Samurai Blue “ทำไมทีมญี่ปุ่นต้องฝันว่าจะได้ที่สี่ในบอลโลก… ก็บอกโลกไปเลยว่า ญี่ปุ่นตั้งเป้าจะเป็นแชมป์โลก” ในตอนนั้นทุกคนหันขวับมาหาฮอนดะและอึ้ง… เพื่อนร่วมทีม โค้ช และนักข่าวทั้งหมดทำหน้าราวกับจะบอกว่า นี่มึงไม่รู้จัก โรนันโด เมสซี่ หรือนักเตะที่รายได้กว่าร้อยล้านบาทต่อเดือนหรือไง?
ปี๊ดดดดดดด……
เสียงนกหวีดยาวที่สนามรอสตอฟ อารีนา ดังขึ้น… ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2018
ตามด้วยเสียงร้องไห้ของเหล่านักเตะทีมชาติญี่ปุ่น ซามูไรสีน้ำเงิน… นักเตะชุดนี้หลายคนเลยหรือใกล้วัยสามสิบมากแล้ว นั่นหมายความว่าเสียงนกหวีดบอกหมดเวลาเมื่อวินาทีตะกี้ เป็นเสียงบอกพวกเขาว่า… เวลาในฟุตบอลโลกของพวกเขาอวสานแล้ว โลกอันกว้างใหญ่สอนพวกเขาว่าบางทีฉากสุดท้ายของความฝัน อาจไม่ตรงกับความจริง….
นิชิโนะ ผู้จัดการทีมของทีมชาติญี่ปุ่นชุดนี้ ประกาศลาออกจากตำแหน่งทันที ทั้งๆ ที่ตัวเองต้องรับตำแหน่งก่อนบอลโลกจะแข่งแค่สองเดือน และสามารถพาเรือซามูไรบลูมาได้ไกลที่สุดเท่าที่ฟุตบอลญี่ปุ่นเคยทำได้ (ญี่ปุ่นทำได้ดีที่สุดในเวทีบอลโลกคือ 16 ทีมสุดท้ายและนี่คือครั้งที่สามที่เขาทำสำเร็จ ต่อจากปี 2002 และ2010)
“ให้เหล่าคนมีฝันรุ่นต่อไป… ขึ้นมาเดินต่อเถิดครับ”
ผมจะเป็นนักบอลอันดับหนึ่งของโลก
ผมรู้ว่าการจะเป็นแบบนั้น จะต้องฝึกและพยายามอย่างหนัก และผมกำลังพยายามอยู่
เมื่อเป็นอันดับหนึ่งของโลก ผมจะรวย…. ผมจะรวยมากและเลี้ยงพ่อแม่ได้
ผมจะเป็นตัวจริง ผมจะสุกสกาว โดดเด่นและผมจะใส่เบอร์สิบ ให้โลกได้เห็น…
ในปีนึงๆ ผมอยากได้เงินค่าจ้าง สี่พันล้านเยน (ประมาณพันสี่ร้อยล้านบาท)
ในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกที่แสนยิ่งใหญ่ ทีมญี่ปุ่นของเราจะชนะบราซิล 2-1
นี่คือฝันของผม
คุณครูอ่านเรียงความของเด็กคนนี้… ครูคงรู้… ว่ามันคือความฝันอันไกลโพ้น สุดขอบเขตจักรวาลของคนญี่ปุ่นหรืออาจจะเป็นเลยขอบเขตจักรวาลของคนทั้งเอเซียเลยก็ว่าได้
ครูเขียนตอบไปในเรียงความของเด็กคนนี้เพียงแค่ Gambatte kudasai (พยายามเข้านะ) พร้อมกับคิดในใจว่า… แล้วโลกกว้างใบนี้ จะค่อยๆ สอนความจริงให้เธอเอง เจ้าเด็กน้อย ฮอนดะ เคซุเกะ
บุคลิกของฮอนดะ เคสุเกะ ต่างกับอิมเมจของคนญี่ปุ่นที่พวกเราคนไทยรับรู้อยู่หลายอย่าง
ฮอนดะพูดออกสื่อไม่มีถ่อมตัว
“ทำไมทีมญี่ปุ่นต้องฝันว่าจะได้ที่สี่ในบอลโลก… ก็บอกโลกไปเลยว่า ญี่ปุ่นตั้งเป้าจะเป็นแชมป์โลก”
ในตอนนั้นทุกคนหันขวับมาหาฮอนดะและอึ้ง… เพื่อนร่วมทีม โค้ช และนักข่าวทั้งหมดทำหน้าราวกับจะบอกว่า นี่มึงไม่รู้จัก โรนันโด เมสซี่ หรือนักเตะที่รายได้กว่าร้อยล้านบาทต่อเดือนหรือไง?
