Teiichi no Kuni … โตขึ้นอยากเป็นอะไร? เราคงเคยได้ยินคำถามแนวๆ นี้กันมาตั้งแต่เด็ก และหนึ่งในคำตอบยอดนิยมก็หนีไม่พ้น การอยากจะเป็น “นายกรัฐมนตรี” และนี่คือเรื่องราวภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่เล่าถึงชีวิตผู้ชายคนหนึ่ง ที่อยากเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และจะทำฝันนั้นให้เป็นจริงให้ได้ค่ะ
โตขึ้นอยากเป็นอะไร? เราคงเคยได้ยินคำถามแนวๆ นี้กันมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งคำตอบก็มีหลากหลายแตกต่างกันไป และหนึ่งในคำตอบยอดนิยมก็หนีไม่พ้น การอยากจะเป็น “นายกรัฐมนตรี” ว่าแต่ทำไมเด็ก (รวมถึงผู้ใหญ่) หลายคนใฝ่ฝันอยากจะก้าวสู่จุดสูงสุดนั้น และนี่คือเรื่องราวภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่เล่าถึงชีวิตผู้ชายคนหนึ่ง ที่อยากเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และจะทำฝันนั้นให้เป็นจริงให้ได้ค่ะ
เทอิจิ หนุ่มม.ปลายที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นนายกรัฐมนตรี
เรื่องราวที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวจากภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่อง Teiichi no Kuni ค่ะ ซึ่งฉายไปแล้วเมื่อปี 2017 โดยดัดแปลงมาจากมังงะชื่อเรื่องเดียวกัน แต่งโดย อุซามารุ ฟุรุยะ เรื่องราวของภาพยนตร์ก็เริ่มจากชีวิตของ “เทอิจิ” (รับบทโดยสุดะ มาซากิ) หนุ่มไฟแรงที่มีพ่อเป็นนักการเมือง ตอนแรกเขาก็ไม่ได้มีความฝันอยากเป็นนายกฯ อะไรนี่หรอกค่ะ เพราะตอนเด็กเขาชื่นชอบการเล่นเปียโนเหมือนกับแม่ ซึ่งก็สร้างความไม่พอใจให้กับพ่อเช่นกัน เพราะพ่ออยากให้เทอิจิเป็นนักการเมือง
วันหนึ่งในขณะที่กำลังโต้เถียงกัน เทอิจิก็เสียหลัก เกิดอุบัติเหตุขึ้น หัวไปกระแทกกับเปียโนที่เขาเล่นอยู่อย่างจัง หลังจากฟื้นขึ้นมา ก็เหมือนไปโดนสวิตซ์ตัวไหนไม่ทราบ จู่ๆ เทอิจิก็บอกพ่อและแม่ว่า “เขาจะเป็นนายกฯ” แล้วอยากจะสร้างประเทศของตัวเอง!
