ทิ้งความวุ่นวายของเมืองกรุง มุ่งตรงสู่ชิโกกุ ดินแดนแห่งธรรมชาติ และอาหารแสนอร่อย
ตื่นเต้นระทึกใจกับธรรมชาติลึกลับในภูมิภาคชิโกกุ – จังหวัดโทคุชิมะ EP.2
ใน EP.2 นี้เราพาไปเที่ยวกันต่อในจังหวัดโทคุชิมะ โดยเปลี่ยนจากทะเล มาฝั่งภูเขากันบ้าง
(ใครที่ยังไม่ได้อ่านEP.1 ตามได้จากลิงค์นี้เลยนะ >> ตื่นเต้นระทึกใจกับธรรมชาติลึกลับในภูมิภาคชิโกกุ – จังหวัดโทคุชิมะ EP.1)
ครั้งนี้จะพาเที่ยว ดื่มด่ำทิวทัศน์แบบสโลว์ไลฟ์ และตื่นตาไปกับความงามที่แฝงไปด้วยความลึกลับของธรรมชาติในย่านหุบเขาอิยะกันค่ะ
บริเวณหุบเขาอิยะ (祖谷渓 / Iya Keikoku) “1 ใน 3 Unseen ของญี่ปุ่น” ที่อยากแนะนำให้ลองไปเยือนดูสักครั้ง
และหากคุณเป็นคนที่ชอบท่องเที่ยวแนวธรรมชาติแล้วละก็ ขอบอกเลยว่าห้ามพลาดที่จะมาเยือนมากๆ ค่ะ
ทิวเขาสลับซับซ้อนที่ปกคลุมไปด้วยแมกไม้นานาชนิด ให้ความสวยงามแตกต่างกันในแต่ละฤดู ที่ตัดกับแม่น้ำสีเขียวมรกตเป็นภาพที่ตราตรึงใจต่อผู้มาเยือน
และด้วยความงดงามนี้ ทำให้หุบเขาอิยะได้รับรางวัลสองดาวจากมิชลินกรีนไกด์ และในปี 2018 ก็เป็นสถานที่แห่งเดียวในญี่ปุ่นที่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 50 สถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดจากนิตยสารท่องเที่ยวของอเมริกา Travel + Leisure อีกด้วย
ฤดูกาลที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาเยอะที่สุด น่าจะเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี (ปลายตุลาคม) ที่จะสามารถเห็นความงดงามของใบไม้สีแดงส้มที่แต่งแต้มบนภูเขาแบบพาโนราม่า
ครั้งนี้เราเดินทางกันช่วงเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อน ความเขียวขจีและอากาศแสนสดชื่นก็เป็นอีกเสน่ห์ที่ดึงดูดได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ยิ่งตอนเช้าๆ ที่มีทะเลหมอกสีขาวลอยระเรื่อยไปตามทิวเขา เป็นภาพที่ประทับใจ ยากจะลืมจริงๆ ค่ะ
จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจในย่านนี้ก็มีหลากหลายเลยค่ะ ครั้งนี้เราไปตามเก็บพิกัดปังๆ ที่จัดว่าเด็ดมาให้ตามรอยกัน ไม่ชักช้าค่ะ ตามไปเที่ยวกันเลย…
อนุสาวรีย์เด็กชายยืนฉี่ Shobenkozo (祖谷渓の小便小僧像 / Manikin Peeing Boy Statue)
เด็กชายจอมทะเล้นใจกล้าผู้โด่งดังที่สุดในย่านนี้ ที่กลายเป็นพิกัดสุดปัง ใครไปใครมาก็ต้องแวะมาถ่ายรูปกับน้อง
รูปปั้นนี้สร้างมาเพื่อระลึกถึงวีรกรรมแสนซ่าของเหล่าหนุ่มเล็ก หนุ่มใหญ่ เด็กน้อยใจกล้าทั้งหลาย ที่ไปยืนยิงกระต่ายกันบนหน้าผาสูงราว 200 เมตร แข่งกันว่าใครจะกล้าหาญกว่ากัน
แต่หนุ่มๆ คะ ก่อนจะไปยิงกระต่าย หนุ่มๆ ควรพึงรู้อีกอย่างว่า หน้าผานี้นอกจากจะสูงแล้ว ยังเสี่ยงต่อสายลมที่จะปะทะขึ้นมาจากด้านล่างด้วยนะ …
ถ้ายืนปล่อยนานๆ อาจมีสายน้ำสีทองแสนชุ่มฉ่ำปะทะหน้าให้ตกใจก็ได้นะจ้ะ…
*ปัจจุบัน ไม่อนุญาตให้ไปยืนยิงกระต่ายตรงหน้าผาแล้ว อย่าแอบย่องไปชุ่มฉ่ำกันนะ
บริเวณหน้าผาที่เป็นส่วนตั้งฐานของรูปปั้นจะมีเหรียญวางอยู่ เท่าที่ถามคนในพื้นที่เค้าก็บอกว่า อันนี้ก็ไม่รู้เช่นกันว่าใครเป็นคนเริ่ม เเละโยนเหรียญเพื่ออะไร บ้างก็ว่าเพื่อความเป็นสิริมงคลใครโยนเหรียญเเล้วไม่หล่นลงไปด้านล่างก็ถือว่าสิ่งที่อธิษฐานนั้นสัมฤทธิ์ผล!! (รึป่าวน้า…..)
