) ถูกใช้ครั้งแรกในสมัยเอโดะ และมักนิยมใช้เป็นลวดลายในชุดกิโมโน ซึ่งลายตารางหมากรุกนี้ก็ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของโตเกียวโอลิมปิก 2020 ด้วยเช่นกัน
มิไรโตะวะ (MIRAITOWA) นั้นจะมีบุคลิกที่แสดงออกตามสุภาษิตโบราณของญี่ปุ่นที่ว่า
เรียนรู้สิ่งเก่า ๆ เพื่อนำมาพัฒนาให้เกิดสิ่งใหม่
MIRAITOWA จึงถือเป็นตัวแทนของการรวมกันของคำว่า “วัฒนธรรม” และ “นวัตกรรม” เข้าด้วยกันนั้นเอง
MIRAITOWA นั้นมีความแข็งแกร่ง และรักในความยุติธรรม มีพลังพิเศษในการเคลื่อนที่ไปไหนก็ได้โดยทันที
ที่มาของชื่อ มิไรโตะวะ (MIRAITOWA) มาจากภาษาญี่ปุ่น 2 คำด้วยกันคือ มิไร (Mirai) ที่แปลว่า “อนาคต” เข้ากับคำว่า โทวะ (Towa) ที่แปลว่า “นิรันดร์” โดยชื่อนี้ได้ถูกเลือกให้กับมาสคอตของโตเกียวโอลิมปิกปี 2020 เพื่อส่งเสริมอนาคตที่เต็มไปด้วยความหวังตลอดไปในหัวใจของทุกคนในโลกนั้นเองค่ะ
• โซเมตี้ (SOMEITY) มาสคอตประจำกีฬาพาราลิมปิก 2020 สัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่และจิตใจที่แข็งแกร่ง
มาสคอตประจำกีฬาพาราลิมปิก 2020 มาในลายตารางหมากรุกสีชมพูสดใส ซึ่งมาพร้อมกับเซนเซอร์รูปกลีบดอกซากุระบนศรีษะ และโซเมตี้ (SOMEITY) ยังสามารถรับ-ส่ง กระแสจิตผ่านหนวดรูปกลีบดอกซากุระที่ติดอยู่กับใบหน้าได้อีกด้วย
นอกจากนี้ SOMEITY ยังสามารถบินได้โดยใช้ผ้าคลุมลายตารางหมากรุกสีชมพูที่อยู่ทางด้านหลัง
SOMEITY มีนิสัยที่ค่อนข้างจะเงียบ แต่ก็สามารถแสดงพลังที่ซุกซ่อนอยู่ภายในได้เมื่อถึงคราวจำเป็น เปรียบได้กับนักกีฬาพาราลิมปิกที่สามารถแสดงพลังและความแข็งแกร่งที่ซุกซ่อนอยู่ภายในได้นั้นเอง SOMEITY นั้นเต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง สง่างาม และรักในธรรมชาติ นอกจากนี้ความสามารถพิเศษของ SOMEITY คือสามารถพูดคุยกับก้อนหินและสายลมได้ รวมทั้งยังสามารถเคลื่อนย้ายวัตถุต่าง ๆ ได้เพียงแค่ใช้สายตามองเท่านั้น
ที่มาของชื่อโซเมตี้ (SOMEITY) มาจากชื่อพันธุ์ของดอกซากุระที่ชื่อว่าโซเมโยชิโนะ (Someiyoshino) ซึ่งเป็นดอกซากุระที่มีเอกลักษณ์และพบมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยซากุระพันธุ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติแต่ถูกมนุษย์เพาะพันธุ์ขึ้นมาในสมัยเอโดะ ซึ่งชื่อของซากุระพันธุ์นี้ก็เป็นชื่อของหมู่บ้านที่วางขายซากุระพันธุ์นี้เป็นที่แรกนั้นเองค่ะ และนอกจากนี้ยังไปพ้องเสียงกับคำว่า “So Mighty” ที่แปลว่า “ความยิ่งใหญ่” อีกด้วย
SOMEITY ที่มีหนวดเป็นกลีบดอกซากุระ และพลังที่แข็งแกร่งจะแสดงให้เห็นถึงพลังแห่งความรักและการเอาชนะในอุปสรรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นและก้าวข้ามขีดจำกัดของร่างกายสร้างความประทับใจไม่รู้ลืมในการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิก 2020 นั้นเอง
ซึ่งมาสคอตทั้งสองตัวนี้ได้รับการคัดเลือกจากนักเรียนชั้นประถมกว่า 16,769 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่นหรือมากกว่า 6.5 ล้านคนโดยรวมไปถึงสถาบันการศึกษาสำหรับคนตาบอดก็จะได้รับมาสคอตสามมิติเพื่อใช้ในการตัดสินใจในการคัดเลือกอีกด้วย
ซึ่งการเปิดโอกาสให้นักเรียนประถมได้มีส่วนร่วมในการคัดเลือกมาสคอตที่ชื่นชอบด้วยตัวของพวกเขาเอง แสดงให้เห็นว่าประเทศญี่ปุ่นนั้นให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชนเป็นอย่างมากไม่แพ้ผู้ใหญ่เพราะสุดท้ายแล้วเยาวชนเหล่านี้ก็คือพลังขับเคลื่อนที่จะนำประเทศให้พัฒนาต่อไปได้นั้นเองค่ะ
เรื่องแนะนำ :
– ทำความรู้จัก 5 เครื่องดนตรีโบราณของประเทศญี่ปุ่น
– 7 เหตุผลยอดฮิตที่ทำให้ไปเที่ยวญี่ปุ่นกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ
– “Giri Choco” ธรรมเนียมปฏิบัติที่กำลังได้รับการต่อต้าน
– วางขายแล้ว!! Pokémon TCG การ์ดเกมโปเกมอนฉบับภาษาไทยลิขสิทธิ์แท้จากญี่ปุ่น
– ดังโงะ (Dango) ขนมโบราณที่อยู่คู่กับคนญี่ปุ่นมานับร้อยปี
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก :
https://tokyo2020.org/en/special/mascot/
https://education.tokyo2020.org/en/mascots/#vote