สวัสดีค่ะ…มาชมโบสถ์มรดกโลกนางาซากิกันต่อในตอนที่ 1 ล่องเรือไทโกะไปหมู่เกาะโกโต้ ทริปนี้ไปไกลถึงหมู่เกาะโกโต้ และบริเวณโซโตเมะทางภาคตะวันตกของนางาซากิที่น้อยคนจะเดินทางไป เพื่อไปชมโบสถ์มรดกโลกแห่งใหม่และสถานที่ต่างๆ ที่น่าสนใจ จึงนำมาเล่าสู่กันฟังค่ะ
สวัสดีค่ะ
ตอนก่อนๆ ป้าหมวยยยเจาะลึกเรื่อง 12 สถานที่มรดกโลกแห่งใหม่ปี 2018 หรือ “มรดกคริสตังลับในพื้นที่อามาคุสะและนางาซากิ” (長崎と天草地方の潜伏キリシタン関連遺産 Nagasaki to Amakusa Chihō no Sempuku Kirishitan Kanren Isan) หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า “Hidden Christian Sites in the Nagasaki Region” จนครบตามลิงค์นี้
– แลมรดกโลก : มรดกคริสตังลับแห่งนางาซากิและอามาคุสะ ตอนที่ 5
– แลมรดกโลก : มรดกคริสตังลับแห่งนางาซากิและอามาคุสะ ตอนที่ 4
– แลมรดกโลก : มรดกคริสตังลับแห่งนางาซากิและอามาคุสะ ตอนที่ 3
– แลมรดกโลก : มรดกคริสตังลับแห่งนางาซากิและอามาคุสะ ตอนที่ 2
– แลมรดกโลก : มรดกคริสตังลับแห่งนางาซากิและอามาคุสะ ตอนที่ 1
ซึ่งในบทความตอนนี้และต่อจากนี้ก็ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับมรดกโลกข้างต้นอยู่ค่ะ จริงๆ เรื่องมรดกคริสตังลับในนางาซากิและอามาคุสะรวมทั้งประวัติศาสตร์เกี่ยวกับคริสตังลับนี้อยู่ในความสนใจของป้ามานานแล้ว และหากเป็นไปได้ อยากจะไปเยี่ยมชมให้ครบทุกแห่งตามแต่เงิน เวลาและสถานการณ์จะอำนวย
ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2018 ที่ผ่านมา ป้าหมวยยยมีทริปไปจังหวัดนางาซากิ ซึ่งเคยไปมาสองสามครั้งแล้ว แต่ทริปนี้ไปไกลถึงหมู่เกาะโกโต้ และบริเวณโซโตเมะทางภาคตะวันตกของนางาซากิที่น้อยคนจะเดินทางไป เพื่อไปชมโบสถ์มรดกโลกแห่งใหม่และสถานที่ต่างๆ ที่น่าสนใจ จึงนำมาเล่าสู่กันฟังค่ะ
ช่วงนั้นเป็นช่วงฤดูร้อนของญี่ปุ่นพอดีค่ะ ป้าพอจะรู้ถึงเสียงเล่าลือว่ามันร้อนนะคะ แต่ช่วงนั้นวันหยุดที่ไทยเยอะและเป็นฤดูที่น่าจะเหมาะกับการเที่ยวเกาะก็เลยจองตั๋วไป พอไปถึงจริงๆ …. อื้อหือ ร้อนมหากาฬมาก เลยเป็นที่มาของชื่อทริปอย่างที่เห็นข้างต้นนั่นแหละค่ะ
วันที่ 1 : ช้อปร้าน Tutu Anna, แวะพิพิธภัณฑ์คิวชู, สำรวจเรือไทโกะ
วันแรกป้าเดินทางจากกรุงเทพมาถึงฟุกุโอกะช่วงเช้า และมีกำหนดเดินทางด้วยเรือเฟอร์รี่ช่วงค่ำ ดังนั้นช่วงกลางวันจึงมีเวลาเที่ยว แต่ด้วยความขี้เกียจไปไกลเลยเลือกเที่ยวแถวๆ ฮาคาตะก็พอ
