มหัศจรรย์แห่งน้ำ…มากลั่นใจเราให้ใส สะอาด บริสุทธิ์ เพื่อเราจะมีสุขภาพดี มีความสุข และยังสามารถส่งกระแสคลื่นความสุขไปยังผู้คนรอบตัวกันเถอะค่ะ
หลายปีก่อนมีหนังสือที่ได้รับการกล่าวถึงมากมายชื่อว่า “มหัศจรรย์แห่งน้ำ คำตอบเพื่อชีวิตที่ดีกว่า (The hidden messages in water)” ซึ่งเขียนโดย ดร. มาซารุ เอโมโตะ นักวิจัยชาวญี่ปุ่น ดิฉันเพิ่งได้อ่านในรายละเอียดและพบความน่าสนใจที่อยากแบ่งปันกับผู้อ่าน
ดร. มาซารุ เอโมโตะได้ทำการทดลองให้น้ำฟังดนตรีประเภทต่างๆ แปะตัวหนังสือที่มีความหมายต่างๆ ที่ภาชนะใส่น้ำ วางภาชนะใส่น้ำบนรูปภาพ ฟังเสียงสวดมนต์ และการใส่ความคิดต่างๆลงในน้ำ หลังจากนั้นนำน้ำไปเข้าช่องแข็งและนำมาส่องดูผลึกด้วยกล้องจุลทรรศน์ ผลการทดลองคือ ผลึกของน้ำมีลักษณะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับว่าน้ำได้ยิน ได้เห็น หรือได้รับสารความนึกคิดในด้านดีหรือไม่ดี ได้แก่
• น้ำที่ได้ฟังดนตรีคลาสสิคของบีโธเฟ่นและโมสาร์ทจะเกิดผลึกที่งดงามวิจิตรเมื่อเทียบกับน้ำที่ได้ฟังเพลง Heavy Metal ที่เกรี้ยวกราดที่สร้างผลึกที่แลดูน่าสะพรึงกลัว
• น้ำที่ได้อ่านคำในแง่บวกที่แปะไว้ข้างกระปุก เช่น “รัก”“ขอบคุณ” “คุณสวย” “ความหวัง” สร้างผลึกที่คมชัดสวยงาม เมื่อเทียบกับผลึกที่ได้จากการอ่านคำแง่ลบ เช่น “ไอ้โง่” “สกปรก” “สงคราม” กลับดูอัปลักษณ์ยิ่ง โดยเฉพาะผลึกที่ได้จากคำว่า “รัก”“ขอบคุณ” นั้นสวยงามที่สุด
• ผลึกน้ำที่ได้จากการฟังเสียงสวดมนต์ และน้ำที่ได้รับคลื่นจากการส่งความปรารถนาดีเกิดผลึกที่งดงามมากเช่นกัน
• ยังมีการทำการทดลองอีกแบบ คือ การนำข้าวหุงสุกมาสามกระปุก ทุกๆวันอาสาสมัครจะพูดคำว่า “ขอบคุณ” ที่ข้าวกระปุกหนึ่ง อีกกระปุก พูดใส่ว่า “ไอ้โง่” อีกกระปุกทิ้งเอาไว้เฉยๆ เมื่อเวลาผ่านไป ข้าวที่ได้รับคำขอบคุณกลายเป็นสีเหลืองและส่งกลิ่นหอม ข้าวที่ได้ฟังคำด่าทุกวันกลายเป็นสีดำส่งกลิ่นเหม็นเน่า ส่วนข้าวที่ถูกทิ้งไว้เฉยๆก็เป็นสีเขียวเน่าเช่นกัน จะเห็นได้ว่า การถูกทอดทิ้งก็เป็นการเจ็บปวดพอๆกับการถูกทำร้าย
จากการอ่านผลการทดลองเหล่านี้ก็ตรงกับแนวคิดที่ดิฉันได้ศึกษามา
• ทุกอย่างล้วนเป็นพลังงานความสั่นสะเทือน ไม่เพียงแต่วัตถุที่มองเห็นด้วยตาเท่านั้น แม้แต่คำพูด ความคิด จิตใจ ความรู้สึก ล้วนเป็นพลังงานที่มีคลื่นและสามารถส่งกระแสไปยังผู้ส่งสารเอง และไปยังสิ่งต่างๆรอบตัว
