คุณหมอคนไทย จ้องหมอญี่ปุ่นแบบเกรี้ยวกราด เราต้องปฎิบัติตามกฎโดยให้ชีวิตเด็กที่กำลังจะตายอยู่ตรงหน้าเป็นเครื่องเซ่นไหว้ ความศักดิ์สิทธิ์ของกฎนี่นะ ก็รู้อยู่ว่าคนไทยชินกับเรื่องการไม่ทำตามกฎมากแค่ไหน
ตอนนี้ที่ทำงานของผู้เขียนเอง มีเรื่องให้พูดถึงเกี่ยวกับระเบียบ กฎเกณฑ์ กติกา… ที่คนไทยกับคนญี่ปุ่นอาจจะให้ความสำคัญไม่ค่อยเท่ากัน
– การมาสายสักสามสี่นาที ต้องโดนนับว่ามาสายด้วยเหรอ (ไทยคิด… แต่ญี่ปุ่นถาม แล้วต้องนิยามกี่นาทีดีล่ะ 7 นาทีกับอีก 1 วิ… 15 นาที หรือเท่าไหร่ดี)?
– รู้สึกไม่สบายเลยไลน์มาบอกที่ทำงานว่า ป่วยจริงแต่ยังเปิดโน้ตบุ้คไหว จึงขอทำงานที่บ้านแต่ไม่ให้นับเป็นวันลาป่วย โอเคไหม (ไทยบอกต้องโอเคสิ ญี่ปุ่นชะงักเพราะบริษัทยังไม่ได้ประกาศนโยบาย work from home เลยไม่รู้ว่าจะเอางัย)
– เวลาเขียนเอกสาร ถ้ามีบรรทัดว่างๆ เกินมา หรือไม่ยอมอธิบายว่าใช้สี ใช้เส้นประทำไมจะโดนว่า (พวกเด็กใหม่ๆ มักจะคิดแค่ใส่แล้วสวย ใส่แล้วอ่านง่าย พลาดมากกกก^^)
<< วันนี้มี case study อันนึง ที่ผมว่าน่าสนใจมากเลยอยากแชร์ให้ฟังกันครับ >>
ดราม่าเกิดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ที่มีหมอไทยกับญี่ปุ่นมาทำงานร่วมกัน
หมอไทยเชื่อมั่นว่าถึงพวกเขามาจากประเทศโลกที่สาม แต่พวกเขาผ่านการคัดเลือกอย่างหนักหน่วง หนังสือที่พวกเขาอ่านจนแทบกระอักเลือด หมอไทยไม่แพ้ใครในโลกหรอก!
ญี่ปุ่นเองก็มาตรฐานสูงอยู่แล้ว เขาภาคภูมิใจกับการเป็นชาติที่อายุคนเฉลี่ยสูงสุดในโลก ที่ได้มาใช่เพราโชคข่วย แต่ก็เพราะมือหมอนี่ล่ะ
เย็นวันหนึ่ง คนไข้เคสอาการน่าเป็นห่วง ถาโถมเข้ามายังกับห่าฝน
“เราต้องให้ยา AAA กับน้องคนนี้เด๋วนี้ น้องหน้าเขียวแล้ว ระบบหายใจกำลังล้มเหลว” หมอสาวไทยตัดสินใจในเสี้ยวนาที
“ช้าก่อน เรายังไม่ตรวจเลือดเด็กคนนี้ ตามกระบวนการ ยาตัวนี้ถ้าไม่เช็คผลเลือดก่อน ยังไงก็ให้ไม่ได้ คุณก็รู้ว่ายาตัวนี้มันมีผลข้างเคียง เด็กแพ้กันอยู่เยอะ” หมอญี่ปุ่น ยืนยันเสียงแข็ง
“ถ้าต้องรอผลแล็ป อย่างน้อยก็อีกสองชั่วโมง คนไข้ตายแน่”
ความคัดแย้งก่อตัวขึ้น บนเส้นด้ายความเป็นตายของเด็กวัยไม่ถึงสิบขวบ…