ไหนๆ ก็มาแล้วงั้นเราก็มาเล็งกันให้แม่น ตั้งจิตให้มั่นคงเเล้วอธิษฐานเข้าเป้ากันจ้ะ ….
ตรงจุดนี้ เป็นเส้นทางที่ค่อนข้างคดเคี้ยว และไม่มีลานจอดรถนะคะ ใครขับรถมาเองก็ค่อยๆ ขับกันนะ และจอดรถก็พยายามจอดให้ชิดๆ ขอบ เพราะถนนค่อนข้างแคบค่ะ
อนุสาวรีย์เด็กชายยืนฉี่ Shobenkozo ที่ตั้ง >> https://goo.gl/maps/uRJ6s9RSxwKWr3HS9
สะพานคาสุระบาชิแห่งอิยะ (祖谷のかずら橋 / The Vine Bridge of Iya Valley)
สะพานคาสุระบาชิ แขวนอยู่เหนือน้ำ 14 เมตร ที่ทำจากเถาวัลย์ต้นวิสเทอเรีย ทอดตัวข้ามแม่น้ำท่ามกลางหุบเขาลึก
ถึงแม้จะค่อนข้างห่างไกล แต่ด้วยความงดงามของตัวสะพาน และธรรมชาติรอบๆ จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวมากมายดั้นด้นไปชมกันอย่างไม่ขาดสาย…
นอกจากนี้ ที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมพื้นบ้านที่จับต้องได้ของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย….
สะพานแห่งนี้ มีเรื่องเล่าขานต่อๆ กันมาว่า ในอดีตที่นี่เป็นแหล่งซ่อนตัวของเหล่าผู้คนหลากหลาย ทั้งผู้ลี้ภัยสงครามโรนิน(ซามูไรไร้นาย) โจรป่า รวมไปถึงผู้คนในท้องถิ่นเองด้วย
และต่อมาได้มีการสร้างสะพานแขวนขึ้นมาโดยสร้างจากเถาวัลย์ต้นวิสเทอเรีย ถักทอเข้าด้วยกัน เพื่อใช้เป็นสะพานสำหรับการสัญจรข้ามแม่น้ำเหนือหุบเขาอิยะ
“Kazurabashi Yume Butai” จุดเริ่มต้นเดินไปชมสะพานคาสุระบาชิ ลานจอดรถกว้างมาก มีห้องน้ำไว้บริการด้วยก่อนไปเดินสะพานก็แวะทำธุระที่นี่ก่อนได้เลย
ด้านในมีของฝากขายเยอะมาก และยังมี Kazurabashi Story Museum (かずら橋ストーリー館) ให้ได้ศึกษาข้อมูลความเป็นมาของสะพาน และวิธีสร้าง บูรณะซ่อมแซมสะพานอีกด้วย
ระหว่างทางเดินไปสะพาน มีร้านขายของเยอะมากค่ะ ขนมพื้นเมืองของฝากเล็กๆ น้อยๆ ช่วงหน้าร้อนก็จะมีพวกน้ำแข็งใสมาขายด้วย เป็นอีกสีสันของการเที่ยวช่วงฤดูนี้เลย
เดินชมวิว แอบมองเมนูตามร้านข้างทางไปแป๊ปเดียวก็มาถึงแล้วค่ะ ตอนที่มาถึงคนยังไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ ถ่ายรูปได้สบายๆ เลย
แวะถ่ายรูปจากมุมสูงกันซักนิด แล้วเดินต่อเพื่อไปซื้อบัตรข้ามสะพานกันค่ะ…
จุดขายบัตรจะอยู่ข้างๆ สะพานเลย ชำระค่าข้ามสะพานแล้วก็ไปลุยกันเลย ดูซิว่าจะตื่นเต้นหรือน่ากลัวจริงมั้ย….
