เจแปน จุด จุด จุด ในตอนนี้เราอยู่กันที่จังหวัดชิมาเนะ (Shimane) ครับ เป็นการเที่ยวจังหวัดเดียว 3 วัน 2 คืนเลย
เจแปน จุด จุด จุด ในตอนนี้เราอยู่กันที่จังหวัดชิมาเนะครับ เป็นการเที่ยวจังหวัดเดียว 3 วัน 2 คืนเลย
จังหวัดชิมาเนะตั้งอยู่ทางตอนเหนือของภูมิภาคชูโกกุ เกาะฮนชู มีลักษณะเป็นที่ราบสลับหุบเขาสูง ทิศเหนือติดกับทะเลญี่ปุ่นทำให้ชิมาเนะ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายมาก ทั้งปราสาท ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ ออนเซนธรรมชาติ เหมืองแร่ที่เป็นมรดกโลก และอาหารทะเลอย่างปูมัตสึบะ ที่แสนอร่อย และมีเฉพาะฤดูหนาวเท่านั้นครับ
การเดินทางมายังชิมาเนะนั้น ถ้าเดินทางด้วยเครื่องบินก็ลงสนามบิน Izumo ได้เลย ถ้าใช้ JR Pass จากสถานี Shin-Osaka > Okayama > Matsue จะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง หรือนั่งรถบัสจากฮิโรชิม่า ช่วงนี้ก็มีโปรนักท่องเที่ยวเหลือ 500 yen จากราคา 3,900 yen คุ้มค่ามากๆ เลยครับ
ผมมาถึงสนามบินฮาเนดะตอน 05:00น. ต่อเครื่องตอน 07:40น. ไปลงที่สนามบิน Izumo เลย สะดวกมาก ๆ เวลาเหลือ ๆ
เดินเล่นถ่ายรูปได้ แต่ร้านค้าส่วนใหญ่ยังไม่เปิดนะครับ แอบเศร้านิด ๆ
(แต่โชคดีมีฟูจิซังมาต้อนรับ ^^)
มาเริ่มกันที่จุดแรก หากต้องการขอพรเรื่องความรัก เราขอแนะนำว่า ศาลเจ้าอิซุโมไชชะ (Izumo Taisha Shrine) เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว จากสนามบินใช้เวลาขับรถ 20 นาทีเราก็มาถึงศาลเจ้าแล้วครับ
ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างมาตั้งแต่ 700 ปีก่อนคริสตกาล เป็นที่สถิตของเทพเจ้าโอคุนิโนชิ (Okuninushi) ผู้สร้างแผ่นดินญี่ปุ่นและเทพแห่งความสัมพันธ์ ที่ขึ้นชื่อในด้านการผูกดวงชะตาต่าง ๆ ทั้งเรื่องครอบครัว คนรัก เพื่อนฝูง และยังรวมถึงการงานอีกด้วยครับ ทำให้มีผู้คนจำนวนมากเดินทางมาสักการะกัน โดยเฉพาะเหล่าบรรดาสาว ๆ
ด้านหน้าทางเข้ากับเสาโทริอิสูงเด่นเห็นแต่ไกล ก่อนเดินผ่านคำนับหนึ่งครั้งแล้วค่อยเดินรอดไปฝั่งซ้ายหรือขวาก็ได้ แต่จะไม่เดินตรงกลางที่เป็นทางเดินเทพเจ้า ระหว่างทางจะมีศาลเจ้าเล็ก ๆ ให้ได้ทำความสะอาดร่างกายและจิตใจ ด้วยการคำนับ 2 ครั้ง ปรบมือ 4 ครั้ง (สำหรับตัวเอง 2 ครั้งและคนรัก 2 ครั้ง) แล้วอธิษฐานและคำนับอีก 1 ครั้ง
เชื่อกันว่าในทุกปีช่วงประมาณเดือนตุลาคม (ตามปฏิทินจันทรคติ) เทพเจ้าทั่วญี่ปุ่นจะมาชุมนุมกันที่ศาลเจ้าแห่งนี้ เป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพราะฉะนั้นถ้าใครมาขอพรในช่วงนี้ เชื่อว่าจะสำเร็จและสมหวังสูงมาก ทำให้ผู้คนมากมายมาที่นี่
