ปัจจุบันการให้บริการรถบัสในรูปแบบใหม่นี้ (My Flora Bus) ได้เปิดให้บริการและกำลังเป็นที่นิยม ใน 3 เส้นทางใหญ่ๆ ที่เข้าออก Tokyo คือ เส้นทางตะวันออกเฉียงเหนือ (Tohoku : 東北) : Aomori (青森), สายตะวันตกของ Tokyo (Hokuriku:北陸): Toyama (富山) และสายเกาะ Shikoku (四国): Tokushima (徳島)
สำหรับใครที่มีโอกาสได้ไปเยือนประเทศญี่ปุ่นกับบริษัททัวร์ต่างๆ ของบ้านเรา น่าจะได้มีประสบการณ์ในการนั่งรถบัสของประเทศญี่ปุ่นกันใช่ไหมค่ะ เรื่องของความปลอดภัยนั้นหายห่วง คนขับรถก็มารยาทดี มีวินัยในการขับขี่ ทำให้การนั่งรถบัสไปยังที่ต่างๆ ของญี่ปุ่น ไม่ทำให้เราต้องกังวลกับสิ่งต่างๆ รอบตัวมากนัก ตัวรถก็ค่อนข้างนั่งสบาย สะอาดสะอ้าน ขนาดของรถก็มีมากมายสามารถเลือกให้เหมาะสมกับปริมาณของผู้เดินทางได้ง่ายๆ ดังนั้นการใช้รถบัสเป็นพาหนะในการเดินทางของประเทศญี่ปุ่นนั้นก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ารถไฟ หรือพาหนะอื่นๆ แต่อย่างใด
แต่ช่วงหลังๆ เนื่องจากราคาน้ำมันที่แพงขึ้น บวกกับค่าแรงของคนขับรถที่สูงขึ้นตามค่าครองชีพ (ค่าแรงของคนขับรถถือเป็น 70% ของต้นทุนทั้งหมดสำหรับบริษัทใหญ่ๆ และเป็น 50% สำหรับบริษัทเล็กๆ ตามต่างจังหวัด) ทำให้ต้นทุนของธุรกิจประเภทนี้สูงขึ้น โดยเฉพาะการเดินทางด้วยรถบัสในเส้นทางสั้นๆ เนื่องจากรายรับที่ได้มาจากการขายบัตรโดยสารไม่คุ้มกับค่าแรงของคนขับนั่นเอง ทำให้ไม่มีกำไรส่วนต่างที่จะนำมาใช้ในการปรับสภาพรถหรือบริการให้แข่งขันกับการคมนาคมประเภทอื่นๆ ได้
แต่ถ้าเป็นการเดินทางด้วยรถบัสในเส้นทางๆ ยาวๆ ด้วยต้นทุนค่าแรงของพนักงานขับรถที่จะต้องจ่ายในอัตราเดียวกันแล้ว การปรับปรุงภาพลักษณ์ของรถบัสที่นำมาใช้ให้บริการแก่ลูกค้าใหม่ ให้สะดวกสะบาย หรูหรา ไม่แพ้การเดินทางด้วยรถไฟ หรือเครื่องบินแล้วล่ะก็น่าจะแรงดึงดูดให้ลูกค้าหันมาสนใจใช้บริการนี้อย่างคึกคักได้อีกครั้ง
ปัจจุบันการให้บริการรถบัสในรูปแบบใหม่นี้ (My Flora Bus) ได้เปิดให้บริการและกำลังเป็นที่นิยม ใน 3 เส้นทางใหญ่ๆ ที่เข้าออก Tokyo คือ เส้นทางตะวันออกเฉียงเหนือ (Tohoku : 東北) : Aomori (青森), สายตะวันตกของ Tokyo (Hokuriku:北陸): Toyama (富山) และสายเกาะ Shikoku (四国): Tokushima (徳島)
วันนี้ขอแนะนำรถบัส 3 แบบ 3 สไตล์ ที่ใช้ใน 3 เส้นทางมาให้ดูกัน ตามมาเลยค่ะ