ป้าเดินทางเข้าเมืองแล้วฝากกระเป๋าเดินทางโดยใช้บริการ Ekbocloak แถวเท็นจิน (บริการนี้ป้าว่าสะดวกดีค่ะ จองและจ่ายหักบัตรเครดิตไว้ล่วงหน้า ได้ที่ฝากแน่นอนไม่ต้องลุ้นว่าตู้ล็อกเกอร์เต็ม) แล้วไปเดินร้านจูจู แอนนา (Tutu Anna) ที่เล็งไว้
ร้านถุงเท้าชุดชั้นในสตรี Tutu Anna ที่ห้าง Mina Tenjin
ร้าน Tutu Anna นี้อยู่ที่ชั้น B1 ของห้างมีนะเท็นจิน (ミーナ天神 Mīna Tenjin) เป็นร้านขายถุงเท้าและชุดชั้นในค่ะ มีหลายสาขาทั่วญี่ปุ่น สินค้าในร้านสวยๆ น่ารักทั้งนั้น มีทั้งถุงเท้า ถุงน่อง เลกกิ้ง สารพัดแบบสำหรับใส่ในโอกาสต่างๆ ราคาก็น่าสนใจ 3 ชิ้น 1,000 เยน (+ภาษีต่างหาก) สินค้าเป็นแบบผู้หญิงเสียส่วนใหญ่ แต่ก็มีถุงเท้าไซส์ใหญ่สำหรับผู้ชายด้วย บางรุ่นเป็นแบบลดกลิ่นเหมาะสำหรับใส่วันทำงานหรือเล่นกีฬา ป้าไปสอยถุงเท้ามาได้หลายคู่
ในห้าง Mina Tenjin นี้มีร้านค้ามากมายเช่น Uniqlo, 3 Coins และอื่นๆ นอกจากนี้ยังใกล้ตึก North Tenjin (ノース天神 Nosu Tenjin) ที่มี Book Off Super Bazaar (ชั้น 6) ด้วย วิธีเดินทางก็ไม่ยาก จากรถไฟใต้ดินสถานี Tenjin เดินไปตามศูนย์การค้าใต้ดิน Tenjin Chikagai (天神地下街) ไปทาง Showa Avenue (昭和通り Showa Dori) สุดทางแล้วขึ้นบันไดค่ะ
จากนั้นขึ้นรถบัสไป Canal City และศาลเจ้าคุชิดะ (櫛田神社 Kushida Jinja) เพราะไม่ได้มานานแล้ว จากนั้นก็ขึ้นรถบัสกลับมาที่เท็นจินเพื่อเดินทางไปเที่ยวดาไซฟุด้วยรถไฟสายเอกชนนิชิเท็ตสึ
การเดินทางไปดาไซฟุ (太宰府 Dazaifu) กับรีวิวศาลเจ้าดาไซฟุเท็นมังกู (太宰府天満宮 Dazaifu Tenmangū) มีคนทำไว้เยอะแล้ว ป้าหมวยยยคงไม่พูดถึงนะคะ
จุดประสงค์หลักของป้าที่ไปดะไซฟุคราวนี้คือ เข้าชมพิพิธภัณฑ์แห่งชาติคิวชู (九州国立博物館 Kyūshū Kokuritsu Hakubutsukan หรือ Kyushu National Museum) ค่ะ
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติคิวชู
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่ด้านหลังของพื้นที่ศาลเจ้าดะไซฟุ เปิดทำการในปี 2005 เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติแห่งที่ 4 ที่สร้างขึ้นนอกเหนือจากพิพิธภัณฑ์แห่งชาติที่โตเกียว เกียวโต และนารา ปัจจุบันอยู่ภายใต้การบริหารของ The National Institute of Cultural Heritage ร่วมกับจังหวัดฟุกุโอกะ
ภายนอกออกแบบเป็นอาคารรูปทรงโค้งมนกลมกลืนกับภูเขาที่อยู่ล้อมรอบ ภายในมี 4 ชั้น