หลังจากนั้นมาเทอิจิก็พยายามที่จะก้าวเข้าสู่โลกของการเมืองให้ได้ โดยเริ่มจากสอบเข้าเรียนที่โรงเรียนไคเท ซึ่งเป็นโรงเรียนชายล้วนที่มีชื่อเสียงในยุคโชวะ และเป็นโรงเรียนที่ผลิตทั้งนักการเมืองและข้าราชการที่ความสามารถออกไปสู่สังคมอย่างต่อเนื่อง และเขาว่ากันว่า หากใครได้เป็น “ประธานนักเรียน” หรือได้เข้าไปอยู่ในกลุ่มประธานนักเรียน หรือสภานักเรียน ก็จะมีโอกาสเข้าสู่โลกการเมือง และอาจเป็นทางลัดสู่การเป็นนายกรัฐมนตรีเลยก็ว่าได้
เทอิจิก็เป็นเด็กหนุ่มที่มีความโดดเด่นมาก ทั้งเรียนเก่ง และมีภาวะเป็นผู้นำ ทำให้สอบเข้าโรงเรียนนี้ได้ ด่านต่อไปก็คือ เขาต้องเข้าไปอยู่ในสภานักเรียนให้ได้ แต่ก็ต้องเป็นหัวหน้าห้องให้ได้ก่อน ซึ่งเขาก็ทำสำเร็จได้ไม่ยากค่ะ แต่ถึงอย่างนั้นเทอิจิก็ต้องเจอกับอุปสรรค และเสี้ยนหนามที่คอยขัดขวางเขาอยู่เสมอ นั่นก็คือ “คิคุมะ” (รับบทโดย ชูเฮย์ โนมุระ) คู่ปรับตั้งแต่สมัยเด็ก เรียนแข่งกันมาจนถึงปัจจุบัน แถมพ่อของทั้งสองก็ไม่ค่อยจะกินเส้นกันเสียด้วย แต่โชคดีที่ว่า เทอิจิมีเพื่อนสนิทอย่าง “โคเมย์” (รับบทโดยชิซง จุน) ที่คอยช่วยเหลือเสมอ เขาเลยไว้วางใจให้โคเมย์รับหน้าที่เป็นรองหัวหน้าห้อง
พอเทอิจิสามารถเป็นหัวหน้าได้แล้ว ก็ยังต้องผ่านด่านต่อไปอีกก็คือ เทอิจิต้องผลักดันรุ่นพี่ปี 2 ที่มีแววว่าน่าจะเป็นประธานนักเรียนคนต่อไป ให้ได้เป็นประธานนักเรียนจริงๆ เพื่อเป็นการเปิดทางให้ตัวเองได้เป็นประธานนักเรียนในอนาคตได้ง่ายขึ้น เทอิจิก็ต้องอ่านเกมให้ได้ว่า ใครกันที่พอจะมีแววเป็นประธานนักเรียนได้ ซึ่งในตอนนั้นคนที่มีแววน่าจะได้เป็นประธานนักเรียนก็คือ “โรแลนด์ ฮิมุโระ” (รับบทโดย โชทาโร่ มามิยะ) และ “โอคุโตะ โมริโซะ” (รับบทโดย ยูได จิบะ)
การเปลี่ยนแปลงสู่ประชาธิปไตยภายในโรงเรียน
ในโรงเรียนแห่งนี้จะมีธรรมเนียมที่ยึดปฏิบัติตามกันมาทุกปีก็คือ คนที่จะได้เป็นประธานนักเรียนคนต่อไป จะมาจากการเลือกของสภานักเรียน นักเรียนคนอื่นๆ ไม่มีสิทธิ์ที่จะออกเสียง ดังนั้น เทอิจิจึงต้องเข้าหารุ่นพี่ที่จะได้เป็นประธานนักเรียนคนต่อไป ถ้ารุ่นพี่คนนั้นสามารถเป็นประธานนักเรียนได้จริง นี่ก็จะเป็นหนทางให้เขาเป็นที่รู้จัก และได้ความนิยมจากรุ่นพี่ไปโดยปริยาย
จากการฟังคำปราศรัย ทำให้เทอิจิมุ่งเป้าไปที่รุ่นพี่ฮิมุโระ ชายหนุ่มผมยาว ที่แกร่งกล้า เก่งในเรื่องการต่อสู้ และมีความเด็ดเดี่ยว ตัดสินใจได้เด็ดขาด ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งอย่างโมริโซะก็เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่เบา เพราะเขาเสนอนโยบายว่า เขาจะเปลี่ยนแปลงระบบการเลือกตั้งประธานนักเรียน