เที่ยว Tokamachi…ไปนอนกันแบบบ้านเก่าจริง มีห้องพักส่วนตัว แต่ในห้อง แค่ไม่มีห้องน้ำ แถมออนเซ็นที่นี่ยังเป็นออนเซ็นน้ำคุณภาพดีมาก ที่ใช้บำบัดโรคได้อีกคร้าาาาา เอาหล่ะ! ตามไปดูความปุยของหิมะพร้อมๆ กันเลย
บางคนบอกว่าอยากจะนอนกลิ้งบนหิมะ แต่บางทีไปแล้วรู้สึกว่าไม่กล้ากลิ้ง ไม่กล้าเล่นมาก คนเยอะ แล้วรู้สึกเขิน และบางทีหิมะก็ไม่ได้ปุยนุ่มอย่างที่คิด
ไปที่นี่สิ ไปนอนกันแบบบ้านเก่าจริง มีห้องพักส่วนตัว แต่ในห้องแค่ไม่มีห้องน้ำ แถมออนเซ็นที่นี่ยังเป็นออนเซ็นน้ำคุณภาพดีมาก ที่ใช้บำบัดโรคได้อีกคร้าาาาา เอาหล่ะ! ตามไปดูความปุยของหิมะพร้อมๆ กันเลย
เริ่มแรกเดินทางออกจากโตเกียวโดยเราใช้บัตร JR Tokyo Wild Pass เที่ยวแถบคันโตได้ 3 วัน ในราคา 10,000 เยน ตั๋วนี้ใช้ได้ตั้งแต่สนามบินนาริตะ/ฮาเนดะเลยนะคะ และถ้าไม่ใช้ เอาไว้ใช้ระหว่างทริปก็แค่แจ้งวันเปิดใช้วันแรก ไปซื้อพาสมาใช้ก่อนได้เลย
และสมมติถ้าเรานอนที่ Tokamachi 1 คืน เราก็ยังเหลืออีก 1 วัน จะเอาไปเที่ยว คารุยซาว่า หรือพื้นที่อื่นๆ ได้อีกหลายๆ ที่ ซึ่งคนต่างชาติที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นก็ใช้ได้เช่นกัน ขอเพียงมีพาสปอร์ตที่ไม่ใช่ของคนญี่ปุ่น
คลิ๊กดูรายละเอียดตั๋วได้ที่นี่ >> http://www.jp-rail-th.com/guidebook/jr-tokyo-wide-pass/
แล้วก็ไปขึ้นรถไฟกันค่ะ ที่สถานีโตเกียว หรืออุเอะโนะก็ได้ เราเลือกโดยสารรถไฟสาย MAX Toki ที่ไปยังจังหวัดนีงาตะ (Niigata)
ตามคอนเซฟเดิมซื้อกะเพราไก่ไข่ดาวไปกินบนชินกันเซ็น ทำไมต้องกะเพราทุกรอบก็ไม่เข้าใจตัวเอง
จุดหมายของเรานั้นอยู่ที่เมือง Tokamachi ซึ่งเราจะต้องไปต่อรถบัสกันที่สถานี Echigo Yuzawa เราเดินทางจากสถานีโตเกียวใช้เวลา 1 ชั่วโมง 20 นาทีนะคะ จากนั้นก็โดยสารรถบัสจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 30-40 นาทีนะคะ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพของหิมะค่ะ เพราะที่เราจะไปเนื่ยมีลักษณะเป็นหุบเขานะคะ ก็เลยจะทำให้เราบอกไม่ได้ว่ารถจะขับได้ความเร็วแค่ไหน ถ้ามีหิมะมากก็ขับเร็วไม่ได้
แต่เดี๋ยวก่อนในเมื่อเรามาถึง Echigo Yuzawa แล้วอีฮั้นขอไปจัดของโปรดก่อนใครคือ ชาเขียว Koji ของร้าน Koji Cafe ค่ะ เป็นชาที่ผสมยีสต์ อร่อย นัว ที่สุด พร้อมเดินเล่นนิดหน่อยค่ะ เพราะที่นี่ของกินมากมาย อร่อยอีกด้วย