ชั้น 1 เป็น Main Hall มีเคาน์เตอร์ต้อนรับและยืมเครื่อง guide audio บรรยายภาษาต่างประเทศ ตู้จำหน่ายบัตร คาเฟ่ ลานกิจกรรมสำหรับเด็กและร้านขายของที่ระลึก เป็นต้น
ชั้น 2 เป็นพื้นที่เฉพาะเจ้าหน้าที่สำหรับจัดเก็บและบูรณะโบราณวัตถุ
ชั้น 3 เป็นชั้นจัดแสดงนิทรรศการพิเศษ (Special Exhibition) จัดแสดงศิลปวัตถุและโบราณวัตถุจากพิพิธภัณฑ์อื่นๆ ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ตามข้อตกลงความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนการจัดแสดงโบราณวัตถุ-ศิลปวัตถุระหว่างกัน มีห้องจัดแสดงย่อย 3 ห้อง พื้นที่จัดแสดงทั้งสิ้น 1,500 ตารางเมตร การเข้าชมต้องเสียเงินต่างหาก ราคาแตกต่างกันไปแต่ละนิทรรศการ
ชั้น 4 เป็นชั้นจัดแสดงนิทรรศการกึ่งถาวรภายใต้แนวคิด “เข้าใจการหล่อหลอมวัฒนธรรมญี่ปุ่นผ่านมุมมองทางประวัติศาสตร์เอเชีย” โดยจัดแสดงศิลปวัตถุและโบราณวัตถุที่เกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของภูมิภาคคิวชูกับประเทศต่างๆ ในแต่ละยุคสมัย ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ไปจนถึงยุคเปิดประเทศปี 1853 รวมทั้งมี Feature Exhibition ซึ่งจะจัดแสดงวัตถุสิ่งของพิเศษที่ยืมมาจากพิพิธภัณฑ์หรือวัดสำคัญต่างๆ ในส่วนนี้แบ่งเป็น 5 โซน แต่ละโซนมีห้องจัดแสดงย่อยรวม 11 ห้อง มีพื้นที่จัดแสดงทั้งสิ้น 5,300 ตารางเมตร
นอกจากชมโบราณวัตถุทั่วไปที่จัดแสดงแล้ว ช่วงที่ป้าไปเขากำลังมี Feature Exhibition 3 รายการ คือ
“All-Japan Highschool Archeological Legacy 2018” ซึ่งจัดแสดงส่วนหนึ่งของวัตถุโบราณที่มีการเก็บรักษาไว้ที่โรงเรียนมัธยมปลายทั่วญี่ปุ่นโดยมาจากการบริจาคหรือการขุดค้น
“Images on Ritual Bronze Bells” ซึ่งจัดแสดงระฆังโบราณที่เรียกว่า โดตะคุ (銅鐸 Dōtaku) อายุราวสองพันปีที่มีการทำลวดลายแสดงวิถีชีวิตของผู้คนในยุคสมัยนั้น
และสุดท้ายคือ นิทรรศการ “Thousand-arm Kannon (Sahasrabhuja) and Followers in Ninanji Temple” ซึ่งจัดแสดงพระสหัสภุชโพธิสัตว์ (千手観音 Senju Kannon) หรือพระโพธิสัตว์พันกร และเทพอารักษ์ รวม 33 องค์ จากหอพระโพธิสัตว์ (観音堂 Kannon-dō) วัดนินนะจิ (仁和寺 Ninna-ji) เมืองเกียวโต
นิทรรศการนี้จัดแสดงภายในห้องหมายเลข 11 อนุญาตให้ถ่ายภาพได้ด้วยค่ะ แต่ห้ามใช้แฟลช ถือว่าเป็นกรณีพิเศษมากเพราะถ้าไปที่วัดจะห้ามถ่ายรูปเด็ดขาด
