โครงการ “Mottainai Action” ช่วยลดส่วนสูญเสียที่ต้องทิ้งอาหาร โดยบริษัทได้มุ่งไปที่อาหารที่จะถูกทิ้งทั้ง ๆ ที่ยังคงรับประทานได้ มาปรุงเป็นอาหารที่น่ารับประทานในร้านอาหาร 4 แห่งในโตเกียวซึ่งเสิร์ฟอาหารต่างกัน
ประเทศญี่ปุ่นตั้งมาตรฐานด้านอาหารไว้สูงมาก ไม่ว่าจะเป็นซูชิ ขนมหวาน ผลไม้ หรือสลัด จนมีคนกล่าวว่า “คนญี่ปุ่นรับประทานด้วยตา” เพราะอย่างนั้นนั่นเองทำให้มีอาหารที่ขนาด สี หรือรูปร่างไม่สมบูรณ์แบบต้องถูกโยนทิ้งไป
กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงญี่ปุ่นบอกว่ามีขยะจากอาหารถึง 18 ล้านตันต่อปี และจำนวน 5-8 ล้านตันก็มาจากอาหารที่ถูกทิ้งทั้งที่ยังรับประทานได้ด้วยเหตุผลง่าย ๆ เพียงว่า “ไม่ได้มาตรฐาน” จำนวนอาหารที่ถูกทิ้งด้วยเหตุผลนี้มีปริมาณมากพอๆกับปริมาณอาหารที่ใช้ช่วยเหลือคนอดยากทั่วโลกเลยทีเดียวนะคะ
บริษัท A- Dot Company ซึ่งตั้งอยู่ที่โตเกียวจึงได้ตั้งโครงการ “Mottainai Action” เพื่อช่วยลดส่วนสูญเสียที่ต้องทิ้งอาหารเหล่านี้ โดยบริษัทได้มุ่งไปที่อาหารที่จะถูกทิ้งทั้ง ๆ ที่ยังคงรับประทานได้ด้วยเหตุผลเช่น มีตำหนิ มีรอยด่างพร้อย ผิดรูป มีขนาดเล็กหรือใหญ่กว่ามาตรฐานของร้านค้าใหญ่ ๆ โดยนำอาหารที่กำลังจะถูกทิ้งเหล่านี้มาปรุงเป็นอาหารที่น่ารับประทานในร้านอาหาร 4 แห่งในโตเกียวซึ่งเสิร์ฟอาหารต่างกัน
อาหารที่ร้านอาหารทั้ง 4 แห่งนี้นำมาปรุงก็นำมาจากเกษตรกร โรงงานอาหาร คนขายปลาที่เป็นคู่ค้ากับร้านเพื่อขายสินค้าที่มาตรฐานสูงไม่พอที่จะไปโชว์ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตได้ ธุรกิจนี้มีประโยชน์หลายข้อคือสามารถใช้อาหารที่กำลังจะถูกทิ้งมาใช้เป็นประโยชน์สูงสุด สร้างรายได้ให้กับผู้ขาย ลูกค้าได้รับประทานอาหารอร่อย ๆ ราคาไม่แพงและยังมีส่วนช่วยตอบแทนสังคมด้วยการลดปริมาณอาหารเหลือทิ้งอีกด้วย
• Mottainai Farm Radice
เป็นร้านอาหารในตอนกลางวันและเป็นบาร์ในตอนกลางคืน โดยอาหารที่ขายโดยมากจะปรุงมาจากผัก โดยการเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่ขายไม่ได้จากเกษตรกรท้องถิ่นมาเป็นอาหารและเครื่องดื่มที่อร่อย เช่น บรู-สเก็ต-ต้า หรือขนมปังอิตาเลี่ยนปิ้ง ชุ่มด้วยน้ำมันมะกอก เสิร์ฟพร้อมกระเทียมและมะเขือเทศ ในราคาเพียง 500 เยน ผักทอดเทมปุระในราคา 800 เยน ชีสต์ฟองดูราคา 1,280 เยน ทิรามิสุอโวคาโดราคา 700 เยน หรือเครื่องดื่มน้ำผลไม้ที่เสิร์ฟในเวลาอาหารเย็นโดยแบ่งเป็น 5 ประเภทคือ เพื่อความงาม เพื่อความสดชื่น แก้ท้องผูก ขับสารพิษ และแก้เมา ร้านยังเปิดให้ลูกค้าและคนทั่วไปได้เดินชมผักสด ผลไม้ ถั่วต่างๆและไวน์