ไม่ไกลจากสะพานมีน้ำตกบิวะ (Biwa Waterfall) ให้ไปชมกันด้วยค่ะ น้ำตกที่มีความสูงประมาณ 25 เมตร
ว่ากันว่ามีความเกี่ยวข้องกับตำนานตระกูลไทระผู้หลบหนีสงครามที่ได้มาซ่อนตัวอยู่ในที่แห่งนี้ และได้มานั่งบรรเลงเพลงจากพิณบิวะ (琵琶) เพื่อขับกล่อมให้คลายความเหงาและระลึกถึงบ้านเกิดที่จากมา ชื่อน้ำตกนี้จึงเป็นชื่อพ้องจากเครื่องดนตรี พิณบิวะ (琵琶) นั่นเอง…
และบริเวณใกล้ๆ ยังมีทางเดินให้เราได้ลงไปเล่นน้ำในลำธารได้อีกด้วย น้ำใสน่าเล่นมากๆ เลย ช่วงฤดูร้อนจะเห็นครอบครัวคนญี่ปุ่นพาลูกๆ มาเล่นน้ำกันหนาตาเลยแหล่ะ…
เที่ยวกันจนใกล้ค่ำ ได้เวลาไปเช็คอินเข้าที่พักกันแล้วค่ะ คืนนี้เราเลือกพักที่เรียวกังไม่ไกลจากสะพานคาสุระบาชิ ห่างออกไปแค่ 5 นาทีเอง ที่เลือกพักที่นี่เพราะอยากมาดูสะพานตอนไลท์อัพด้วย
สะพานคาสุระบาชิ จะมีการประดับไฟไลท์อัพทุกคืน ตั้งแต่เวลา 19.00 น. – 21.30 น. ในช่วงนี้เราจะไม่สามารถข้ามสะพานได้นะคะ ใครที่ชอบความสวยงามแบบท้าทายลองหาโอกาสไปชมตอนช่วงกลางคืนกันบ้าง รับรองว่า สวยงามไม่แพ้ช่วงกลางวันเลย
ชินอิยะออนเซ็น โฮเทลคาสุระบาชิ (Hotel Kazurabashi)
ย่านอิยะ เป็นอีกแห่งในจังหวัดโทคุชิมะว่ามีออนเซ็นดี อุดมไปด้วยแร่ธาตุหลากหลายชนิดที่ช่วยให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่งและที่เป็นไฮไลท์ก็คือบ่อออนเซ็นกลางแจ้ง ซึ่งต้องนั่งเคเบิ้ลคาร์ไป หูยยย แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว ไปเช็คอินกันเถอะค่ะ…
ห้องกว้างมากกกกก จัดแบ่งสัดส่วนได้ดี ใช้สอยสะดวกมากค่ะ เตียงนอนก็นุ่มสบาย
ภายในห้องมีของไว้ให้ใช้ครบถ้วน แถมยังมีเก้าอี้นวดให้ด้วย ที่สำคัญอ่างอาบน้ำส่วนตัว เห็นวิวหุบเขาอิยะด้วยจ้า…….