ภายในห้องมืดๆ ส่องไฟเน้นรูปสลักให้บรรยากาศน่าเคารพศรัทธา องค์พระโพธิสัตว์ปางประทับยืนอยู่ตรงกลางเป็นพระประธาน ขนาบซ้ายขวาด้วย พระอจลนาถ (不動明王 Fudō Myōō) และพระไตรโลกยวิชัย (降三世明王 Gozanze Myōō) เป็นรูปแบบที่พบได้ไม่บ่อยนัก รอบข้างรายล้อมด้วยยี่สิบแปดเทพอารักษ์ (二十八部衆 Nijūhachibu-shu) รวมทั้ง เทพวายุ (風神 Fūjin) และเทพอัสนี (雷神 Raijin) แต่ละองค์สร้างขึ้นในสมัยเอโดะราวคริสต์ศวรรษที่ 17
ขอแนะนำว่า นักท่องเที่ยวสายวัฒนธรรมไม่ควรพลาดพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ค่ะ เคยมาแล้วก็มาอีกได้ เพราะมีนิทรรศการดีๆ ผลัดเปลี่ยนมาจัดแสดงเรื่อยๆ
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติคิวชู
• เปิดทำการทุกวันยกเว้นวันจันทร์ (ถ้าวันจันทร์ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์จะเลื่อนปิดทำการในวันอังคาร)
• เวลาทำการ 09.30 – 17.00 น. (เข้าชมก่อน 16.30 น.) โดยวันศุกร์และวันเสาร์ยืดเวลาปิดไปจนถึง 20.00 น. (เข้าชมก่อน 19.30 น.)
• ค่าเข้าชม 440 เยนสำหรับผู้ใหญ่ สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีและผู้ใหญ่อายุมากกว่า 70 ปีเข้าชมฟรี โดยแสดงบัตรแสดงตนที่ระบุวันเดือนปีเกิด เช่น พาสปอร์ต
• ตรวจสอบวันหยุดและตารางนิทรรศการใหม่ๆ ได้ที่ http://www.kyuhaku.jp/en
ป้าหมวยยยเดินชมนิทรรศการต่างๆ จนเย็นแล้วกลับไปเท็นจินเพื่อรับกระเป๋า แล้วขึ้นรถเมล์เดินทางไปท่าเรือฮาคาตะฟุโต (博多埠頭 Hakata Futō) เพื่อเตรียมขึ้นเรือเฟอร์รี่ไปหมู่เกาะโกโต้ค่ะ
การเดินทางจากท่าเรือฮาคาตะฟุโต จากเท็นจิน ขึ้นรถเมล์สาย 90 ที่ป้าย 2A หน้าอาคาร Tenjin Solaria Stage 2 หรือจากสถานีรถไฟฮาคาตะ ขึ้นรถเมล์สาย 99 ที่ป้าย F หน้าธนาคาร Nishi Nippon City Bank เยื้องห้าง Kitte หน้าสถานีรถไฟ ลงสุดสายที่ Bayside Place Hakata ทั้งสองเส้นทาง
ขอแนะนำเบื้องต้นเกี่ยวกับหมู่เกาะโกโต้และการเดินทางก่อนสักเล็กน้อยนะคะ
หมู่เกาะโกโต้ (五島列島 Gotō Rettō) ตั้งอยู่ทางตะวันตกของนางาซากิ ประกอบด้วยเกาะใหญ่น้อยถึง 140 เกาะ ในจำนวนนี้มีเกาะใหญ่ๆ 5 เกาะ ได้แก่ เกาะฟุคุเอะ (福江島 Fukue-jima), เกาะฮิซากะ (久賀島 Hisaka-jima), เกาะนารุ (奈留島 Naru-shima), เกาะวาคามัตสึ (若松島 Wakamatsu-jima), และเกาะนาคาโดริ (中通島 Nakadōri-jima) และมีเกาะขนาดรองลงมา ได้แก่ เกาะโอจิกะ (小値賀島 Ojika-jima) และ เกาะอุคุ (宇久島 Uku-jima)