ดังนั้นพุทธศาสนาจึงสอนให้ทำดีทั้ง กาย วาจา ใจ เพราะเพียงแค่เรามีความคิดเกิดขึ้นมา ก็เป็นส่งกระแสคลื่นพลังงานไปแล้ว และเป็นคำตอบว่าเหตุใด การทำความดี ละเว้นความชั่ว ยังไม่พอ แต่เรายังต้องหมั่นทำจิตใจให้บริสุทธิ์อยู่เสมอ
• ในร่างกายของคนเราประกอบด้วยน้ำ 70% ลองคิดดูนะคะว่าหากเราคิดไม่ดีทุกๆวัน คุณภาพของน้ำในตัวเราจะเป็นอย่างไร หากน้ำในตัวเป็นน้ำที่ไม่มีคุณภาพ โรคร้ายๆก็จะตามมา (มีหลายๆงานวิจัยพิสูจน์แล้วว่าโรคร้ายนานาชนิดเกิดมาจากความเครียดและจิตที่เศร้าหมอง)
• เราควรหลีกเลี่ยงการคบหาสมาคมกับคนที่มักพูดจาไม่ดี มองโลกในแง่ร้าย คิดลบ เพราะเขาเหล่านั้นจะส่งกระแสที่มัวหมองมายังเราเช่นกัน หรืออีกอย่างที่ต้องระวังก็คือ การรับสารทางลบที่มาจากข่าวสารรอบตัว เช่น ข่าวฆ่ากันตาย ข่าวความแตกแยก หรือละครที่มีแต่ฉากตบตีทะเลาะวิวาท ฯลฯ เพราะหากเรารับสารแบบนี้มากๆจิตใจเราจะพลอยแต่จะหม่นหมองไปด้วย
• คำชื่นชม คำอวยพร ความห่วงใยเอาใจใส่ ความรัก ความปรารถดีสามารถส่งต่อจากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งได้เช่นกัน การสวดมนต์ และการแผ่เมตตา เป็นการส่งความรักความปรารถนาดีในรูปของพลังงานได้ดียิ่ง
• อาจารย์วิปัสสนาของดิฉันสอนว่า เมื่อเรามีคลื่นพลังงานที่ดีก็จะดึงดูดสิ่งที่ดี คนที่ดี และเหตุการณ์ที่ดีเข้ามาในชีวิต ในทางตรงข้าม คนที่มักส่งคลื่นพลังงานไม่ดีผ่านทางความคิดและการกระทำก็มักจะเจอเรื่องร้ายๆอยู่เสมอ นั่นเป็นเพราะเรากำลังส่งกระแสคลื่นพลังงานไปยัง คน สิ่งของ และเหตุการณ์ที่มีพลังงานระดับเดียวกัน เหมือนกับการจูนคลื่นหาสัญญาณวิทยุค่ะ
มากลั่นใจเราให้ใส สะอาด บริสุทธิ์ เพื่อเราจะมีสุขภาพดี มีความสุข และยังสามารถส่งกระแสคลื่นความสุขไปยังผู้คนรอบตัวกันเถอะค่ะ
สามารถติดตามเรื่องราวแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจด้วยความรักในหนังสือ “Japan Success ธุรกิจสำเร็จได้ด้วยใจรัก” ตามแผงหนังสือชั้นนำ และ สามารถพูดคุยสื่อสารกับพิชชารัศมิ์ได้ที่ FB: Life Inspired by พิชชารัศมิ์
เรื่องแนะนำ :
– ทำไม Kitkat ถึงได้ฮิตในญี่ปุ่น
– ตู้กดสารพัดสิ่ง สะท้อนสังคมญี่ปุ่น
– ความสุข (ในงาน) แท้จริง คือสิ่งใด
– Antenna Shops สินค้าเมืองไกล ที่หาได้ในเมืองหลวง ต้นแบบดีๆ จากญี่ปุ่น
– ความพยายามของญี่ปุ่นในการให้พนักงานทำงานน้อยลงและไม่ต้องเข้าออฟฟิศ
– ทัศนคติต่อการทำงานของคนญี่ปุ่นที่ต่างจากคนไทย