ไปดูเรื่องอาหารกันบ้างค่ะ ต้องขอชมจากใจเลยว่า ทุกจานอร่อยยยยยย ย้ำอีกทีว่าอร่อยยยยย แต่ละเมนูนอกจากจะใส่ใจในเรื่องรสชาติและวัตถุดิบที่นำมาปรุงแล้ว ยังมีกิมมิคเล็กๆ น้อยๆ อีก แค่ออเดิร์ฟจานแรกก็ตื่นเต้นแล้วค่ะ
เมนูแรกที่ทางโรงแรมนำมาเสิร์ฟมีชื่อว่า ยุซันบาโกะ ขอเรียกว่ากล่องยุซันนะคะ กล่องยุซันจะมีลักษณะเป็นกล่องปินโตสามชั้น แต่เดิมคุณพ่อคุณแม่จะทำกล่องปินโตนี้ให้เด็กๆ ได้เอาไปรับประทานตอนออกไปเล่นบนภูเขากัน
ปัจจุบันจะทำให้เด็กๆ ในวาระพิเศษเช่นตอนเทศกาลเซคคุ ซึ่งเป็นงานเทศกาลดั้งเดิมของ
ประเทศญี่ปุ่น เพื่อขอพรให้เด็กๆ เติบโตขึ้นอย่างมีความสุขร่างกายแข็งแรง หน้าตาอาหารข้างในกล่องก็จะประมาณนี้ ….
ส่วนอันนี้เรียกว่า “เดโกะมาวาชิ” เป็นอาหารพื้นเมืองของเมืองมิโยชิ จังหวัดโทคุชิมะ ลักษณะคล้ายกับตุ๊กตาไม้ของญี่ปุ่น สิ่งที่นำมาเสียบไม้จะเป็นคอนยัคกุ(บุก) เต้าหูแข็ง เผือก และมันฝรั่งมาเสียบให้เป็นรูปร่างเหมือนตุ๊กตา แล้วนำไปย่างบนเตาถ่านทาด้วยซอสมิโซะ พอย่างแล้วจะหอมมากๆ เลยค่ะ
เป็นอีกเมนูที่ห้ามพลาด ถ้ามาเที่ยวย่านนี้กันนะคะ
อีกกิจกรรมหลังอาหารเย็น ใครอยากไปชมไลท์อัพสะพานคาสุระบาชิ ทางเรียวกังมีรถน่ารักๆ ไว้คอยบริการรับส่งด้วยนะคะ
บ่อออนเซ็นกลางแจ้งวิวหลักล้าน ที่ต้องนั่งเคเบิ้ลคาร์ไป ไฮไลท์ของชินอิยะออนเซ็น โฮเทลคาสุระบาชิ (Hotel Kazurabashi) เคเบิ้ลคาร์จะไม่มีคนคอยคุมนะคะ เราเข้าไปแล้วกดปุ่มเองเลย ตอนเช็คอินพนักงานจะมีแผ่นพับอธิบายวิธีใช้งานให้อย่างละเอียด
แต่ถ้ากังวลก็สามารถเรียกให้พนักงานมาช่วยดูแลให้ได้ค่ะ หรือถ้าใครอยากเดินออกกำลังกายก็จะมีทางเดินขึ้นมาด้วยค่ะ
บ่อออนเซ็นกลางแจ้งจะมีทั้งบ่อรวมที่แยกชาย – หญิง และบ่อส่วนตัวให้เลือกใช้ บ่อส่วนตัวจำเป็นจะต้องมีค่าใช้จ่ายต่างหากและต้องจองล่วงหน้าที่ฟร้อนต์นะคะ
วิวข้างบนขอบอกว่าสวยมากๆ มีมากกว่าออนเซ็น แนะนำว่าให้เผื่อเวลามาเยอะๆ เลย เพราะบริเวณกว้างมากๆ ไปชมจากรูปกันเลยค่ะ
จุดแรกจะเป็นบ่อออนเซ็นห้องส่วนตัวมี 2 ห้องนะคะ
ส่วนอันนี้จะเป็นห้องแบบรวม ฝั่งของผู้หญิงค่ะ (ของผู้ชายไม่มีรูปนะคะ ) มีบ่อใหญ่ 1 บ่อและอ่างแช่เล็กๆ อีก 2 อ่าง
มีโซนให้นั่งพักในห้องญี่ปุ่นเล็กๆ ที่ชมวิวทิวเขาได้ด้วยค่ะ