ป้าหมวยยยวางแผนเที่ยวหมู่เกาะโกโต้ครั้งนี้โดยเริ่มต้นจากเกาะที่เจริญที่สุด คือ เกาะฟุคุเอะ ตอนป้าค้นหาข้อมูล พบว่ามีวิธีเดินทางจากแผ่นดินใหญ่ไปยังเกาะฟุคุเอะหลักๆ 2 วิธี คือทางอากาศและทางเรือ โดยเฉพาะทางเรือจะมีหลายเส้นทาง แต่ละเส้นทางใช้ประเภทเรือและมีจำนวนเที่ยววิ่งแตกต่างกัน ซึ่งมีผลกับเวลาเดินทางและค่าใช้จ่าย
การเดินทางจากฟุกุโอกะหรือนางาซากิสู่เกาะฟุคุเอะ
• นั่งเครื่องบินสายการบิน ANA จากสนามบินฮาคาตะไปลงที่สนามบินฟุคุเอะ (福江空港 Fukue Kūkō) ใช้เวลาเดินทาง 40 นาที ค่าใช้จ่ายเที่ยวละ 10,000 เยนขึ้นไป
• นั่งเครื่องบินสายการบิน ORC (Oriental Air Bridge) จากสนามบินนางาซากิไปลงที่สนามบินฟุคุเอะ ใช้เวลาเดินทาง 30 นาที ค่าใช้จ่ายเที่ยวละ 10,000 เยนขึ้นไป
• ขึ้นเรือเฟอร์รี่กลางคืนจากท่าเรือฮาคาตะ จังหวัดฟุกุโอกะไปยังท่าเรือฟุคุเอะ ใช้เวลา 8 ชั่วโมง 30 นาที ค่าใช้จ่ายขั้นต่ำประมาณ 5,000 เยน
• ขึ้นเรือเฟอร์รี่จากท่าเรือนางาซากิไปยังท่าเรือฟุคุเอะ (福江港ターミナル Fukue-kō Tāminaru) ใช้เวลา 3 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายประมาณ 2,500 เยน
• เรือเจ็ตฟอยล์ (Jet Foil) จากท่าเรือนางาซากิไปยังท่าเรือฟุคุเอะ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 25 นาที ค่าใช้จ่ายประมาณ 6,000 เยน
เมื่อคำนึงถึงสถานที่ออกเดินทาง เวลา และค่าใช้จ่าย ป้าหมวยยยจึงเลือกเดินทางด้วยเรือเฟอร์รี่เที่ยวกลางคืนจากท่าเรือฮาคาตะ เพื่อเป็นการประหยัดค่าที่พัก และลองสัมผัสประสบการณ์เดินทางด้วยเรือแบบค้างคืน นอกจากนี้เมื่อไปถึงท่าเรือปลายทางในตอนเช้าก็สามารถทำกิจกรรมท่องเที่ยวต่อได้ทันทีค่ะ
ค่าเดินทางด้วยเรือเฟอร์รี่จากฮาคาตะไปยังปลายทางที่เกาะฟุคุเอะคือ 4,840 เยนสำหรับผู้ใหญ่หนึ่งคน แต่ป้าเลือกออฟชั่นเสริมคือ พักห้อง Twin เพื่อความเป็นส่วนตัวซึ่งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มห้องละ 5,000 เยน ซึ่งเมื่อแชร์กับเพื่อนแล้วตกคนละ 7,340 เยนค่ะ ห้องหรือเตียงส่วนตัวประเภทต่างๆ บนเรือเต็มค่อนข้างเร็ว ต้องรีบจองแต่เนิ่นๆ ป้าจองวันแรกๆ ที่รับจอง (จองล่วงหน้าได้หนึ่งเดือน) ผ่านไปเพียงวันเดียว ห้อง Twin ทั้ง 16 ห้องก็ถูกจองเต็มหมดแล้ว
กลับมาที่ท่าเรือฮาคาตะฟุโตนะคะ ส่วนหน้าของท่าเรือฮาคาตะฟุโตเป็นพลาซ่าที่เรียกว่า Bayside Place Hakata (ベイサイドプレイス博多) มีร้านขายสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร มีโรงอาบน้ำแร่ออนเซ็น และ Hakata Port Tower ให้ขึ้นไปชมวิวได้ฟรี