• Uoharu
จะเน้นอาหารทะเลที่นำมาจากตลาดทสึกิจิ อาหารทะเลที่นำมาก็จะคล้าย ๆ กรณีผักนั่นก็คือ ขนาดเล็กหรือใหญ่กว่าปกติ หรือไม่ก็โดนตัดหางขาด อาหารที่ Uoharu ได้แก่ ซาซิมิ ปลาอบ ฯลฯ ในราคาเริ่มต้นเพียง 290 เยน
• Tashiten-maru
ซึ่งเป็นร้านที่เพิ่งเปิดเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เป็นร้านที่เป็นบาร์แบบยืน โดยนำวัตถุดิบมาจากจังหวัดชิมาเนะ (Shimane) และ ทตโตริ (Tottori) จานเด็ดของร้านนี้ก็คือ เทมปุระปลา ชื่อว่า “babaa” ในราคาเพียง 180 เยนต่อชิ้น เป็นปลาท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยคอลลาเจนซึ่งไม่ค่อยมีใครนำมาขายในร้านใหญ่ ๆ อีกเมนูก็คือขาปู ราคา 300 เยนที่ขนาดเล็กกว่ามาตรฐาน
• Omagase
เป็นร้านอาหารระดับสูงและต้องจองถึงจะรับประทานได้ ร้านนี้จะเสิร์ฟอาหารแบบฟูลคอร์สเมนู รวมถึง ปูคุณภาพดี ตับห่านฟัว กราส์ (Foie Gras) เนื้อวากิว และอาหารแสนแพงอื่น ๆ ที่วัตถุดิบมาในรูปที่ไม่สมบูรณ์แบบมากนักเช่นกันค่ะ
ถึงแม้โครงการนี้อาจยังเริ่มมาไม่นานมาก ทำให้ยากที่จะประเมินว่าโครงการประสบความสำเร็จในการลดส่วนสูญเสียของอาหารหรือไม่ แต่การไปรับประทานในร้านอาหารแบบนี้บ่อยๆก็จะมีส่วนช่วยเหลือโครงการดี ๆ แบบนี้ สิ่งที่ยืนยันได้ทันทีก็คือผัก อาหารทะเล และผลไม้ที่กำลังจะถูกทิ้งเหล่านี้มีรสชาติดีจริง ๆ จนต้องสงสัยว่าจะนำไปทิ้งทำไมกันค่ะ
ติดตามอ่านเทคนิคการประสบความสำเร็จในหนังสือ “กัมบัตเตะเนะ เพราะความสำเร็จไม่มีทางลัด” ได้ที่ร้านหนังสือชั้นนำและพูดคุยกับผู้เขียนผ่านเพจ FB: Life Inspired by พิชชารัศมิ์
ทักทายพูดคุยกับพิชชารัศมิ์ ได้ที่ >>> Life Inspired by พิชชารัศมิ์
เรื่องแนะนำ :
– เรียนรู้ทักษะการทำงานจากซีรีย์ญี่ปุ่น
– การตายของพนักงานบริษัทเดนสึที่เกิดจากการทำงานหนักเกินไป
– ผลิตอะไรให้สิ่งนั้นตอบแทนสังคม
– เทคนิคการปรับความคิดพิชิตสำเร็จตามแนวทางนักปรัชญาญี่ปุ่น Nakamura Tempu
– ธนาคารอาหารญี่ปุ่น เก็บของเหลือเพื่อคนยาก
– หลักปฏิบัติ 6 เพื่อการขัดเกลาจิตวิญญาณของดร. คาซุโอะ อินาโมริ เทพแห่งการบริหารญี่ปุ่นที่ยังมีชีวิตอยู่
#Mottainai Action