แช่ออนเซ็นเสร็จแล้วก็อย่าเพิ่งกลับนะคะ อย่างที่บอกค่ะ เผื่อเวลาไว้มาดื่มด่ำข้างบนเยอะๆ เลย เพราะมีพื้นที่กว้างมากๆ ทั้งสวนญี่ปุ่นที่จัดไว้อย่างประณีต และอาชิยุ บ่อแช่เท้าพร้อมวิวทิวเขาอิยะแบบพาโนราม่าเลย นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำชาไว้บริการอีกด้วยค่ะ
ชินอิยะออนเซ็น โฮเทลคาสุระบาชิ (Hotel Kazurabashi) >> https://www.kazurabashi.co.jp/
จุดชมวิวหมู่บ้าน Ochiai (National Heritage Area Ochiai Village Observatory, 落合集落展望所)
ดื่มด่ำกับออนเซ็นและวิวของโรงแรมแบบแทบอยากจะหยุดเวลาไว้ แต่ก็ต้องทำใจเช็คเอาท์เพื่อที่จะเที่ยวไปจุดต่อไป เช้านี้เราจะไปโสลไลฟ์ต่อกันที่จุดชมวิวหมู่บ้านโอจิอาอิ
ก่อนที่จะไประทึกใจกับหุบเขาโอโบเกะกัน จากจุดชมวิวนี้เราสามารถมองเห็นวิวของหมู่บ้านได้ชัดเจนเลยแหละค่ะ ….
หมู่บ้าน Ochiai ที่สร้างบนเนินเขาสูงชันท่ามกลางหุบเขาอิยะ ยังคงหลงเหลือร่องรอยสถาปัตยกรรมบ้านเรือนแบบ คะยะบุกิ (Kayabuki)ที่สร้างขึ้นในช่วงสมัยเอโดะตอนกลาง ซึ่งตอนนี้
เหลือแค่ไม่กี่หลังเท่านั้นและยังเป็นเขตอนุรักษ์กลุ่มอาคาร สถาปัตยกรรม และสิ่งปลูกสร้างดั้งเดิมทรงคุณค่าของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย ณ.ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานยืนยันได้ว่าหมู่บ้านนี้เริ่มต้น
มาตั้งแต่เมื่อไหร่ มีเพียงตำนานเล่าขานต่อๆกันมาว่าอาจมีความเกี่ยวข้องกับตระกูลไทระตระกูลเฮเกะ (Taira) หนึ่งในตระกูลนักรบเก่าแก่ในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นที่ได้หลบหนีมาปักหลัก
หลังจากพ่ายแพ้สงคราม ที่หมู่บ้านนี้เราสามารถมาพักแบบโฮมสเตย์เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตสไตล์ชนบทของญี่ปุ่นกันได้ด้วยนะ ใครที่ชอบความงดงามในความลี้ลับไม่ควรพลาดทีเดียว…
จุดชมวิวหมู่บ้าน Ochiai ที่ตั้ง >> https://goo.gl/maps/67zV1kDY3kCzg2Tq8
”อิยะโซบะ” ร้าน Momijitei (祖谷そば もみじ亭)
แวะรับประทานอาหารกลางวันกันก่อน มื้อนี้เรามาแวะกันที่ร้าน Momijitei ร้านนี้คนในท้องถิ่นแนะนำมาว่าถ้าผ่านมาแถวนี้ต้องแวะ เพราะเป็นร้านดังและอร่อยๆ มากๆ แถมบรรยากาศยังดีอีกด้วย
ตัวอาคารเป็นบ้านที่รีโนเวทมาจากบ้านเก่าที่มีอายุกว่า 200 ปีจากหมู่บ้าน ตระกูลเฮเกะ (Taira) และเส้นโซบะก็ทำด้วยมือของทางร้าน พิถีพิถันทำตามสูตรแบบดั้งเดิม
ว่ากันว่าอิยะโซบะเป็นอาหารที่สืบทอดมาจากตระกูลเฮเกะด้วยค่ะ ลักษณะของเส้นโซบะจะต่างกับที่อื่นๆ ตรงที่ไม่ค่อยมีความหนึบ พอคีบเส้นขึ้นมาจะขาดง่าย เพราะผสมแป้งโซบะเป็นจำนวนมากกว่าส่วนที่เป็นตัวยึดแป้งให้มีความนุ่มเหนียว พอเคี้ยวแล้วจะสัมผัสได้ถึงรสของโซบะอย่างเต็มที่