เส้นทางที่ 1 Tokushima (徳島) – Tokyo (東京) เริ่มให้บริการมาตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ใช้ชื่อว่า “My Flora” เป็นรถบัสที่มีความหรูหรามาก ฉีกรูปแบบรถบัสแบบเดิมๆ ไปเลย มีเพียง 12 ที่นั่งเท่านั้น เบาะนั่งที่ใช้เทียบเท่ากับเบาะนั่งที่ใช้ในชั้น Business Class ของเครื่องบิน คือกว้าง 80 cm ปรับเอนได้ 155 องศา สำหรับผู้ชายที่สูงประมาณ 180 cm ก็สามารถนั่งได้อย่างสบายๆ หลังจากที่นำรถบัสรูปแบบนี้มาให้บริการ ก็ได้รับเสียงตอบรับดีเกินความคาดหมาย ยอดจองผ่านทางอินเตอร์เนตสูงขึ้นถึง 5 เท่า และยอดผู้โดยสารที่ใช้บริการก็สูงขึ้นกว่าที่ผ่านมาถึง 20% ในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ ก็มีแผนที่จะนำเข้ารถบัสใหม่นี้อีก 2 คัน สำหรับค่าโดยสารก็อยู่ที่ 12,000 เยน ใช้ระยะเวลาในการเดินรถประมาณ 10 ชั่วโมง
เส้นทางที่ 2 Aomori (青森) – Tokyo (東京) เริ่มให้บริการมาตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมาเช่นกัน ใช้ชื่อว่า “Azumashiito” (あずましーと) สำหรับ “Azumashiito” มีกลุ่มอายุของลูกค้าเป้าหมายเป็นวัยกลางคนจนถึงผู้สูงวัย ดังนั้นการออกแบบตัวรถหรือที่นั่งก็จะเน้นแนวร่วมสมัย คือฟังก์ชั่นการใช้งานที่ทันสมัยแต่ยังคงกลิ่นอายญี่ปุ่นอยู่ รถคันนี้มี 3 แถวๆ ละ 6 ที่นั่ง รวมทั้งคัน 18 ที่นั่ง ค่าโดยสารมี 2 ราคา คือ ถ้าเลือกที่นั่งขนาดความกว้าง 50 cm. ค่าโดยสารอยู่ที่ 7,500 เยน ที่นั่งขนาดความกว้าง 75 cm ค่าโดยสารจะอยู่ที่ 8,500 เยน ระยะเวลาในการเดินรถประมาณ 9 ชั่วโมง 30 นาที
เส้นทางที่ 3 Kanazawa・Toyama (金沢・富山) – Tokyo (東京) เริ่มให้บริการมาตั้งแต่เดือนเมษายน มีชื่อว่า “Dolphin Line” (ドルフィンライナー) เป็นรถบัสทีมีรูปแบบการวางที่นั่งเหมือนรถบัสทั่วไป แต่จะปรับให้ที่นั่งคู่แต่ละที่ใช้งานเป็นที่นั่งเดี่ยว ช่วงท้ายรถก็จะปรับเป็นห้องน้ำขนาดใหญ่ สำหรับรถประเภทนี้ 70% ถูกออกแบบมาเพื่อเอาใจลูกค้าผู้หญิงเป็นหลัก สำหรับค่าโดยสารก็อยู่ที่ 8,500 เยน ใช้ระยะเวลาในการเดินรถประมาณ 9 ชั่วโมง
เป็นไงบ้างค่ะ คนญี่ปุ่นนี่ช่างคิด ช่างพัฒนากันจริงๆ เลย เมื่อไหร่บ้านเราจะมีรถแบบ My Flora Bus ใช้บ้างน้า แต่สำหรับบ้านเราแล้ว การพัฒนาทักษะ และจิตสำนึกของพนักงานขับรถเป็นสิ่งแรกที่ต้องเร่งพัฒนากันก่อนดีกว่า ว่าไหมค่ะ
เรื่องที่เกี่ยวข้อง >>
– เที่ยวโตเกียว : Keisei Line (Narita Airport-Tokyo)
– KANAZAWA เมืองปราสาทแห่งจังหวัด Ishikawa
– เที่ยวโตเกียว : Shimokitazawa
– 10 อันดับของฝากยอดนิยมในญี่ปุ่น
– เที่ยวโตเกียว : remm Hibiya Hotel
#My Flora Bus