และอย่าได้ลืม สิ่งเลอค่า คู่สถานีอีกหนึ่งสิ่งคือโมบายที่ทำจากผ้ากิโมโน เลอค่าที่สุด ร้านอยู่ติดกับโคจิเลยค่ะ
เมื่อเติมพลังเราต้องไปกันต่อแล้วค่ะ เอาละสิ เริ่มเข้าใกล้ความสนุกแบบหนาวๆ ปุยๆ แล้วค่ะ
จริงๆ แล้ว จังหวัดที่มีหิมะมากที่สุดในญี่ปุ่นน่ะ ไม่ใช่ฮอกไกโดนะ แต่เป็นจังหวัดต่างๆ บนเกาะฮอนชูนี่แหล่ะ นีงาตะเนี่ยติดอันดับสองเลยนะ อยู่ใกล้ๆ กับโตเกียวขนาดนี้ แต่หลายๆ คนก็ยังไม่รู้ค่ะ ว่าที่นี่มีของดีจริงๆ
วันนี้เราจองห้องพักกันเป็นเรียวกังที่เป็นบ้านน่ารักๆ ค่ะ มีชื่อยาวมากๆ ชื่อว่า คิโยะซึเคียว ออนเซ็น อิโรริ โตะ โฮทารุ โนะ ยะโดะ เซโตะคุชิ (Kiyotsukyo Onsen Irori to Hotaru no Yado Setoguchi) (0_0)
ดูรายละเอียดโรงแรมที่นี่ >> http://goo.gl/nQ9dcz
ดูข้างทางไปเรื่อยเปื่อย ดูกองหิมะข้างทางที่รถเค้าไถไปกองอยู่สิคะ สูงจังเลย เมื่อขึ้นบัสกันไปบนเขานี่มองไปทางไหนก็ขาวไปหมดเลยค่ะ คือแบบอะไรจะขนาดนี้เนี่ย สวยเว่อร์ๆ เลย
เมื่อได้ลงรถ ก็เข้าเช็คอินที่นี่อยู่กันเหมือนบ้าน ไม่ได้มีเคาน์เตอร์เช็คอินให้วุ่นวายค่ะ บอกเจ้าของบ้านเค้าก็จะพาเราไปเก็บข้าวของที่ห้องพัก เราก็เปลี่ยนเสื้อผ้ากันค่ะ จากเสื้อผ้าปกติเป็นชุดเล่นหิมะ ซึ่งถ้าเพื่อนๆ มีชุดสกีก็เอามาใช้ได้เลยนะคะ คือมันต้องใช้แบบนั้นสำหรับเมืองนี้ เนื่องจากว่ามันกันลม แล้วถ้าเราจะเล่นหิมะเราควรต้องมีชุดกันเปียกไว้ค่ะ
เป็นไงคะ บรรยากาศสุดๆ ไปเลยมีแต่หิมะทั้งหมด ปกติหิมะตกใหม่ๆ จะนุ่ม นิ่ม ฟู แล้วพอนานๆ เข้าจะเริ่มแข็ง อันนี้พูดกับที่อื่นได้ แต่ที่นี่หิมะตกตลอดเลย งานนุ่ม นิ่มมีมาตลอดจริงๆ
ตรงนี้พื้นที่ส่วนกลางค่ะ ไม่ว่าจะเป็นหน้าห้องออนเซ็น หน้าห้องน้ำ แล้วก็จุดทานอาหาร ที่ด้านล่างของเรียวกังจะเป็นเตาแบบโบราณ เป็นห้องรับประทานอาหารเราจะทานอาหารเย็นกันที่นี่
เมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว จะรีรออะไรหล่ะคะ สมควรแก่เวลาที่จะออกไปเล่นหิมะค่ะ พลาดได้ไงคะ สวยเกินห้ามใจเลยค่ะ เราเดินเล่นเรื่อยเปื่อยเลยค่ะ แถวนี้สวยมากๆ
สนุกสุดๆ ค่ะ พากันไปเล่นสไลด์ หน้าโรงแรม เล่นได้บ้าง ตีลังกาบ้าง ก็ไม่เจ็บค่ะ หิมะนุ่มๆ 555