เมนูขึ้นชื่อ ที่อยากให้ลอง “สุดาจิโซบะ” ส้มสุดาจิที่ฝานใส่ถ้วยมาแบบไม่ยั้ง จนมองไม่เห็นเส้นโซบะด้านล่าง กลิ่นหอมรสชาติสดชื่นจากส้มสุดาจิ ตัดกับผงคัทสึโอะที่ท็อปปิ้งมาบนถ้วย เข้ากันได้อย่างลงตัวกับซุปโซบะอย่างไร้ที่ติจริงๆ…
นอกจากโซบะแล้วอยากให้สั่งเทมปุระมาด้วยค่ะ ผักที่นำมาทอดคัดมาอย่างดีและจะเปลี่ยนชนิดไปเรื่อยๆ ตามฤดูกาล
และที่ทำให้อาหารของที่นี่มีความพิเศษ จะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจากการได้ทอดสายตาชมวิวอันงดงามของแม่น้ำ Yoshino จากหน้าต่างนั่นเอง
ร้านอิยะโซบะ Momijitei อยู่ในพื้นที่เดียวกับ The River station West west ซึ่งมีทำเลอยู่ใน หุบเขาโอโบเคะ (Oboke Gorge) เป็นจุดศูนย์รวมสถานที่ที่เราสามารถแวะมาทำกิจกรรม outdoor และรับประทานอาหารขึ้นชื่อของจังหวัดโทคุชิมะได้
ภายในพื้นที่มีร้านทั้งหมด 4 ร้านคือ ร้านอิยะโซบะ ร้านราเมงโทคุชิมะ ร้านจำหน่ายสินค้ากิจกรรม outdoor และร้านของฝาก
หุบเขาโอโบเคะ (Oboke Gorge) นอกจากจะโด่งดังในเรื่องความงดงามของแม่น้ำและทัศนียภาพแล้ว ยังมีชื่อเสียงในเรื่องของกิจกรรมราฟติ้ง เรือยางล่องแก่งแสนท้าทาย
จากคำบอกเล่าของเจ้าของร้านโซบะ แม่น้ำโยชิโนะเป็นสถานที่ล่องแก่งที่มีน้ำเชี่ยวที่สุดในญี่ปุ่น เคยมีการจัดการแข่งขันราฟติ้งระดับโลกที่แม่น้ำแห่งนี้อีกด้วย แต่ไม่ต้องกังวลนะคะ เพราะแม่น้ำส่วนที่ไม่ไหลเชี่ยวจนเกินไปก็มี เราสามารถไปติดต่อทำกิจกรรมได้แบบชิวๆโดยไม่ต้องจองล่วงหน้าก็ได้
อิยะโซบะ ร้าน Momijitei (祖谷そば もみじ亭) >> http://west-west.com/en/momiji/
The River station West west >> http://west-west.com/en/
ช่องเขาโอโบเคะ (大歩危峡 / Oboke Kyo) https://www.mannaka.co.jp/
ล่องเรือเรือชมทิวทัศน์ช่องเขาโอโบเคะ อีกกิจกรรมที่ควรมาลอง ที่นี่เราจะได้ความงดงามของช่องเขาโอโบเคะและแม่น้ำแบบใกล้ชิดสุดๆ
เรือลำน้อยจะพาเราล่องลอยไปช้าๆ เพื่อชมโขดหินที่เรียงรายสองฝั่งแม่น้ำจากเมื่อหลายล้านปีก่อน ที่โดนลม ฝนกัดกร่อนจนกลายเป็นรุปร่างต่างๆ และต้นไม้นานาพันธุ์ที่ขึ้นอยู่ตามหุบเขา และจะมีฝีพายผู้เชี่ยวชาญที่จะคอยบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ในขณะล่องเรือให้เราเป็นระยะๆ
