ว่ากันว่า Smartphone จัดเป็นอุปกรณ์สื่อสารที่ถูกมนุษย์จับมากที่สุดตั้งแต่โลกก่อตั้งมา เหตุผลที่มันถูกใช้งานบ่อยกว่าโทรศัพท์มือถือยุคก่อนๆ คือมันมีหน้าจอ (Display)
มีใครนำ Smartphone เข้าไปดูในห้องน้ำไหมครับ?
ว่ากันว่า Smartphone จัด
เป็นอุปกรณ์สื่อสารที่ถูกมนุษย์จับมากที่สุด
ตั้งแต่โลกก่อตั้งมา
เหตุผลที่มันถูกใช้งานบ่อยกว่า
โทรศัพท์มือถือยุคก่อนๆ
คือมันมีหน้าจอ (Display)
แล้วการมีหน้าจอดีอย่างไร
มันเป็นการแสดงผล
รับสื่อข้อมูลผ่านการมองเห็น
ที่จัดว่าเป็นสื่อที่มนุษย์ทำความเข้าใจ
ได้ง่ายเป็นอันดับต้นๆ
เห็นด้วยไหมครับ
ไม่นานมานี้ มหาวิทยาลัยโตเกียว
ได้นำเสนอเทคโนโลยีตัวหนึ่ง
นั่นคือการสร้างหน้าจอทำจากวัสดุ Organic
ที่สามารถแปะตามผิวหน้งของมนุษย์ได้
เพื่อแสดง อารมณ์ ค่าต่างๆเช่น อัตราการเต้นหัวใจ
ปริมาณออกซิเจนในเลือด.
>>https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/en/news/20180219_03/
ทั้ง 2 เรื่องนี้ชวนให้ผมเชื่อมโยงกับหลักการอันหนึ่ง
ที่องค์กรญี่ปุ่นชอบใช้
Visualization หรือภาษาญี่ปุ่นเรียก
見える化(Mi-e-ru-ka)
แปลไทยได้ว่า
การมองเห็น (แบบองค์รวม)
ข้อดีของการมองเห็นคือ
การสื่อสารที่ชัดเจนได้ผลลัพธ์ง่ายเข้าใจตรงกัน
ซึ่งต้องประกอบไปด้วย 3 หลักการ
1. เกิดการตระหนักร่วมกัน (อยู่ในจุดที่ทุกคนเห็นข้อมูลชุดเดียวกัน)
2. รู้สถานะ (ดี/ไม่ดี,ปลอดภัย/ไม่ปลอดภัย,ผ่าน/ไม่ผ่าน)
3. ตัดสินใจได้ทันที (ว่าจะทำอะไร)
ลองมาดูตัวอย่าง
ปากทางเข้า โรงงาน เราอาจจะเห็น
ป้าย สถิติความปลอดภัยหน้า
บอกทุกคนว่า
ทำงานไม่มีอุบัติเหตุมาแล้วกี่วัน
และเป้าหมายคือกี่วัน
ในธนาคาร หรือ ไปรษณีย์หลายสาขา
มีหน้าจอแสดงจำนวน
คิวที่รออยู่และเราเป็นคิวที่เท่าไหร
บางที่ก็มีเวลาบอกคร่าวๆให้ด้วยว่า
กว่าจะถึงคิวเรา กี่นาที
สามารถตัดสินใจได้ว่า
จะอยู่รอ หรือ ไปเดินเล่นก่อน
สรุปว่าเครื่องมืออะไรก็ตามที่
สามารถทำให้เกิด สภาวะทั้ง 3
(เห็นและตระหนักพร้อมกัน、รู้สถานะ、ตัดสินใจได้ทันที)
เราสามารถ อนุมานมันได้ว่า Visualization Tool
การทำ Visualization ไม่ยากอย่างที่คิด
ลองนำแก่นไปปรับใช้กันดูนะครับ
“What would the world be like if we had displays that could adhere to our bodies and even show our emotions or level of stress or unease? In addition to not having to carry a device with us at all times, they might enhance the way we interact with those around us or add a whole new dimension to how we communicate.”
“โลกจะเป็นอย่างไร หากเรามีหน้าจอแสดงผลที่ติดบนร่างกายของมนุษย์ได้
และมันก็สามารถบอกได้แม้กระทั่ง อารมณ์ หรือ ระดับความเครียด หรือ ความสับสน
แทนที่เราจะต้องถือเครื่องมือตลอดเวลา มันอาจจะช่วยเพิ่มวิธีในการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน
และเพิ่มมิติใหม่ในการสื่อสารด้วย”
Professor Takao Someya.
โปรเฟสเซอร์มหาวิทยาลัย โตเกียว
หนึ่งในผู้คิดค้นเทคโนโลยี E-skin
#มองเห็นเป็นเรื่องสำคัญ
#เก่งงานแบบญี่ปุ่นคุณก็ทำได้
#SenseiPae
#LeanovativeThinking
ติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ Facebook: Leanovative Thinking By Sensei Lek & Sensei Pae
เรื่องแนะนำ :
– Prius ทำลายสถิติประหยัดน้ำมันของตัวเองได้อย่างไร เรียนรู้หลักการ Kaizen ง่ายๆ ผ่านรถยนต์มหัศจรรย์
– ไม่ถอดใจ ก็ไม่แพ้ … บทเรียนจากเจ้าของแบรนด์ญี่ปุ่นที่ทั้งโลกรู้จัก
– คนไทยทำงานกับญี่ปุ่น รู้สึกยังไงกันนะ
– เทคนิคพิชิตใจเจ้านายญี่ปุ่น
– หลากหลาย…สไตล์เจ้านายญี่ปุ่น
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ :
This ‘E-Skin’ Patch Turns Human Hand Into Screen
https://www.youtube.com/watch?v=wVvPmrmN3ew
หนังสือ Toyota mind คิดระดับโลก คุณก็ทำได้