นี่เป็นเหมือนเรียกว่าอะไรอ่ะ ลำธารเหรอคะ คือน้ำไม่ไหลแล้วมีแต่น้ำแข็ง
ตรงนี้น่าจะเป็นลำธารหน้าโรงแรมค่ะ สะพานนี้ข้ามได้จริง รถบัสก็พาเราข้ามมา
ลำธารนี้ยังมีน้ำไหลได้อยู่ นี่ก็ถ่ายจะสะพานแดงเมื่อสักครู่นี้เลย
ไถลลื่นออกนอกถนนไปบ้าง คลุกหิมะกันไปถึงจะไม่ได้เล่นสกีก็ถือว่าโอมากๆ นะคะ
ขออนุญาตกลิ้งเลยค่ะ คือฟินมากๆ จุดนี้ เล่นเป็นเด็กเลย ทั้งสไลด์ คือจุดนี้ไม่ลืมเลยว่าอีฮั้นแก่แล้ว!!! 555
จากนั้นเราก็ไปเล่นทำบ้านหิมะ (คามาคุระ) กันค่ะ
น้องๆ นักเรียนมาพักพร้อมๆ กับพวกเราก็เลยมาร่วมกันทำคามาคุระ วันนี้ได้ใช้แรงงานกันจริงจัง แล้วเมื่อเล่นกันแบบพังเต็มที่แล้วเราก็หลบไปแช่ออนเซ็นซักพักเนอะ เพราะร่างกายเริ่มเย็นละค่ะ
ส่วนที่อาบน้ำ จะเป็นห้องอาบน้ำส่วนกลางชายหญิงที่เป็นออนเซ็นแบบรักษาอาการบาดแผล และกล้ามเนื้ออักเสบได้เป็นอย่างดี เจ้าของเรียวกังเล่าว่า ปกติแล้วที่เรียวกังเราบางทีจะมีคุณลุงคุณป้าที่เจ็บป่วยมาพักเป็นเดือนๆ ก็มี
ห้องพักของที่นี่จะเป็นการพักแบบห้องญี่ปุ่นดั้งเดิม ห้องน้ำจะอยู่ด้านนอกห้อง ซึ่งไม่ได้ลำบากอะไร มีเพียงพอกับความต้องการอยู่นะ
หน้าห้องพักตรงระเบียงค่ะ มีหนุ่มใจดีมาถ่ายภาพให้เราสามคน (นอนห้องเดียวกันนะคะ)
วันนี้เรามากันเป็นกรุ๊ปเหมา เลยมีเพิ่มออฟชั่นอาหารกันไป ซึ่งถ้าใครสนใจต้องสอบถามกับทางเว็บไซต์ หรือถามตรงกับโรงแรมดูนะคะ เพราะเราเหมาราคากรุ๊ป ราคาต่อคนจะไม่เท่ากัน
เมื่อแช่ออนเซ็นแล้ว เราก็ไปทานข้าวกันค่ะ เปลี่ยนชุดมาเรียบร้อยเลย
แต่บรรยากาศดีนะคะใส่ชุดยูกะตะ มาทานข้าว และนั่งปิ้ง ย่างกันแบบโบราณ สุดยอดไปเลย
อิทาดาคิมาสสสสส ทานแล้วนะคะ
เนื้อนี่เราได้ขอเค้าเป็นอาหารท้องถิ่น เลยได้แบบท้องถิ่นจริงๆ ค่ะ เนื้อกวางเอย นกเอยมาเต็ม 555
เด็กๆ ชอบใจกันใหญ่ค่ะ บรรยากาศดี อะไรๆ ก็เลยดีไปหมด
ความสนุกสนานไม่ได้หมดแค่ข้าวหมดนะคะ ตอนนี้เรามีกิจกรรมค่ะ พวกเราจะไปทำบ้านหิมะ แล้วย่างโมจิกัน ซึ่งเจ้าของบ้านเค้าแถมให้เราเป็นพิเศษนะคะ แต่บ้านหิมะเนี่ย ต้องทำกันเอง 5555555 สนุกไม่รู้ลืมจริงๆ
แล้วเราก็ออกไปย่างโมจิกิน แล้วนั่งเล่นกันในบ้าน ถ้าใครไม่ได้มาเป็นกลุ่มจะออกมาเล่นหิมะแค่หน้าบ้านก็ฟินแล้วค่ะ เนื่องจากที่นี่หิมะตกทุกๆ วันก็เลยทำให้หิมะนุ่มมากๆ เป็นปุยเลย