เชือกฟาง ชิมาเนวะที่หอบูชา
บริเวณตรงกลางหน้าวิหารหลัก จุดที่มานมัสการเทพเจ้าโอคุนิโนชิ ที่ด้านในไม่เปิดให้เข้าชม แต่เราสามารถเดินชมจุดต่าง ๆ รอบวิหารได้ ด้านข้างจะมีเครื่องรางขาย หากเดินอ้อมไปด้านหลังจะมีวิหารหลักจำลอง ให้ชมกันด้วย และยังเป็นจุดที่เชื่อว่าอยู่ใกล้กับเทพเจ้ามากที่สุดอีกด้วยครับ
วิหารจำลอง
แผ่นป้ายบอกจุดขอพร
จูคุชะสถานที่ที่เทพเจ้าที่มารวมตัวกันใช้เป็นที่พัก
เมื่อเดินออกมาทางประตูฝั่งทิศตะวันตก จะเจอกับวิหารคากุระ (Kaguraden) ที่มีเชือกฟางชิมาเนวะ (Shimenawa) ที่ตอนนี้ (มีนาคม 2019) กำลังปรับปรุงเพื่อความปลอดภัยอยู่ ศาลเจ้าแห่งนี้ ตัวอาคารหลักมีความสูงถึง 24 เมตร และมีหลักฐานที่ทำให้เชื่อว่าเมื่อก่อนนี้ เคยมีความสูงถึง 48 เมตรเลยทีเดียว ทั้งอาคารหลักและอาคารโดยรอบได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติแห่งชาติของญี่ปุ่นอีกด้วยครับ ถ้าอยากรับพลังบวก สมหวังกับความรัก แนะนำว่าที่นี่…ไม่ควรพลาด
ออกจากศาลเจ้า Izumo Taisha ข้ามฝั่งถนนไปจะเจอกับ Shinmon Dori สองข้างทางจะเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านของฝาก เดินเล่นชิวชิว แวะพักดื่มกาแฟ ขนมหวาน หรือจะเป็นอาหารหนักเลยก็ได้ครับ
Shinmon Dori
ร้านกาแฟน่านั่งกับศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยว
ร้านขายของฝากที่รวบรวมสินค้าเมือง Izumo มาไว้ที่นี่
กระต่ายตำนานแห่งความรักของเจ้าหญิงและเทพเจ้าโอคุนิโนชิ
เดินเล่นกันพอประมาณ ได้เวลาท้องเริ่มทำงานตามเวลา เราก็แวะไปที่ Shimane Winery โรงกลั่นไวน์ และสวนองุ่นเดลาแวร์ ที่นี่นอกจากจะชมการผลิต ลองชิมแล้ว ยังมีเนื้อวัววากิวชิมาเนะ ทีมันอร่อยมาก ๆ เลยครับ
เนื้อชิมาเนะหน้าตาจะหล่อประมาณนี้ครับ
หลังจากเตาร้อน เสียงคุยจะหายไป…ทานแล้วนะครับ
ภายในกว้างขวาง
เซ็ตนี้ที่เลือกมาชิม
อิ่มแล้วจะแวะชิมไวน์ก็ได้นะ
ที่ Shimane Winery ช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน จะเป็นช่วงเก็บเกี่ยวองุ่น สามารถชมการผลิตไวน์ และมีให้ชิมรสมากกว่า 10ชนิด ส่วนร้านค้า ร้านอาหาร บาร์บิคิว เนื้อวัวชิมาเนะวากิว เปิดทุกวัน และไม่มีค่าเข้าชม จากศาลเจ้าขับรถ 15นาที ถ้ามารถไฟ JR สถานีที่ใกล้สุดคือ Izumo นั่งแท็กซี่ หรือรถบัสอิชิบะตะ 20นาที
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.shimane-winery.jp