ป้ามาถึงก็เย็นย่ำ บางส่วนปิดทำการแล้วเลยไม่ได้เดินชมอะไรมาก ป้าเข้าไปอาบออนเซ็นที่ “มินาโตะออนเซ็น นามิฮะ โนะ ยุ” (みなと温泉 波葉の湯 Minato Onsen Namiha no Yu) เพื่ออาบน้ำล้างตัวและผ่อนคลาย ค่าบริการ 800 เยน (วันเสาร์ อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 850 เยน) สำหรับผู้ใหญ่ ค่าเช่าผ้าขนหนูผืนใหญ่และผืนเล็ก 200 เยน แล้วทานอาหารค่ำในภัตตาคารที่อยู่ในอาคารเดียวกัน
ท่าเรือฮาคาตะฟุโตมี 2 เทอร์มินัล เทอร์มินัล 1 อยู่ตรง Bayside Place เป็นท่าเรือสำหรับเดินทางไปเกาะใกล้เคียงของจังหวัดฟุกุโอกะ และเทอร์มินัล 2 อยู่ด้านใน เป็นท่าเรือสำหรับเดินทางไปเกาะที่ห่างออกไป ได้แก่ เกาะอิคิ (壱岐島 Iki no shima), เกาะทสึชิม่า (対馬島 Tsushima no shima) และหมู่เกาะโกโต้
ป้าหมวยยยนัดเพื่อนไว้ตอนเวลาประมาณ 3 ทุ่มที่อาคารเทอร์มินัล 1 เพื่อรับตั๋วขึ้นเรือของ บริษัทโนโมะโชเซ็น (野母商船 Nomo Shōsen) ที่ป้าได้ทำการจองผ่านเว็บไซต์ http://www.nomo.co.jp/taiko มาก่อน 1 เดือนล่วงหน้าแล้ว โดยยังไม่มีการตัดยอดบัตรเครดิตจนกว่าจะมีการออกตั๋ว การจองผ่านเว็บไซท์ต้องกรอกข้อมูลเป็นภาษาญี่ปุ่น หรือสามารถจองผ่านเอเยนต์ JTB ในไทยโดยเสียค่าบริการเพิ่มเติม
สำรวจเรือไทโกะ
เรือเฟอร์รี่ที่นำพวกเราเดินทางไปหมู่เกาะโกโต้ลำนี้มีชื่อว่า “ไทโกะ” (太古 Taiko) มีระวางขับน้ำ 1,598 ตัน ความเร็วในการเดินเรือสูงสุด 19 น็อต (35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) รองรับผู้โดยสาร 350 คน มีพื้นที่ใต้ท้องเรือสำหรับบรรทุกสินค้าและรถยนต์
เรือเฟอร์รี่ Taiko มีพื้นที่สำหรับผู้โดยสาร 2 ชั้น
• ชั้น 1 เป็นพื้นที่ Common area แยกชายหญิง, ห้องพักผ่อน, ร้านขายของที่ระลึก, ห้องน้ำรวม, ห้องอาบน้ำชาย/หญิง (ไม่มีเครื่องใช้ในห้องน้ำให้บริการ เช่าผ้าขนหนูได้ที่ Information Desk), ห้องเด็กเล่น, ตู้ขายอาหารและเครื่องดื่มอัตโนมัติ, ที่นั่งรับประทานอาหาร นอกจากนี้ยังมีห้อง slot machine และห้องสูบบุหรี่ด้วย
• ชั้น 2 เป็นพื้นที่เฉพาะผู้ที่จองห้องพักหรือเตียงส่วนตัว ประกอบด้วยห้อง Suite, ห้อง Twin, ห้อง Family, ห้องรวม 4 เตียงส่วนตัว, ห้องรวมปูฟูกแบบญี่ปุ่น และห้องน้ำรวม
ผู้โดยสารสามารถรับตั๋วที่เคาท์เตอร์ได้ตั้งแต่ 21.00 น. และขึ้นเรือได้ตั้งแต่เวลา 21.45 น. ป้าหมวยยยขึ้นเรือและสำรวจสถานที่ต่างๆ จนเรือออกจากท่าเวลา 23.45 น.