จะขึ้นเรือที่ Oboke Gorge River Cruises 大歩危峡観光遊覧船 จอดรถเสร็จแล้ว ก็เข้าไปด้านในติดต่อจองคิวรอบเรือกันค่ะ
ด้านในมีของฝากและร้านอาหารบริการด้วยนะ…
มองไปด้านในเห็นมีกระดานบอร์ดธงชาติต่างๆ เลยเข้าไปดู ทางพนักงานเลยเดินมาถามว่า มาจากประเทศไหน พอบอกว่ามาจากไทยก็ตื่นเต้นใหญ่เลย ดูเหมือนคนที่นี่จะชอบคนไทยมากๆ เลยแหล่ะ ชวนคุยอยู่นานจนเกือบลืมไปขึ้นเรือ 55 …
ก่อนไปขึ้นเรือพนักงานยื่นสติกเกอร์มาให้แปะ ตรงช่องของไทยยังไม่มีใครแปะเลย
ว้าววว นี่เราเป็นคนไทยคนแรกของปีนี้ที่มาเที่ยวเหรอเนี่ย …
แปะเสร็จแล้วก็ไปขึ้นเรือกัน ทางเดินลงไปขึ้นเรือค่อนข้างชันและมีบันไดเยอะมาก ใครที่ไม่ค่อยสะดวกในการเดินอาจต้องระมัดระวังหน่อยนะคะ
ระหว่างเดินสายตาก็ไปจ๊ะเอ๋กับสิ่งที่ไม่คาดคิด…… โอววววว เหล่าสัตว์ประหลาดและภูตผีปีศาจมากันพร้อมหน้าเลยจ้า….
ขุนเขาลึกแห่งนี้ นอกจากจะมีความงดงามและลึกลับเกี่ยวกับตำนานตระกูลซามูไรที่หลบหนีมาซ่อนตัวหลังสงคราม แล้วยังมีอีกตำนานที่ว่าในขุนเขาแห่งนี้มีเหล่าสัตว์ประหลาดและภูตผีปีศาจมากมายอาศัยอยู่ เช่น โคะนาคิจิจี้ (子泣き爺 / Konaki-jijii ตาแก่เสียงเด็กร้อง) ที่เป็น 1 ในผีที่อยู่ในการ์ตูนอสูรน้อยคิทาโร่
จากคำบอกเล่าของคนในพื้นที่ ว่าจริงๆ แล้วอาจมีตำนานมาจากความห่วงใยของพ่อแม่ที่มีต่อเด็กๆ ก็ได้ เพราะหุบเขาโอโบเคะ โคโบเคะ แปลว่า เดินก้าวใหญ่ก็อันตราย และเดินก้าวเล็กก็อันตราย ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็จะมีแต่โขดหิน จึงเป็นที่มาของการแต่งเรื่องมาหลอกให้เด็กๆ กลัว เพื่อที่จะได้ไปออกไปซุกซนข้างนอกกันก็เป็นได้….
ฤดูกาลที่คนญี่ปุ่นชอบมาที่นี่ จะเป็นช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ทั่วทั้งภูเขาจะถูกแต่งแต้มไปด้วยสีสันจนเป็นภาพที่ไม่อาจจะลืมเลือน
เอาล่ะค่ะ สำหรับ Ep.2 นี้ ขอลากันไปเท่านี้ก่อน ไว้รอติดตามเที่ยวกันต่อในตอนต่อไปนะคะ ความสนุกของภูมิภาคชิโกกุ ยังไม่หมดแค่นี้แน่นอน
เรื่องแนะนำ :
– ตื่นเต้นระทึกใจกับธรรมชาติลึกลับในภูมิภาคชิโกกุ – จังหวัดโทคุชิมะ EP.1
– เที่ยวสวนโมเน่ต์ มาร์โมแต็ง (Monet Marmottan) จังหวัดโคจิ
– ตลาดวันอาทิตย์ที่มีมากว่า 300 ปี ของจังหวัดโคจิ
– ตะลุยเที่ยว 3 จังหวัดบนเกาะชิโกกุ (Shikoku) ตอนที่ 2 “Ehime”
– 10 สถานที่ว๊าวๆ ใน Tokushima ที่ต้องไปให้ได้
#ตื่นเต้นระทึกใจกับธรรมชาติลึกลับในภูมิภาคชิโกกุ – จังหวัดโทคุชิมะ Ep.2