“ไม่ต้องเถียงแล้ว ฉีดยาเลย” คนไทยชนชาติที่ถนัดเรื่องแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าได้สตรองมาก พูดก่อน
“ถ้าทำแบบนี้ ไม่ใช่แค่คุณ โรงพยาบาลจะโดนฟ้อง” คนญี่ปุ่นชนชาติที่สตรองทั้งเรื่องกระบวนการ เรื่องการรับมือกับความเสี่ยงและภัยพิบัติ
“เด็กกำลังจะตาย ในฐานะที่เป็นหมอ เป็นมนุษย์ เราไม่เพี้ยนพอที่จะรออีกสอง ชม. เราต้องเสี่ยงเดี๋ยวนี้” เธอยังไม่ยอมถอย
“คุณรับผิดชอบเรื่องนี้คนเดียวไม่ได้แน่”
คุณหมอคนไทย จ้องหมอญี่ปุ่นแบบเกรี้ยวกราด เราต้องปฎิบัติตามกฎโดยให้ชีวิตเด็กที่กำลังจะตายอยู่ตรงหน้าเป็นเครื่องเซ่นไหว้ ความศักดิ์สิทธิ์ของกฎนี่นะ ก็รู้อยู่ว่าคนไทยชินกับเรื่องการไม่ทำตามกฎมากแค่ไหน
ส่วนหมอญี่ปุ่น มองไม่เห็นความบกพร่องของตัวเองเลย… กระบวนการสร้างขึ้นมาเพื่อลดความเสี่ยงทั้งองค์กร คนไข้และตัวหมอเอง ยา AAA ที่ให้ก็ไม่ได้หมายความว่าเด็กจะหาย 100% และถ้าผลออกมาคือยาตัวนี้เด็กแพ้… ซวยกันทั้งโรงบาล
แล้วถ้าเป็นคุณ… จะเลือกยังไงล่ะ ?!.
เราอาจจะคุ้นชินกับดินแดนที่การไม่ทำตามกฎเกณฑ์ เป็นเรื่องไม่ได้คอขาดบาดตาย… แต่กับบางชาติรวมถึงญี่ปุ่น การไม่ปฎิบัติตามข้อตกลง กฎหรือกระบวนการ นับเป็นเรื่องที่แย่มาก… เราแทบไม่เคยเห็นคนญี่ปุ่นมาประชุมสายสองสามนาที เราไม่ชินกับญี่ปุ่นป่วยการเมือง (เพราะประเทศเขาลาป่วยหรือลากิจ ลาพักร้อนก็โดนนับเป็นลาเหมือนกันหมดอ่ะสิ)
ไม่ได้มีใครผิด หรือใครถูก… ไม่ใช่ว่าญี่ปุ่นหรือไทยทุกคนจะคิดเหมือนกันด้วย มันเป็นเรื่องแค่เราอยู่บนโลกที่แต่ละคนให้คุณค่าในแต่ละเรื่องไม่ได้เหมือนกันหรือเท่ากัน …
มันอยู่ที่ว่าคุณต้องเลือกเอง
* เรื่องเล่าอันนี้ ได้เค้าโครงมาจากเหตุการณ์จริง แต่ชื่อบุคคล สถานที่ไม่อาจเปิดเผยได้…
เรื่องแนะนำ :
– [เรื่องสั้น ทดความคิด] เครื่องจักรผีสิง
– [ดราม่าฤดูฝน] สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ซาลารี่แมน
– [ทดความคิด] “เพียงชั่วเวลากาแฟยังอุ่น” แล้วคุณจะรักกับสิ่งที่เรียกว่าปัจจุบัน
– [ทดความคิด] ฉันอยู่นี่ ศัตรูที่รัก
– [ทดความคิด] ขอเวลาอีกไม่นาน ญี่ปุ่นจะได้ปฏิวัติ