มาชมภาพกันดีกว่าค่ะ
สำหรับผู้ที่ชอบสะสมตราประทับสถานที่ต่างๆ บนเรือจำหน่ายชุดคู่มือแสวงบุญเกาะโกโต้ (五島巡礼手帳 Gotō Junrei Techō) ซึ่งประกอบด้วยสมุดสะสมตราประทับของโบสถ์และสถานที่เกี่ยวข้องทั้ง 53 แห่งบนเกาะโกโต้ แผนที่แนะนำโบสถ์บนเกาะโกโต้ ในเมืองนางาซากิ ฮิราโดะ และซาเซโบะ ราคาชุดละ 1,200 เยน ถ้าสะสมตราประทับได้ครบ 53 ดวงแล้วส่งสำเนาไปยังสำนักงานอัครสังฆมณฑลนางาซากิ จะได้รับใบประกาศณียบัตรรับรองการแสวงบุญ
ป้าหมวยยยซื้อชุดคู่มือนี้มาด้วย แม้จะการจะสะสมตราประทับให้ครบคงยากที่จะเป็นไปได้ เพราะข้อจำกัดในการเข้าถึงหลายสถานที่ อย่างน้อยก็ได้สะสมและได้ข้อมูลสถานที่ต่างๆ ค่ะ
ป้าตั้งเวลาตื่นตอนเช้าเพื่อชมวิว เมื่อออกมาจากห้อง พบว่าผู้โดยสารจำนวนไม่น้อยทยอยลงจากเรือตามท่าต่างๆ ไปแล้ว เหลือเพียงจำนวนหนึ่งที่จะลงปลายทางเกาะฟุคุเอะ นอกจากขึ้นไปชมวิวพระอาทิตย์และหมู่เกาะต่างๆ บนดาดฟ้าแล้ว จึงสามารถเดินสำรวจพื้นที่ว่างบางส่วนได้
7 โมงกว่า อีกไม่ถึงชั่วโมงก็ถึงที่หมาย เกาะฟุคุเอะ ป้าหมวยยยกับเพื่อนออกมาหาของกินที่มุมตู้ขายอาหารเครื่องดื่มอัตโนมัติภายในเรือ มีประมาณ 6-7 ตู้ มีตู้ขายเครื่องดื่มบรรจุขวด ตู้ขายกาแฟและโกโก้ร้อน ตู้ขายขนมขบเคี้ยว ตู้ขายไอศครีม Häagen Dazs ตู้ขายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ตู้ขายอาหารสำเร็จรูปอุ่นร้อน เป็นต้น
เรือ Taiko เดินทางถึงท่าเรือฟุคุเอะตามเวลา 8:15 น. ป้ามีกำหนดเข้าร่วมทัวร์ท่องเที่ยวที่จองไว้ตอน 09.10 น. จึงมีเวลาสักพักในการเดินชมสถานที่เล็กน้อยค่ะ
ตอนหน้า ป้าหมวยยยจะพาไปขึ้นรถลงเรือกับทัวร์ชมโบสถ์มรดกโลกปี 2018 บนเกาะฮิซากะและเกาะนารุกันค่ะ ติดตามกันให้ได้นะคะ
เรื่องแนะนำ :
– แลมรดกโลก : มรดกคริสตังลับแห่งนางาซากิและอามาคุสะ ตอนที่ 5
– แลมรดกโลก : มรดกคริสตังลับแห่งนางาซากิและอามาคุสะ ตอนที่ 4
– แลมรดกโลก : มรดกคริสตังลับแห่งนางาซากิและอามาคุสะ ตอนที่ 3
– แลมรดกโลก : มรดกคริสตังลับแห่งนางาซากิและอามาคุสะ ตอนที่ 2
– แลมรดกโลก : มรดกคริสตังลับแห่งนางาซากิและอามาคุสะ ตอนที่ 1
ข้อมูลจาก
http://www.kyuhaku.jp
http://port-of-hakata.city.fukuoka.lg.jp/guide/ferry/index.html
http://www.baysideplace.jp/
http://www.nomo.co.jp/taiko/