แล้วเราก็เข้านอนค่ะ ค่ำคืนนี้นอนกันสบายมากๆ ห้องพักอบอุ่นสุดๆ ทั้งๆ ที่ข้างนอกหนาวเหน็บขนาดนี้
เช้ามาก็มีกิจกรรมนิดหน่อยค่ะ เราเช่ารองเท้าเค้าไปเดินเล่นในป่าสนกัน ถ้าจะให้ดีควรมีคนนำทางนะคะ พอดีว่าอีฮั้นมีเพื่อนเป็นคนที่นั่นพากันไป ก็เลยรู้ตรงไหนมีแม่น้ำ ตรงไหนเดินได้
แล้วเราก็ลืมตัวอีกครั้ง เล่นเป็นเด็กกันไปเลย สนุก กับการเดิน แบบผจญภัยในป่าสน ชอบตรงเดินๆ แล้วหิมะจะสูงขึ้นเหนือรองเท้าเราไปเรื่อยๆ 555
เมื่อกลับเข้ามาก็มาทานอาหารเช้า แล้วนั่งปั้นมันจูเล่นกันค่ะ ประสบการณ์แบบนี้ ถ้าใครสนใจ สอบถามได้ที่เจ้าของบ้านนะคะ เค้ามีบริการสอน แต่อาจจะต้องมีค่าอุปกรณ์
แบบว่าแต่ละคนปั้นกันสนุกเลยทีเดียว นี่ค่ะ แบบอย่างของนางในวรรณคดี ปั้นได้โปรมากๆ คุณอ้อ ส่วนพัตโตะ คือแบบว่าปั้นไว ถูกผิดไม่แคร์ครับผม
นี่ไงปั้นเสร็จแล้วคร้าาา แล้วเค้าก็จัดการนึ่งให้เรา สนุกดี นึกว่าจะไปไม่รอดซะแล้ว
สนุกมากๆ เลยค่ะ ต้องกลับแล้วสิคะ ยินดีที่ได้รู้จักเมือง Tokamachi เอาไว้วันหลังเราต้องกลับมาอย่างแน่นอน ทั้งสนุก ทั้งชื่นใจกับน้ำแร่ ถึงออนเซ็นที่นี่จะไม่ได้มีบ่อที่กว้างใหญ่ แล้วใหม่อะไร แต่น้ำแร่เค้าดีที่ปวดแข้งปวดขา นี่หายเลยค่ะ
ในส่วนของออนเซ็นเราแช่ไปสองรอบแล้วค่ะ เพราะมันฟินมากเลยค่ะ น้ำแร่ดีๆ แบบนี้หายากมากๆ มีโอกาสต้องแช่ให้เยอะๆ เจ้าของบ้านใจดี ที่นี่แค่ห้องน้ำแยกกับน้องนอน แต่คือบ้านไงคะ ไม่ได้เดินไกลอะไร แล้วไม่ต้องกลัวนะคะ กลางคืนเค้าเปิดไฟข้างนอกทั้งคืน ไม่ต้องกลัวตกบันได หรือกลัวปี๋เลยค่ะ คือสบายมากๆ
และแน่นอนค่ะ ก่อนกลับเราก็ซื้อชาเขียวเพื่อทานบนชินกันเซ็น ไม่พลาดหรอกค่ะ ชาเขียวโคจิ (Kouji) เพราะในโตเกียวหาทานไม่ได้
ขอบคุณบางภาพโดย : Patto Maichi GURU และ JAPANiCAN.com
ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ สวัสดีคร้าาา
ทักทายพูดคุยกับ Nat Nana ได้ที่>>> Facebook ไม่ใช่กรูรู แต่กรูรู้ ของถูกในโตเกียว
เรื่องแนะนำ :
– จากโตเกียวเที่ยวคิวชูกับ 4 วิธีสุดประหยัด
– เที่ยวเกียวโต : ชิมของอร่อย ชมบรรยากาศเป๊ะๆ ใกล้วัดโคไดจิ และวัดน้ำใส
– โอตารุ..เมืองแห่งกล่องดนตรี ขนมอร่อย อาหารทะเลสด จัดแผนเที่ยวสักคืนสิ
– 10 ขนมอร่อยที่ญี่ปุ่นราคาไม่ถึง 100 เยน
– นารา (Nara) ไปแล้วอย่าพลาดการกินอาหารในบรรยากาศสวยเว่อร์ๆ