แต่บอลโลกในครั้งที่ผ่านมา ญี่ปุ่นเปลี่ยนแปลงไป…
จากทีมที่เป็นไม้ประดับเต็มตัว แพ้สามนัดในฟุตบอลโลกครั้งแรกของประวัติศาสตร์ที่ฝรั่งเศส
ทีมที่โดนบราซิลถลุงไปสี่ประตู และยอดนักเตะอย่างนากาตะต้องร้องไห้ กลางสนามใต้ท้องฟ้าที่เยอรมัน
ทีมที่ไม่เคยทำผลงานบอลโลกได้ดีกว่า ทีมชาติเกาหลีใต้ คู่แข่งตลอดกาลของเขา
ทีมที่สื่อมวลชนหลายชาติ ชอบนำเสนอถึงความเรียบร้อยว่าเก็บขยะสะอาด มากกว่าจะชมความสามารถของเหล่านักเตะ
ในนัดสุดท้ายที่พวกเขาต้องเล่นกับทีมชาติเบลเยี่ยม… นื่คือทีมที่เคยถูกจัดอันดับแรงก์กิ้งบอลโลกเป็นอันดับหนึ่งของโลก ในนาทีนี้พวกเขามีดาวยิงที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศเบลเยี่ยม เขามีกองกลาง กองหน้าหลายคนที่ค้าแข้งอยู่ในทีมชั้นนำของโลก ที่คนญี่ปุ่นเองยังทำไม่ได้
ญี่ปุ่นบุกใส่เบลเยี่ยม จนยิงนำเบลเยี่ยมถึงสองประตู ที่บุกจนโลกตกใจว่า ทีมเอเซียคิดได้ยังไง เขาลืมไปหรือเปล่าว่าเบลเยี่ยมวันนี้คือทีมเกรดเอจากยุโรป นาทีนี้เขาเหนือกว่าสเปนหรือเยอรมันด้วยซ้ำ
เหล่าซามูไร สีน้ำเงินกำลังจะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ แต่แน่นอน เราลืมไม่ได้ว่าเบลเยี่ยมวันนี้คือทีมระดับโลก เผลอๆ จะดีพอที่จะได้แชมป์โลกด้วยซ้ำ
ญี่ปุ่นที่ตัวเล็กกว่า โดนโจมตีด้วยลูกกลางอากาศและได้ผล ญี่ปุ่นโดนถลุงไปถึงสองประตู และนาทีแห่งความดราม่าก็เกิดขึ้น เมื่อเกมเข้าสู่นาทีที่ 93 นี่คือช่วงทดเวลาบาดเจ็บแล้วแท้ๆ ญี่ปุ่นได้ลูกเตะมุม โดยตำราฟุตบอลทั่วไป ทีมตัวเองเพิ่งโดนไล่แทงมาเป็น 2-2 มักจะเน้นเกมรับ แล้วให้ผู้จัดการทีมปรับเกม ก่อนเข้าสู่ช่วงต่อเวลาสามสิบนาที แต่ญี่ปุ่นไม่ทำ…
ฮอนดะ วิ่งไปเตะมุมเอง แฟนบอลเห็นชัดว่าญี่ปุ่นที่ถ้าเปรียบเป็นซามูไร ตอนนี้เขามีแผลเหวอะหวะให้ฝ่ายตรงข้ามเห็นชัดแล้ว แต่กลับหยิบดาบบุกใส่เบลเยี่ยมหวังจะให้เกมจบในดาบเดียว แต่อย่างที่เราทราบกัน บางทีฟ้าก็ลิขิตมาแล้ว พอญี่ปุ่นทำไม่ได้เบลเยี่ยมโต้กลับและยิงประตูชัย ในวินาทีสุดท้ายของเกม… 3-2
ผมเชื่อว่าหลายๆ คนคงนึกถึงคำกล่าวยอดฮิตที่ว่า
จงตั้งเป้าหมายไว้ที่ดวงจันทร์ เพราะถึงแม้ว่าคุณจะไปไม่ถึง คุณก็ยังได้อยู่ท่ามกลางหมู่ดาว
แต่ความจริงก็คือ… ระหว่างดวงจันทร์กับโลกของเรา ไม่มีหมู่ดาวมารายล้อม
ความฝันของทั้งฮอนดะกับนักเตะอีกหลายคน ก็จบลงพร้อมกับเสียงนกหวีดในวันนั้น คงเป็นไปได้ว่า ฝันให้ไกล วันหนึ่งคงได้ไปถึง… แต่อาจจะไม่ใช่วันนี้
แต่… ญี่ปุ่นให้อะไรกับพวกเรา ไม่น้อยเลยทีเดียว
พวกเขาทำให้เราเห็นว่า ญี่ปุ่นดีพอแล้วในเวทีบอลโลก ตรงกันข้ามมันทำให้ทีมชาติไทยกลัวด้วยซ้ำ… ว่าเขากำลังจะทิ้งพวกเราไปอีกระดับหนึ่ง
ความฝันที่ดูเหมือนโง่เง่าในยี่สิบปีที่แล้วของฮอนดะ… เริ่มไม่ใช่เรื่องโง่ๆ ในอนาคตแล้ว
และที่สำคัญ… ไม่ว่าในสนามเขาจะก้าวร้าว และบ้าบิ่นแค่ไหน… เขาไม่เคยลืมมารยาทที่ดีเสมอ
อยากให้คนไทยรีบเดินตามญี่ปุ่นไปให้เร็ว
เรื่องแนะนำ :
– [ทดความคิด] เพราะวิถีญี่ปุ่น ปกติอาจไม่ใช่ปกติ?!
– ปรัชญาฟุตบอล x การทำงาน (Ep.01 Zanshin – 残心 ใจที่ยังหลงเหลืออยู่)
– ในวันที่เทพธิดาเห็นผม
– ว่าด้วยเรื่องลางาน : คนญี่ปุ่นเซอร์ไพรส์ไทย และคนไทยก็งงญี่ปุ่น
– (13++) เบคาราสุ Last Episode นิทานเมื่อทำงานกับญี่ปุ่น ไม่ถึงห้าม แต่อย่าทำดีกว่า