โดยต่อจากนี้ประธานนักเรียนต้องมาจากการเลือกตั้งของนักเรียนทุกคน กลุ่มสภานักเรียนรวมถึงนักเรียนคนอื่นๆ ที่อยู่กับธรรมเนียมเดิมมาตลอดก็รู้สึกไม่พอใจ และไม่อยากให้การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้น เลยหันมาอยู่ฝ่ายฮิมุโระกันเกือบหมด มีเพียงกลุ่มของ “ดัน โอตากะ” (รับบทโดย เรียวมะ ทาเคะอุจิ) นักเรียนรุ่นเดียวกับเทอิจิที่เป็นหัวหน้าห้องอีกห้องหนึ่ง รู้สึกอยากสนับสนุนกับนโยบายนี้
ก้าวสำคัญของเทอิจิในการก้าวสู่เป็นนายกฯ
เหมือนเรื่องราวต่างๆ จะเป็นไปได้ด้วยดี แต่แล้วก็มีปัญหาเกิดขึ้น ทำให้เทอิจิต้องเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อไม่ให้เสียโอกาสการเป็นนายกรัฐมนตรีในอนาคต ด้วยการย้ายข้างมาอยู่ฝ่าย “โอคุโตะ โมริโซะ” รุ่นพี่ที่ต่อต้านมาตั้งแต่แรก ซึ่งก็เป็นอีกด่านที่ท้าทายเทอิจิเช่นกันว่า จะเข้าหารุ่นพี่คนนี้ได้อย่างไร และจะทำอย่างไรให้รุ่นพี่ที่กำลังอยู่เสียงข้างน้อยขึ้นเป็นประธานนักเรียน และถ้าช่วยให้รุ่นพี่คนนี้เป็นนายกฯ ก็เท่ากับว่าเขาต้องยอมรับกับนโยบายที่ทุกคนมีสิทธิ์เลือกตั้ง แล้วเส้นทางการเป็นนายกรัฐมนตรีของเทอิจิจะเป็นจริงได้หรือเปล่า ? … นี่คือการต่อสู้เพื่อจุดสูงสุดที่ยิ่งใหญ่ของเทอิจิค่ะ
ต่อไปนี้คือความคิดเห็นส่วนตัวจากที่ได้ดูเรื่องนี้ค่ะ
ฉากที่ทำให้ขนลุก
ฉากตอนปราศรัยของนักเรียนที่ลงสมัครประธานนักเรียน ซึ่งคนที่ได้เป็นประธานนักเรียนเขาว่ากันว่าจะมีสิทธิ์ได้เป็นนายกฯ ในอนาคตสูง เลยเป็นตำแหน่งที่นักเรียนหลายคนหมายปอง ตามธรรมเนียมแล้วประธานนักเรียนจะได้มาโดยการคัดเลือกจากสภานักเรียนเท่านั้น ก็คือนักเรียนคนอื่นไม่มีสิทธิ์เลือก แล้ว“โอคุโตะ โมริโซะ” ยืนประกาศกร้าวว่า ถ้าเขาได้เป็นประธานนักเรียนคนใหม่ เขาจะล้มเลิกธรรมเนียมนี้ และให้ทุกคนออกเสียงเลือกตั้งประธานนักเรียนได้! ก็คือเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ออกสิทธิ์ออกเสียงกันได้สักที (คุ้นๆ ม่ะ)
ฉากที่ทำให้น้ำตาซึม
ฉากที่เทอิจิเปิดเผยเหตุผลต่อหน้าพ่อตัวเองว่า ทำไมถึงอยากเป็น “นายกรัฐมนตรี” ทำไมถึงต้องจริงจังอยากเป็นนายกขนาดนั้น เหตุผลของเขาไม่ใช่ว่าอยากจะได้อำนาจ หรือเงินทองอะไรหรอกค่ะ แต่เป็นเหตุผลเล็กๆ ที่อยากจะสร้างประเทศในฝัน และไม่มีใครมารบกวนชีวิตอันสงบสุข รวมถึงความมุ่งมั่นของเทอิจิค่ะ ที่ทุ่มเทกับทุกอย่างด้วยพลังของตัวเอง เพื่อให้ได้เป็นนายกฯ แม้ว่าพ่อของเขาจะเป็นนักการเมือง แต่ก็ต้องยอมรับว่าเทอิจิเข้าโรงเรียนนี้ได้ก็เพราะความสามารถของเทอิจิเองจริงๆ และตั้งใจทำสิ่งต่างๆ ด้วยมือของเขาเองจริงๆ
ฉากที่กินใจ