อีกจุดที่เราอยากแนะนำก็คือ หาดอินะสะ (Inasanohama Beach) ชาดหาดฝั่งทะเลญี่ปุ่นที่เห็น โขดหินขนาดใหญ่ ด้านบนมีศาลเจ้าเล็ก ๆ ตั้งอยู่ เชื่อกันว่า จุดนี้คือทางขึ้นลงของเทพเจ้าที่ไปชุมนุมกันที่ ศาลเจ้าอิซุโมะ และที่นี่เคยเป็นเกาะมาก่อน ผ่านกาลเวลามาจนเหลือแค่โขดหิน ชาวบ้านจึงสร้างศาลไว้บูชาเทพแห่งท้องทะเล
ไปกันต่อเลยที่ พิพิธภัณฑ์ทรายแห่งนิมะ (Nima Sand Museum) เมืองโอดะ (Oda) ครับ ใช้เวลาขับรถจากชายหาดอินะสะ 50นาที พอก้าวลงจากรถ สิ่งที่เห็นและสะดุดตาที่สุดก็คือ…
อาคารกระจกทรงพีระมิด ที่ดูโดดเด่น และทันสมัยมาก ๆ กลืนไปกับสภาพแวดล้อม แถมอาคารนี้ยังสามารถให้แสงสว่างกับภายในอาคารได้อีก ส่วนด้านในก็น่าทึ่งไม่แพ้กัน มีการจัดแสดงเรื่องราวต่าง ๆ ของทราย ที่ละเอียดมาก และที่เป็นไฮไลท์เลยก็คือ นาฬิกาทราย ที่สามารถจับเวลาได้นานถึง 1 ปีเลยทีเดียว
นาฬิกาทราย ด้านบนยอดพีระมิด
ขนาดกว้างกว่า 1 เมตร
เปลือกหอยต่าง ๆ
แต่ละห้องแต่ละโซนบอกเล่าเรื่องราวของ “ทราย”
การทำการ์ดสวย ๆ จากทรายสี
ห้องชั้นล่างสุดจัดแสดง ศิลปะจากดินและทราย
พิพิธภัณฑ์ทรายแห่งเมืองนิมะ ถือเป็นสิ่งปลูกสร้างจากทราย ที่สูงกว่า 5 เมตร และมีขนาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย ที่นี่เปิดทุกวันครับ เวลา 09:00 – 17:00 ค่าเข้าชม 700Yen ขับรถมาก็สะดวกมีที่จอดรถให้ หากมาทางรถไฟ ขึ้นสาย San-In มาลงสถานี Nima เดินต่ออีก 10 นาทีถึงครับ
ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.sandmuseum.jp
มาถึงจุดสุดท้ายของตอนนี้ล่ะครับ การเดินทางตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ร่างกายเกิดความเหนื่อยล้า เรามุ่งหน้าสู่ “ยูโนะสึ ออนเซ็น Yunotsu Onsen” หมู่บ้านออนเซ็นที่มาจากตาน้ำธรรมชาติ ช่วยบำรุงผิวพรรณ เป็นหนึ่งในออนเซ็นที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น (สังเกตได้จากสาว ๆ ของจังหวัดชิมาเนะ ผิวพรรณดี และสวยมากครับ ^^)
ยูโนะสึ ออนเซ็น มีชื่อเสียงอย่างมากในช่วงสมัยเอโดะ เพราะอยู่ใกล้ท่าเรือที่ใช้ส่งแร่เงิน และเหมืองเงินอิวามิ มีผู้คนประมาณ 2 แสนคนในยุคนั้น ทำให้ธุรกิจห้องอาบน้ำสาธารณะและที่พักแบบญี่ปุ่นเรียวกัง (ryokan) ที่นี่คึกคักมาก
ปัจจุบันก็ยังคงเก็บรักษาสภาพอาคารบ้านเรือน ที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองเอาไว้ ถ้าอยากสัมผัสวิถีชีวิตคนญี่ปุ่นแท้ ๆ บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสงบร่มเย็นของเมืองท่องเที่ยวแบบที่หาไม่ได้ในเมืองใหญ่ ๆ ต้องไม่ควรพลาดที่นี่ครับ
ห้องอาบน้ำสาธารณะ ยาคุชิยุ (Yakushiyu) ที่ได้น้ำแร่จากตาน้ำธรรมชาติ อุดมไปด้วยแร่ธาตุ มีบ่อแยกชาย-หญิง มีห้องอาบน้ำส่วนตัวที่ต้องจองก่อน ชั้นสองเป็นห้องพัก และดาดฟ้าชั้นสาม มีมุมกาแฟให้ดื่มฟรี สำหรับค่าบริการ 350 yenเท่านั้น
ห้องอาบส่วนตัว 40 นาที 650 Yen
บริเวณพักผ่อนชั้นสอง
สิ่งของต่าง ๆ ในอดีตถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี
อาคารไม้เก่าแก่ที่มีอายุกว่าร้อยปีหลังนี้ เดิมเคยเป็นออนเซ็นที่เก่าแก่ที่สุดใน Hotsumitsu 1 ใน 5 อาคารที่ทรงคุณค่าทางสถาปัตยกรรม ปัจจุบันได้เปลี่ยนมาเป็นคาเฟ่ Kuranojo
เดิมเคยเป็นทางเข้าออนเซ็น
เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เป็นของดั่งเดิมทั้งหมด
หน้าตาของหวาน ชา กาแฟ น่าทานมั้ยครับ
และคืนนี้ที่พักของเราเป็นโรงแรมแบบเรียวกังครับ ยูโนะสึ ออนเซ็น คิอึนโสะ (Yunotsu Onsen Kiunso) ราคาไม่แพงครับ
และในโรงแรมก็มีออนเซ็นไว้ให้บริการด้วยทั้งบ่อรวม บ่อส่วนตัว สามารถขอกุญแจจากพนักงานได้เลย
ห้องพักกว้าง มีห้องน้ำในตัว ห้องอาบน้ำแยก
สวนญี่ปุ่นบริเวณกลางโรงแรม
ห้องอาหารเป็นเซ็ตอาหารแบบไคเซกิ
ทุกค่ำคืนวันเสาร์ ที่ยูโนะสึ ออนเซ็น จะมีการแสดง คางุระ (Kagura) ละครหน้ากากที่คนในท้องถิ่นจะเป็นผู้แสดง เดิมเป็นการเต้นรำที่นักบวชจัดขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าที่มีเรื่องราวมาจากพงศาวดารที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น
เทพเจ้าแห่งความสุข ออกมาสร้างความสุขให้ผู้ชม
นอกจากเสียงร้องเสียงดนตรี แสงสีก็จัดเต็มมากครับ
การแสดงคางุระ มีรูปแบบมากกว่า 30 แบบ ชุดแต่งกายและการเต้นที่แตกต่างกันไป ซึ่งในวันที่เรามานั้น จะได้ชมการแสดงร่ายรำ 2แบบ โดยจะเปลี่ยนการแสดงทุกสัปดาห์ สามารถซื้อบัตรเข้าชมได้ที่ ศาลเจ้าทาสึโนะ โงเซ็น (Tatsuno-gozen Shrine) 1,000 yen ทุกวันเสาร์เวลา 20:00น ถึง 21:00น
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://iwami-kagura.jimdo.com
รถประจำทางวิ่งผ่านห้องอาบน้ำสาธารณะยาคุชิยุ (Yakushiyu)
สำหรับการเดินทางมายัง ยูโนะสึ ออนเซ็น หากขับรถมาจากศาลเจ้า Izumo Taisha ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากพิพิธภัณฑ์ทรายแห่งนิมะ ใช้เวลาเพียง 10 นาที สำหรับรถไฟ JR สาย San-In มาลงที่สถานี Yunotsu ต่อรถแท็กซี่หรือรถประจำทาง 5 นาทีถึงครับ
ข้อมูลการท่องเที่ยว จังหวัดชิมะเนะ เพิ่มเติม
https://www.facebook.com/shimane.th/
เรื่องแนะนำ :
– เจแปน จุด จุด จุด เที่ยวญี่ปุ่นในจุดที่คุณ…ไม่ควรพลาด SHIMANE : จังหวัดเดียวเที่ยวครบ ตอนที่ 2
– เจแปน จุด จุด จุด เที่ยวญี่ปุ่นในจุดที่คุณ…ไม่ควรพลาด SHIMANE : จังหวัดเดียวเที่ยวครบ ตอนที่ 3
#Shimane #ชิมาเนะ