เป็นฉากที่เทอิจิคุยกับพ่อ เพื่อให้รุ่นพี่ที่เขาสนับสนุนชนะการเลือกตั้งประธานนักเรียน เทอิจิวางแผนว่าจะเล่นแผนให้เงินใต้โต๊ะ เหมือนผู้เข้าสมัครคนอื่นทำ แต่พ่อก็บอกเขาว่า “เงินเป็นเรื่องหายนะ” นะ อย่าได้ลองเลย แล้วไม่กี่วันต่อมา พ่อของเขาก็ถูกจับ ข้อหาคอรัปชั่นบ้านเมือง (แต่จริงๆ พ่อไม่ได้ทำ) ทำให้เขาได้รับรู้ในสิ่งที่พ่อสอนว่า เงิน…มันเป็นสิ่งที่นำไปสู่หายนะจริงๆ
โบนัส+ความประทับใจที่ได้จากเรื่อง
เห็นทีจะเป็นหนุ่มหล่อๆ เนี่ยแหละค่ะ เพราะเป็นเรื่องราวของนักเรียนโรงเรียนชายล้วนก็จะรวมหนุ่มหล่อไว้มากมาย สาวๆ ก็จะได้ความฟินในเรื่องไปเป็นของแถม แล้วประเด็นที่น่าสนใจอีกอย่างคือดูเหมือนจะเป็นหนังเกี่ยวกับการเมืองดูยากๆ ใช่ไหมค่ะ แต่จริงๆ ไม่เลยค่ะ คือเขาเล่าเรื่องราวได้อย่างน่าติดตามมาก ผสมกับคาแร็กเตอร์อันโดดเด่นของตัวละครเอกอย่างเทอิจิ ที่เล่นใหญ่ เวอร์วัง จนคนดูก็อดที่จะขำไม่ได้ คือมันจะเป็นแนวการเมืองที่ผสมความเป็นคอมเมดี้หน่อยๆ และเป็นการเล่าถึงการเมืองให้มีความซอฟ์ทลงมาหน่อย โดยเล่าผ่านบรรยากาศโรงเรียน ทำให้เรียนรู้ประเด็นทางการเมืองผ่านฉากโรงเรียน ซึ่งเป็นสิ่งที่เราทุกคนก็เคยผ่านกันมาก่อน และก็ทำให้มองย้อนกลับไปว่า จริงๆ แล้วสมัยที่เราเรียนก็มีเรื่องแบบนี้นะ เราถูกสอนเรื่องของการเมืองมาตั้งแต่ยังเด็กๆ แล้วก็ว่าได้
นี่ก็คือเรื่องราวการต่อสู้ของเหล่าลูกผู้ชาย ที่อยากจะก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุด เพื่อสร้างประเทศในอุดมคติของตัวเอง พร้อมพลังการต่อสู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงระบบ ธรรมเนียมบางอย่างจากคนรุ่นใหม่ เพื่อหวังว่าให้คนที่อยู่ต่อไปได้รับสิ่งที่เหมาะสม และมีชีวิตที่สุขสบายกว่าที่เป็น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น พวกเขาก็ต้องพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่า เขาควรค่าพอกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอันทรงเกียรตินี้หรือไม่?
สามารถติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับละครญี่ปุ่น และพูดคุยกับ ChaMaNow ได้ทาง FB: Sakura Dramas
เรื่องแนะนำ :
– ดาราหนุ่มญี่ปุ่นผู้มีเจ้าของแล้ว ประจำไตรมาศแรกปี 2018
– 5 ซีรีส์ญี่ปุ่น Live Action ทำแล้วปัง ดังไม่แพ้มังงะ
– Papa Idol เรื่องราวความรักต้องห้ามกับไอดอล
– 5 จุดจบตัวร้ายในละครญี่ปุ่น ที่ไม่ต้อง “ตาย” เสมอไป
– 10 เหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในวงการบันเทิงญี่ปุ่น 2017
ขอขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก
ภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่อง Teiichi no Kuni
http://asianwiki.com/Teiichi:_Battle_of_Supreme_High